ข่าว > ข่าวดาราทั้งหมด > สัมภาษณ์ดารา

'นัท' อยู่วงการอย่างเข้าใจ ไม่ยึดติดชื่อเสียงเท่าความดี

19 ก.ย. 2559 11:36 น. | เปิดอ่าน 1522 | แสดงความคิดเห็น
แชร์หน้านี้ แชร์หน้านี้
 

 

อีกหนึ่งสาวเก่ง มากความสามารถที่เราอยากหาเวลานั่งพูดคุย คือ "นัท - มีเรีย เบนเนเดดตี้" เพราะช่วงชีวิตในวงการบันเทิงของเธอผ่านร้อน ผ่านหนาว มีชื่อเสียงที่ทั้งขึ้นและลงเป็นที่น่าสนใจว่าเธอดูแลประคองตัวเองให้คงอยู่ ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ได้อย่างไร วันนี้ "ดาวต่างมุม" จึงนัดสาวนัทมานั่งพูดคุยสบาย ๆ สิ่งที่เรียนรู้ตลอดชีวิตในวงการกว่า 28 ปี ตั้งแต่บทบาท นักร้อง นักแสดง ละครเวที ล่าสุดผู้จัดละครซีรีส์ "เจ้าเวหา" ทางช่องทรูโฟร์ยู ร่วมกับสามี อั้ม - อธิชาติ ชุมนานนท์ นั้นได้รับการตอบรับสองด้านที่น่าสนใจ รวมถึงคอนเสิร์ตจาก เอไทม์โชว์บิส อย่างคอนเสิร์ต "ล้านตลับ" ที่จะพาแฟนเพลงย้อนกลับไปในยุคที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของวงการเพลงไทยกับการรวมตัวของ 6 ศิลปินหญิงที่มียอดขายเทป 1 ล้านตลับเมื่อหลายสิบปีก่อน ในเดือน ต.ค. ที่จะถึงนี้เตรียมตัวไปถึงไหนบ้าง แฟน ๆ ติดตามในบทสัมภาษณ์ของนัทได้เลยค่า 

ที่มา: ดาวต่างมุม เดลินิวส์ / ภาพ: @myriabenedetti (IG)


วันที่พี่ฉอดติดต่อให้มาขึ้นคอนเสิร์ต "ล้านตลับ" รู้สึกยังไงบ้าง? 
นัทบอกตรง ๆ ตื่นเต้นมากค่ะ ดีใจไม่คิดว่าพี่ฉอดเขาจะคิดถึงคอนเซปต์ศิลปินที่ขายเทปได้ล้านตลับ (หัวเราะ) คือยุคนั้นเป็นแบบนี้ จริง ๆ ทำให้เรานึกถึงวันวานการขายอัลบั้มที่เป็นเทปได้ยอดล้านตลับนั้นยากมาก เพลงต้องเพราะ ฟังได้ทั้งอัลบั้ม แถมในคอนเสิร์ตยังได้แจมกับศิลปินอีก 5 ท่าน คือ พี่ติ๊นา - คริสติน่า, ใหม่ เจริญปุระ, โบ - สุนิตา, นิโคล เทริโอ และทาทา ยัง ที่เราเองก็เป็นแฟนคลับเหมือนกันจึงรู้สึกพิเศษมาก ขอบคุณที่ให้โอกาสเรา 6 คนมาเจอกัน ดีใจแทนแฟน ๆ ในยุค 90 ที่จะได้ร้องได้เต้น เพลงที่ชื่นชอบอีกครั้งค่ะ


ปีนี้ครบ 20 ปีที่นัทร้องเพลงมาด้วย? 
ใช่ค่ะ เร็วเหมือนกันนะคะ แต่นัทก็ชอบเวลาช่วงนั้นมาก เป็นยุคที่เพลงเพราะ ๆ เฟื่องฟู เรารู้สึกว่ามันมีคุณค่า ช่วงนั้นเราเพิ่งเริ่มเข้าวงการเพลงถึงจะแสดงหนังมาก่อน ในฐานะนักร้องก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีและสามารถประสบความสำเร็จได้ ถามว่านัทฝันอยากเป็นนักร้องไหม เด็ก ๆ ชอบ อยากเป็นนักร้อง แค่สมมุติตัวเองยืนร้องเพลง แต่ไม่คิดวันหนึ่งจะมายืนตรงนี้ได้ จนได้รับโอกาสจากแกรมมี่ที่ให้เรามาร้องเพลง "นาทีที่ยิ่งใหญ่" ของพี่ติ๊นา ในวิทยุของพี่ฉอดในฐานะนักแสดง จนมาร้องเพลงจริงจังอีกครั้งตอนเป็นแขกรับเชิญคอนเสิร์ต แบบ เบิร์ด เบิร์ด ตอน "อยากเห็นท้องฟ้า..เป็นอย่างในฝัน" แล้วพี่เต๋อ - เรวัต พุทธินันทน์ ก็ชวนเซ็นสัญญาเป็นศิลปินของค่ายแกรมมี่ ทำเพลงแนวอาร์แอนด์บี ที่ค่อนข้างใหม่สำหรับคนไทย มีเพลงแรก "อย่าทำ อย่าทำ" ชีวิตพลิกผันมาเป็นศิลปินเต็มตัว ทำยอดขายได้ล้านตลับเป็นความทรงจำที่ดีมากค่ะ (ยิ้ม)


บทเพลงของเรามีเนื้อเพลงที่สวย และแฟน ๆ จดจำเยอะเหมือนกัน? 
ใช่ค่ะ ขนาดเพลงช้าความหมายเศร้าก็ไม่ได้ตัดพ้อ เจ็บแสบ แต่เป็นแนวผู้หญิงเศร้าคนเดียว เหน็บพอน่ารัก ไม่ได้ใช้คำรุนแรงมาก แต่ก็มีเสน่ห์ในแบบของผู้หญิงอย่างเพลง "ขอโทษที่กวนใจเธอ" ซึ่งเป็นเพลงที่หลายคนชอบ นัทเองก็รักเพลงนี้ ซึ่งถือเป็นเพลงที่สร้างความสำเร็จของนัทในฐานะศิลปินจริง ๆ ด้วยค่ะ

 

 

จากนั้นเริ่มเปลี่ยนเส้นทางมางานแสดงเต็ม ๆ? 
จริง ๆ นัทจะร้องเพลงสลับเล่นละคร ยุคที่ต้องเป็นนักร้อง งานแสดงเราก็น้อยลง สลับมาออกอัลบั้มทั้งหมด 7 ชุด ภาพเป็นนักร้องจึงชัดกว่านักแสดง กระทั่งหลัง ๆ งานเพลงเราน้อยลงไม่ได้ทำเป็นอัลบั้มต่อ เราเลยรับงานแสดงมากขึ้น คนก็กลับมาจำภาพนักแสดงอีก แต่ใจจริงเราไม่ได้ทิ้งงานเพลงไปไหน ตอนนี้มีคุย ๆ ว่าอยากทำซิงเกิ้ลให้แฟน ๆ หายคิดถึงต้องรอติดตามค่ะ ส่วนงานละครก็เพิ่งเล่นคลับฟรายเดย์สั้น ๆ ที่เล่นแล้วชอบถึงไม่มีหลายตอน แต่มีคุณค่าที่เราได้ไปเล่นเป็นชีวิตของคนอื่นมีมุมบวกให้ประโยชน์กับชีวิตเราเช่นกันค่ะ


พอห่างงานเพลง รับงานแสดงน้อยลง แฟน ๆ ก็กลัวเราจะหายไปเหมือนกัน? 
งานเพลงห่างมา 4 ปีแล้ว แต่โดยรวมนัทไม่ได้หายไปไหน ไป อีเวนต์ของเราเรื่อย ๆ ไม่ได้มีอะไรบูมมาก มีละครเวทีบ้าง แต่หายงานละครที่เล่นเองไปปีกว่า กระทั่งมีละครที่เป็นผู้จัดเองอย่าง "เจ้าเวหา" ที่ทำให้เราไม่ค่อยรับละคร ทำให้จัดสรรเวลาค่อนข้างยาก อีกทั้งนัทต้องดูแลคุณแม่ที่ป่วยอยู่ ซึ่งท่านก็ทรง ๆ เหมือนเดิมมา 9 ปีอยู่ที่ รพ.ศิริราช การรับรู้ของแม่ไม่ได้มากเหมือนเมื่อก่อนเป็นไปตามกาลเวลา ทำให้เราต้องให้เวลาในการดูแลท่าน เพราะไม่รู้เราเหลือเวลาอยู่ด้วยกันนานแค่ไหน อีกทั้งเรามีครอบครัว และธุรกิจอื่น ๆ จริง ๆ ยุ่งมากถึงไม่ได้มีละครก็ตามค่ะ


ชีวิตในวงการ 20 กว่าปีมานี้เป็นคนหนึ่งที่มีความเปลี่ยนแปลงตลอด? 
ใช่ค่ะ จากนักแสดงมาเป็นนักร้อง แล้วก็สลับเป็นนักแสดงอีกครั้ง สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เราไม่ได้ยึดติด อยู่ในจุดที่รับกับการเปลี่ยนแปลงได้ทุกอย่าง นัทเป็นคนสบาย ๆ เรามีจุดยืนไม่วิ่งไปตามความเปลี่ยนแปลง พอมองจริง ๆ คนรู้จักเราจากสิ่งที่เราทำ นัทว่าไม่จำเป็นต้องมีงานให้เห็นตลอดแล้วจะถือว่าประสบความสำเร็จหรอก นัทผ่านจุดนั้นมาแล้ว จุดที่คนรู้จักมาก ๆ เลย วันนี้เราใช้ชีวิตสบาย ๆ ไปทำบุญไหว้พระ ไม่ต้องตั้งมั่นว่าเราคือสตาร์ตลอดเวลา กินไม่เหมือนคนอื่น ทุกคนเหมือนกันเพียงแต่ต้องใช้ชีวิตให้เข้าใจโลกเราจึงจะมีความสุข ที่สำคัญทุกวันนี้จะทำอะไรก็ได้รับการสนับสนุน ซึ่งมาจากการที่เราใช้ชีวิตไม่ประมาท วางตัวดี คนจึงเรารักในตัวตนที่แสดงออกจนปัจจุบันค่ะ


บางคนอยู่จุดสูงสุดแล้วค่อย ๆ แผ่วอาจจะรับความเปลี่ยนแปลงไม่ได้? 
นัทเชื่อว่าชีวิตมีขึ้นลงได้ตลอดนะ ถือว่าตัวเองโชคดีได้ทำอะไรหลากหลาย ผู้ใหญ่ให้โอกาส มีแฟนคลับรักเรา เราถึงได้ภูมิใจในตัวเราที่เป็นคนแบบนี้ ขอบคุณสิ่งต่าง ๆ ทั้งแง่บวกลบ หรือข่าวดีไม่ดี ทำให้เราเป็นเราทุกวันนี้สบาย ๆ ไม่ตกใจกับความเปลี่ยนแปลง นัทเองปีนี้ทั้งปีมีข่าวตลอดคงเพราะเรามาเป็นผู้จัดละครโปรเจคท์ ที่ทำก็ได้เรียนรู้จริง ๆ นัทมองว่าท้าทาย เป็นประสบการณ์ใหม่ ๆ ของนัทได้ให้เราฝึกแก้ไขปัญหาด้วย

 

 

สิ่งที่เรียนรู้จากการเป็นผู้จัดละครครั้งล่าสุดเป็นยังไงบ้าง? 
ได้อะไรเยอะมาก เรียนรู้ว่าเป็นธุรกิจหนึ่งที่เป็นศิลปะ ที่ต้องใช้ชีวิตกับคนหมู่มาก ไม่เหมือนตอนเราเป็นนักแสดง ซึ่งถูกห่อหุ้มดูแลจากคนอื่น จนมาเป็นผู้จัดเราเป็นคนที่ต้องไปห่อหุ้มคนทำงาน ก็เข้าใจหัวอกคนทำงานมากขึ้น แต่โชคดีเราไม่เคยดื้อตอนเป็นนักแสดงไง(ยิ้ม) หน้าที่เราต่างกัน แต่ก็ต้องให้เกียรติไม่ทำให้เขาวุ่นวาย แต่วันที่เป็นผู้จัดเราต้องรับผิดชอบความรู้สึกของคนอีกเยอะก็เอาตรงนั้นมาปรับใช้ค่ะ


ผลงานซีรีส์ที่ออกไปเราพอใจกับมันมากแค่ไหน? 
พอใจในระดับหนึ่งนะคะ งานทุกอย่างไม่มีคำว่าสมบูรณ์หมดแน่นอนค่ะ เราถือว่าเราทำดีที่สุดแล้ว ทุกอย่างมีเงื่อนไขของมันหมด ผ่านมาได้เราก็พอใจ แต่ก็เก็บจุดบกพร่องมาเป็นบทเรียนเพื่อพัฒนางานในโอกาสต่อไป ก็ยอมรับว่ามีปัญหาที่ต้องแก้ไขที่มากมาย แฟน ๆ บางคนบอกชอบ บางคนบอกไม่โอเค ถูกทั้งสองอย่าง แต่เรารู้ดีไม่มีอะไรดีตั้งแต่แรก ก็ขอเรียนรู้เพิ่มในโอกาสต่อไป จากนี้ไปก็เดินหน้าต่อไป ไม่ได้มองว่าอุปสรรคต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นอย่างที่รู้กันจะมาบั่นทอน จนเราสองคนถอดใจไม่ทำต่อ ก็ยังต้องทำต่อแต่จะเป็นแบบไหนต้องติดตามต่อไปค่ะ


การบริหารจิตใจเมื่อเจอข่าวดีและไม่ดีรับมือยังไงบ้าง? 
นัทไม่เคยเจออะไรร้ายมาก ๆ มีบ้างที่ท้อ แต่ไม่เคยไม่รักวงการ เพราะวงการบันเทิงให้อะไรในชีวิตเรามาก นัทจึงเรียนรู้ที่จะอยู่วงการให้ดี เชื่อว่าใครก็มาทำร้ายอะไรเราไม่ได้ ถ้าเรามั่นใจว่าเราทำดี ทำถูกต้อง ความดีตรงนี้จะเป็นเกราะป้องกันแน่นอน เดี๋ยวทุกอย่างก็ผ่านไป แล้วนัทเชื่อในหลักธรรมคำสอน หากคนเรารู้จักเรียนรู้ที่จะอยู่ในศีลธรรม สังคมคงไม่วุ่นวายและเข้าใจกันมากขึ้น ไม่มีคนคิดเบียดเบียนกันให้ใครต้องเจ็บตัว แต่สิ่งแย่ ๆ ที่เข้ามาให้แก้ไข ก็เป็นบทเรียนให้ชีวิตต่อไปค่ะ


หลายคนมองเราเป็นตัวอย่างที่ดีของคนที่อยู่ในวงการรู้สึกยังไง? 
ขอบคุณมากค่ะ (ยิ้ม) อย่างที่บอกว่าเราดูแลตัวเอง ทำงานมาตั้งแต่เด็ก ๆ เจอคนมาหลากหลาย ฟังผู้ใหญ่สอนมาก็เชื่อว่าจริงอย่างที่เขาพูดว่าถ้าเราปฏิบัติตัวดี ต้องเจอสิ่งที่ดีแน่นอน แล้วมันได้ดีจริง ๆ นะคะ ถึงนัทจะเคยงอแง หรือไม่อยากทำงานบ้าง แต่ข้อดีคือถ้าเราผ่านมาได้ มันก็กลายเป็นการฝึกความอดทน เรียนรู้การอยู่กับคน ถ้าผ่านจุดนี้มาได้ทำอะไรก็ได้ทั้งหมดจริง ๆ

 

 

ความรัก และครอบครัว ณ ปัจจุบันเป็นยังไงบ้าง? 
ทุกวันนี้ชีวิตครอบครัวดีมาก แต่คนถามบ่อยที่สุดคือเรื่องมีลูก เราก็ตอบไม่ได้ว่าเมื่อไหร่ นัททำมาทุกวิถีทางแล้ว แต่เราไม่ใช่คนเลือก เป็นข้างบนเลือกให้เรานัทเชื่ออย่างนั้น มันเป็นเรื่องของโชคชะตา ฟ้าลิขิตด้วย ธรรมชาติจะเป็นคนตัดสินเองเมื่อถึงเวลา หรือถ้าไม่เกิดขึ้นนัทก็โอเค ใช้ชีวิตในแบบของเราอย่างมีความสุข ถ้ามองตามพุทธศาสนา ถ้ามีลูกก็มีทั้งสุขและทุกข์ ฉะนั้นหากไม่มีลูกก็ไม่มีตรงนั้น สิ่งที่นัททำได้ตอนนี้คือต้องรับได้กับทั้งจะมีลูกหรือไม่มี เราก็ใช้ชีวิตของเราไป แม้อาจจะเหงาเพราะไม่มีของขวัญมาให้ สุขทุกข์ไปคนละแบบ วันนี้ตั้งตัวเองไว้ตรงกลางดีกว่า และถ้ามีวันที่น้องมาเราคงจะได้ร่วมดีใจไปด้วยกันค่ะ


ตอนนี้เลี้ยงน้องฟ้าโปรดมาเป็นของขวัญไปก่อน? 
ใช่ค่ะ น้องฟ้าโปรดเป็นลูกของผู้จัดการของนัทเอง เราก็ได้ซ้อมเลี้ยงลูกไป เราเหมือนเป็นแม่ทูนหัวให้น้อง ไม่ได้อุปการะเป็นลูกบุญธรรมเอามาอยู่ด้วย เพราะน้องก็มีพ่อแม่ มีเวลาก็ไปเจอ ไปเลี้ยง ดูแลกันไปก็มีความสุขในแบบครอบครัวค่ะ


ชีวิตคู่กับ อั้ม - อธิชาติ ปีนี้เข้าสู่ปีที่ 2 แล้วเป็นยังไงบ้าง? 
การเป็นชีวิตคู่ จุดที่เป็นสามีภรรยากันมันก็แน่นแฟ้นขึ้น เราแชร์กันได้ทุกอย่าง อั้มเป็นทุกอย่างสำหรับเรา มีเหตุผล ใจเย็น เป็นผู้ใหญ่ รู้จักเราดีที่สุดแล้วเข้าใจมากที่สุด พยายามทำทุกอย่างให้เรามีความสุข แม้บางอย่างทำให้เราหงุดหงิดตามประสาผู้หญิง (หัวเราะ) ไม่ได้ดั่งใจแต่ก็เล็กน้อยมากกว่าปัญหาใหญ่ ๆ เขาเก่งที่ยอมรับในความเป็นเรา ขอบคุณเขาที่พยายามสร้างเนื้อสร้างตัว เขาเป็นคนไม่อยู่นิ่ง แต่นัทว่าดีคนพลังเยอะชอบทำโน่นนี่ มีความเป็นผู้นำที่ดีที่เราสามารถาพึ่งพาเขาได้จริง ๆ ก็ขอบคุณเขามากค่ะ


สุดท้ายฝากอะไรถึงแฟน ๆ ที่รักและติดตามนัท รวมทั้งคอนเสิร์ตด้วยบ้าง? 
ขอบคุณแฟน ๆ ทุกคนที่รักกันมาตลอด เรามีทุกวันนี้ได้เกิดจากแฟน ๆ ที่สนับสนุนเราจริง ๆ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในชีวิตนัท ขอบคุณทั้งปัญหา อุปสรรค ชื่อเสียง ทุกอย่างที่เข้ามา เราเห็นคุณค่าจริง ๆ เลยอยากทำทุกวันนี้ให้ดี อย่างน้อยขอเป็นตัวอย่างที่ดีในบางเรื่องแก่ทุกคนเอาไปปรับใช้ได้ เราอยู่ตรงนี้หวังแค่มีประโยชน์บ้างไม่ใช่เรามาเอาอย่างเดียว แต่เป็นผู้ให้ด้วยค่ะ ขอบคุณคนที่ซื้อบัตรคอนเสิร์ตล้านตลับไปจนหมดแล้ว ไม่คิดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีแบบนี้ ใครที่ไม่ได้มาไม่ต้องเสียใจ เรายังได้มีผลงานอื่น ๆ ให้ติดตามต่อไปแน่นอนค่ะ ขอบคุณกำลังใจในทุกเรื่อง แฟน ๆ ที่ได้ตั๋ว "ล้านตลับ" ซ้อมร้องเต้นกันให้เต็มที่ในวัน 7-9 ต.ค. 59 นี้ ที่รอยัล พารากอน ฮอลล์ มาหวนรำลึกเพลงที่ทรงคุณค่าในยุคหนึ่งของเรากันนะคะ


เรียกว่าเป็นการพูดคุยที่ครบรสของ "นัท มีเรีย" จริง ๆ เราไม่แปลกใจ เพราะอะไรเธอถึงใช้ชีวิตในวงการที่มีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นตลอดได้อย่างมีความสุข ยังไงอย่าลืมติดตามให้กำลังใจสาวนัทในทุก ๆ บทบาทของเธอกันด้วยนะคะ

 

: นัท มีเรีย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • Prime Video เตรียมส่งต่อความสนุก "Grammy X RS: 90’s Versary Concert" ให้รับชมย้อนหลังแบบเอ็กซ์คลูซีฟ
  • สายแดนซ์พร้อม! สายร้องแน่น! เอ-ไทม์ โชว์บิส เปิดแผง "Cassette Festival 2" ฟินจุก ๆ กับเพลงยุคตลับเทป
  • เอไทม์ โชว์บิส ทวงคืนความจุก ความสนุกยุค 90 เปิดขายบัตรคอนเสิร์ต "Cassette Festival 2" 5 สิงหาคมนี้
  • “นัท มีเรีย” ไม่อยากฟังคำแก้ตัว ให้โอกาสแค่ 3 ครั้ง คือจบ
  • ช้าหมด อดแน่! “ล้านตลับ” เปิดโผ 6 ศิลปินท็อปไอคอน!
  •  
     
     
    ร่วมแสดงความคิดเห็น
     
    ชื่อ :
     
    ความคิดเห็น :