ข่าว > ข่าวดาราทั้งหมด > สัมภาษณ์ดารา

'จ๊ะ' ทุ่มเทเต็มที่ทุกบทบาท รัก 'เอิน' หวานด้วยความใส่ใจ

4 เม.ย. 2559 06:26 น. | เปิดอ่าน 1521 | แสดงความคิดเห็น
แชร์หน้านี้ แชร์หน้านี้
 

 

เป็นละครน้ำดีที่หลายคนชื่นชอบ สำหรับ "วัยแสบสาแหรกขาด" ที่สะท้อนปัญหาครอบครัวเด็ก ๆ ซึ่งถูกถ่ายทอดผ่านการบำบัดของ "ครูทรายทิพย์" รับบทโดยนางเอกสาว จ๊ะ - จิตตาภา แจ่มปฐม ด้วยกระแสที่มีแต่เสียงชม วันนี้ "ดาวต่างมุม" เลยไม่พลาดชวนสาวจ๊ะมานั่งพูดคุยถึงบทบาทนี้ พร้อมเปิดใจทั้งมุมมองการทำงานและความรักกับหนุ่ม เอิน – ณิธิภัทร์ เอื้อวัฒนสกุล ผู้จัดหนุ่มไฟแรงแห่งค่าย มาสเตอร์ วัน กันแบบเอ็กซ์คลูซีฟสุด ๆ 

ที่มา: ดาวต่างมุม เดลินิวส์ / ภาพ: @ja_jittapa (IG)


ฟีดแบ็ก "วัยแสบสาแหรกขาด" ดีมาก รู้สึกยังไง? 
ดีใจและเซอร์ไพร้ส์เหมือนกันค่ะ เพราะไม่ใช่ละครแมส มันค่อนข้างใหม่สำหรับวงการละครไทย ตอนแรกก็ไม่มีใครคาดหวังว่าจะกระแสตอบรับดีแบบนี้ ส่วนที่นายกฯ แนะนำให้ดูหรือใครก็ตามชวนให้ดูต่อ ๆ กัน เราก็ดีใจ เพราะจ๊ะพูดได้เลยว่าทุกคนทำงานแบบสุด ๆ เพื่อให้ทุกอย่างใกล้เคียงความเป็นจริงที่สุดค่ะ


ทำการบ้านยังไงก่อนที่จะมารับบทนักจิตวิทยา? 
นักจิตวิทยาเป็นบทที่ไม่ง่ายเลย ห่างไกลตัวเรามาก เราต้องไปศึกษาวิธีของนักจิตวิทยา ซึ่งนักจิตวิทยาก็คือมนุษย์ปกติ แต่ละคนมีวิธีการที่ไม่เหมือนกัน บางทีสิ่งที่แสดงออกไปนักจิตวิทยาบางคนจะมองว่าใช่เหรอ แต่อีกคนอาจ มองว่าถูกต้อง ดังนั้นไม่มีอะไรตายตัว และจะมีเรื่องท่าทางที่เหมาะสม การใช้น้ำเสียง ก่อนมารับบทนี้จ๊ะคุยกับนักจิตวิทยาของเมืองนอกจริง ๆ เขาก็บอกว่าให้ดูที่เคสคนมาบำบัดกับเราว่ามีพื้นฐานยังไง มีบุคลิกยังไง เราลงทำงาน จริง ๆ เพราะอยากรู้ว่าอะไรที่ทำได้หรือไม่ได้บ้าง เวลาเล่นจ๊ะมีความเกร็งที่ต้องคอยคิดว่าเราทำแบบนี้ได้มั้ย แต่เนื้อเรื่องบอกชัดอยู่แล้วว่าตัวทรายทิพย์ไม่ใช่นักจิตวิทยามืออาชีพ เขาอยู่ในช่วงการทำธีสิสจบปริญญาโท ที่ยังไม่เคยทำงานจริงเลย บทเขียนในแนวที่ทำผิดพลาดได้ พอเราได้มาดูคนที่ทำการบำบัดจริง ก็จะเห็นว่าเขายังมีความไม่เแน่ใจว่าสิ่งที่เขาคิดมันถูกต้องมากน้อยแค่ไหน เลยทำให้จ๊ะสบายใจขึ้นมาหน่อยว่าเราก็เรียนรู้ไปกับตัวละครนี้ไปเลย เพราะไม่ใช่คนที่เก่งมากมาแล้วค่ะ


ได้เรียนรู้อะไรจากเรื่องนี้บ้าง? 
ได้เรียนรู้เรื่องจิตวิทยาเยอะมากจริง ๆ ความโชคดีคือมันทำให้จ๊ะได้โตไปกับตัวละคร ส่วนในแง่การแสดงมันเป็นบทที่ยากที่สุดในชีวิตการเป็นนักแสดงของจ๊ะเลย ยากกับการคอนโทรลตัวเอง อย่างเราเล่นดราม่าเรื่องอื่น เรารู้สึกตามตัวละคร เราร้องไห้ก็จบ แต่อันนี้คือเราต้องควบคุมตัวเองให้ได้เหมือนนักจิตวิทยา จริง ๆ จ๊ะเป็นคนร้องไห้ง่าย เวลาที่เล่นกันเด็ก ๆ จ๊ะต้องคอยควบคุมไม่ให้มีน้ำตาไหล เพราะตามคาแรกเตอร์เราไม่ควรเอาตัวเองไปผูกกับเขา ต้องบำบัดเขา เอาเรื่องเขาเข้ามาอยู่ในตัวเราไม่ได้ มันยากมากจริง ๆ ค่ะ (เน้นเสียง) ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เราเข้าใจเด็ก ๆ มากขึ้น ทำให้เรารู้ว่าเด็กที่เกิดมาแต่ละคนที่สำคัญมากคือพื้นฐานครอบครัวว่าเอาใจใส่แค่ไหนค่ะ

 

 

ความยากของคาแรกเตอร์ "ครูทรายทิพย์" อยู่ตรงไหน? 
ความยากอยู่ที่ความพอดีค่ะ ทุกครั้งที่เข้าฉากมีความเครียดตลอด ต้องทำยังไงดีที่จะไม่เก่งจนเกินไป แต่ต้องไม่ให้ดูว่าไม่มั่นใจเลย และไดอาล็อกก็ยาวมาก คำศัพท์เทคนิคภาษาอังกฤษเยอะจริง ๆ ผิดไม่ได้เลยค่ะ ซึ่งเราต้องเข้าใจคำศัพท์เหล่านั้นจริง ๆ ก่อนถึงจะพูดออกมาได้แบบไม่คิด เพราะถ้าเราไม่เข้าใจ จำแต่ไดอาล็อกมันก็จะกลายเป็นเวลาเล่นเราก็พูดตามไดอาล็อก แต่ถ้าเราเข้าใจมันก็พูดได้ตามความรู้สึกครูทรายจริง ๆ ซึ่งเล่นเรื่องนี้จ๊ะไม่เคยมีความเครียดติดกลับบ้าน เพราะเล่นเสร็จปุ๊บเราปล่อย แต่จะเครียดตอนมากองมากกว่า เหมือนเราดูแล้วมีซีนนี้น้ำตามาแน่ ก็ต้องคอยจิกตัวเองค่ะ


เรื่องนี้ "เอิน" เป็นผู้จัดฯ ด้วย ได้ร่วมงานกันทั้งที่เป็นแฟนมีเกร็งมั้ย? 
ไม่เกร็งค่ะ เพราะเราอยู่มาเป็น 10 ปี เรียนรู้ที่จะแยกทุกอย่างออกจากงานได้ ถ้าเป็นช่วงเข้าวงการแรก ๆ ย้อนไปเราอาจไม่ได้แกร่งขนาดนี้ อันนี้มีอะไรมากระทบเราก็แยกได้ทันทีว่าทำอะไรอยู่ ซึ่งในการทำงานร่วมกันเราก็มีอภิปรายกันบ้าง เพราะเราทำการบ้านเยอะทั้งคู่ ก็มาถกกันว่าทำไมอันนี้ทำได้หรือไม่ได้


อยู่วงการมา 11 ปีคิดว่ายังต้องปรับตัวตรงไหนให้เข้ากับวงการบันเทิงมั้ย? 
จ๊ะอยู่ของจ๊ะมาเรื่อย ๆ ด้วยตัวตนเราจริง ๆ ชอบอยู่ในมุมเล็ก ๆ ของเรามากกว่า ไม่ชอบออกไปเล่นไฟ ไม่ชอบสีสันชีวิตที่ฉูดฉาด ค่อนข้างมีความสันโดษสูง ชอบความสบาย ๆ ในการใช้ชีวิต จะเห็นว่าจ๊ะไม่เล่นละครถี่ เพราะขออนุญาตทางช่องอยู่แล้ว เราอยากเก็บเวลาเอาไว้ทำอะไรให้ตัวเอง อีกอย่างที่สำคัญก็คือการทำการบ้านกับบท เพราะเราก็ผ่านช่วงวัยที่ถ่ายละครเต็ม 7 วันและร่างพังมาแล้ว มาถึงวัยนี้มันเป็นวัยที่จ๊ะค่อนข้างนิ่ง ไม่ได้อยากกอบโกย เป็นช่วงที่อยากเล่นละครในแบบที่ต่างออกไป นาน ๆ มาทีก็อยากให้คนเห็นในแบบที่ไม่ซ้ำ และได้รับอะไรมาก็ทำให้ดีที่สุดค่ะ

 

 

คิดว่าตัวเองมีวิธีวางตัวยังไงให้ยังเป็นนางเอกของช่อง 3 ได้จนถึงทุกวันนี้? 
บอกตรง ๆ ว่าก็ไม่ทราบเหมือนกัน (ยิ้ม) มันแล้วแต่ทางช่องว่าอยากให้เราไปลงที่ตรงไหนนะ จริง ๆ ไม่อยากให้ยึดติดกับคำว่านางเอกเลย อยากให้มองที่ตัวละครที่มีความสำคัญ เป็นสีสันของเรื่อง คือจ๊ะเคยผ่านเรื่องที่เป็นนางเอกแสนหวาน แต่เจอคนอื่นมาทำให้ตายไปเลยก็มี มันขึ้นอยู่กับบทบาทที่เราได้เล่นมีอะไรให้โชว์มั้ย เจอบทที่ส่งเรารึเปล่า นั่นต่างหากที่สำคัญค่ะ


มองว่าวันนี้ตัวเองประสบความสำเร็จแล้วหรือยัง? 
ถ้าละครออกมาแล้วคนพูดถึงว่าเรามีการพัฒนา จ๊ะว่าตัวเองประสบความสำเร็จในละครเรื่องนั้น มองเป็นเรื่อง ๆ ไป แต่ถ้าออนแอร์ออกมาแล้วคนพูดว่าเรื่องที่แล้วดีกว่า แปลว่าเรื่องนี้แป้ก สำหรับเรื่องพัฒนาการแสดงของจ๊ะคิดว่าไม่มีจุดสิ้นสุด คือพอเล่นอีกเรื่องเหมือนนับหนึ่งใหม่ตลอด ไม่ว่าเรื่องที่แล้วสำเร็จหรือแป้กต้องทิ้งไป แต่สิ่งหนึ่งที่จ๊ะบอกตัวเองคือว่าต้องทำให้ดีกว่าเรื่องที่แล้ว คิดแค่นี้เอง แต่จะไม่เก็บมาทุกข์ว่าเรื่องที่แล้วมันไม่ดี คือถ้าคิดแบบนั้นเราก็ตายพอดี มันไปต่อไม่ได้ค่ะ


เรื่องความรักกับ "เอิน" คบมา 3 ปีแล้ว ยังต้องปรับตรงไหนอีกบ้าง? 
เรายังปรับทุกวัน เราก็โตมาในครอบครัวที่ต่างกัน ก็ยังต้องจูน ชอบหรือไม่ชอบต้องบอก คู่เราเปิดอกคุยกันมาก ถ้าไม่ชอบก็พูดเลยว่าไม่ชอบ อย่างเขาก็จะชอบบอกว่าจ๊ะต้องเลิกดื้อ อย่างเวลาที่เราป่วย จ๊ะจะแค่กินยา คิดว่าเดี๋ยวก็หาย แต่เอินจะบอกไปหาหมอเลย เขาจะกังวลค่ะ ซึ่งคู่เราไม่เคยทะเลาะกันหนัก ถ้ามีก็จะเป็นเรื่องความไม่เข้าใจ มองคนละมุมมากกว่า ก็มาปรับจูนกันทีหลัง ซึ่งเอินก็เป็นคนใจร้อนนะ เขาอาจใจเย็นเรื่องจ๊ะ แต่เขาใจร้อนเรื่องการทำงานมาก เป็นคนดุมาก เราต้องเบรกเขา คือจ๊ะก็เป็นคนใจร้อนแต่ถ้าถึงเวลาที่เราต้องฮึบ ทำใจให้เย็นเราทำได้ แต่เขาบางทีไปแล้ว

 

 

ถามถึงจุดเริ่มต้นที่คบกัน มาคบกันได้ยังไง? 
จ๊ะมาเล่นละครให้เขาเมื่อ 5 ปีที่แล้ว จากนั้นเราก็เป็นเพื่อนกัน แต่ตอนนั้นต่างคนต่างมีคนของตัวเอง ไม่มีอะไรในแบบนั้น กระทั่งเขารู้ว่าเราเลิก เขาก็เริ่มเข้ามา คือจังหวะที่จ๊ะเป็นโสดเขาก็โสดพอดี เลยมานั่งคุยกัน เราใช้เวลานานและยากมาก พอกลับมาเป็นโสด เรารู้สึกว่าแบบนี้มีความสุขกว่าเยอะ ไม่ต้องมานั่งกลุ้มใจเรื่องใครอีกคน ก็บอกตัวเองว่าไม่เอาแล้ว เราเลยต่อต้าน กันเขาทุกทาง ทุกคนด่าเราหมดว่าเอินน่าสงสารมาก ทำไมเราต้องร้ายใส่เขา จ๊ะทำทุกทางเพื่อให้เขาเลิกคิดสักที ใช้เวลาเป็นปี เขาก็อยู่ของเขาแบบนี้ จนจ๊ะยอมใจเขาเลยค่ะ คือพอเราลองเปิดดูก็จะเห็นว่าเขาโคตรใส่ใจ ทุกคนบอกว่าเขานิสัยดีมากเลยนะ แต่ตอนนั้นจ๊ะคิดว่าคนที่แล้วก็พูดแบบนี้ มีความเข็ดอยู่ (ยิ้ม) แต่พอได้เห็นตัวจริงของเขาก็ทำให้เรารู้สึกว่าเราต้องยอมใจเขาจริง ๆ เขาเริ่มทำให้เราเห็นมากขึ้นเรื่อย ๆ ความดีเขาชนะใจเรา พอเปิดใจก็คบกันมาจนถึงวันนี้ค่ะ


พอมาคบกับ "เอิน" บางคนจะมองว่าเราได้เป็นนางเอกค่าย มาสเตอร์ วัน เพราะเป็นแฟนกับผู้จัด รู้สึกนอยด์มั้ย? 
จริง ๆ ตอนแรกยอมรับว่ามันนอยด์นะ คิดเยอะ เราคุยกันตั้งแต่แรกแล้วว่ามันต้องมีแน่เลย ดังนั้นก็คิดกันว่าฉันไม่เล่นค่ายเธอนะ แต่สุดท้ายแล้วคนข้างนอกไม่ได้รู้กระบวนการว่านักแสดงแต่ละคนจะไปลงละครสักเรื่อง เราไม่ได้ยกมือขอว่าเราจะลงค่ายนี้ได้ มันเป็นดุลพินิจทางช่องทั้งหมด พูดตรง ๆ ละครที่เอินอยากให้จ๊ะเล่นให้ค่ายเขาตั้งแต่แรกคือ "วัยแสบฯ" ไม่ใช่เรื่อง "นางสาวทองสร้อย" เรื่องทองสร้อยฯ วางตัวคนอื่นไว้ แต่อยู่ดี ๆ ทางช่องก็โทรฯ มาให้จ๊ะเล่น จากที่คุยกันว่าไม่ทำงานด้วยกัน แต่ถ้าผู้ใหญ่เห็นว่าเราเหมาะ มันก็เป็นหน้าที่เราต้องพิสูจน์ว่าเราเข้ามาเล่นตรงนี้ได้เพราะอะไร ถ้าผู้ใหญ่มอบหมายมาแล้วก็แปลว่าเขาเห็นว่าเราทำได้ ส่วนเรื่อง "ซิงเกิ้ล มัม" ซึ่งในเรื่องเรารับบทเป็น "มู่ลี่" เล่นเป็นแม่ ตอนแรกจ๊ะก็ไม่อยู่ในรายชื่อ แต่พอช่องโทรฯ ให้ลง เราอ๋อ! ตกลงเป็นหนู จ๊ะยังงงว่าเล่นมีลูก ถึงวัยแล้วเหรอ แต่เราโอเค พอรู้ว่าได้มาลงเรื่องนี้ก็รู้สึกสำเร็จไปอีกขั้นในแง่ที่เราปล่อยวางตัวเอง มองที่บทว่ามันท้าทาย มันไม่สำคัญว่าจะต้องไปอยู่ค่ายละครไหน จ๊ะว่ามันสำคัญที่สุดคือบทที่เราได้รับมันมีอะไรให้เราเล่นได้มากน้อยแค่ไหน บทส่งตัวเราแค่ไหน จุดนี้สำคัญที่สุดที่นักแสดงต้องการ ใครก็ตามได้บทที่ดี แล้วทำมันออกมาให้ดี ก็จบค่ะ


แปลว่าเราเป็นคนใส่ใจเสียงวิจารณ์ต่าง ๆ เยอะ? 
จ๊ะอยากให้คนมองที่ผลงาน เราเน้นเรื่องนี้จริง ๆ ไม่อยากให้คนมองเรื่องส่วนตัวว่ามันเป็นเพราะอย่างนั้นอย่างนี้ มันเลยมีบ้างที่แบบทำไมต้องคิดอย่างนี้ด้วย แต่ในอีกมุมเราก็เข้าใจที่เขาคิดนะ เพราะเขาไม่รู้วิธีทำงานเลยทำให้เข้าใจแบบนั้นได้ พอเรียนรู้ตรงนี้ก็เลือกที่จะปล่อยวาง พอมาถึงปัจจุบันนี้จ๊ะไม่ได้คิดอะไรแล้ว อย่างนักแสดงหลายคนก็ได้เล่นค่ายเดิม ๆ ที่คุ้นเคยกันมา ก็ไม่เห็นเป็นอะไร แต่มันอาจเป็นเพราะในแง่ความสัมพันธ์เราเป็นรูปแบบนี้มากกว่า เลยอาจถูกพูดถึงเยอะหน่อย

 

 

"เอิน" ให้กำลังใจเรื่องที่เรากังวลว่าจะถูกมองแง่ไม่ดีแบบนั้นบ้างมั้ย? 
เอินเป็นคนละขั้วกับจ๊ะเลย จ๊ะเป็นคนคิดเยอะ แต่นั่นจะเป็นแบบไม่เห็นต้องคิดมาก ใครจะคิดอะไรก็เรื่องของเขา ถ้าคุณเก็บเอาทุกอย่างของทุกคนมาก็ไม่ต้องทำงานพอดี เขาเป็นแนวว่าเรารู้กันอยู่แล้วว่าอะไรคืออะไร คนรอบข้างรู้กันอยู่แล้วว่าทุกอย่างเกิดขึ้นได้เพราะอะไร ก็จบ นอกเหนือจากนั้นคือต้องปล่อย เพราะเราห้ามความคิดใครไม่ได้ค่ะ


สิ่งที่ประทับใจที่สุดในตัว "เอิน" คืออะไร? 
เราประทับใจในความเป็นเขาอยู่แล้วนะ ภาพที่เรามองเขาเป็นคนดูนิ่ง ๆ ไม่เข้าใจผู้หญิง แต่เขาเป็นคนที่เซอร์ไพร้ส์เก่งมาก ทั้งที่จ๊ะระวังตัวแล้วแต่ไม่เคยจับได้เลย เรื่องเซอร์ไพร้ส์ที่อยู่ในความทรงจำคงเป็นวันเกิดจ๊ะปีที่ผ่านมา คือพอวันเกิดเพื่อน ๆ ก็ส่งมาแฮปปี้ เบิร์ธเดย์ เราก็ถามเพื่อน ๆ ว่าคืนนี้ทำอะไรกัน ทุกคนก็ไม่ว่าง เราคิดว่าเอาไว้ก่อนก็ได้ แล้วเอินก็พาเราไปกินข้าว ซึ่งเป็นโต๊ะที่นั่งกัน 2 คน ไม่ได้ทำให้จ๊ะรู้สึกอะไร สักพักเพื่อนก็ถือเค้กมาเป็นกลุ่มใหญ่ เราก็อือหือ! เป็นอย่างนี้นี่เอง (ยิ้ม) เขาจะเป็นแบบนี้เยอะ ล่าสุดจ๊ะเปิดนิตยสารก็บ่นลิปสติกสีนี้สวยจัง เราพูดกับตัวเองนะ เดี่ยวไปดูดีกว่า ปรากฏวันต่อมาเขาก็เอาลิปสติกนั้นยื่นให้เรา เราก็งงว่าไปซื้อตั้งแต่เมื่อไหร่ เขาเป็นคนใส่ใจ ต่อหน้าไม่พูด แต่เขาจะมองว่าเราต้องการอะไร เขาก็หามาให้


เราเคยเซอร์ไพร้ส์เขากลับได้บ้างมั้ย? 
ไม่เคยรอด จับได้ทุกอย่าง เขาบอกว่าเราไม่เนียน ลุกลี้ลุกลน กะว่าปีหน้าจะเลิกเซอร์ไพร้ส์ แล้วให้ ๆ ไปเลย (ยิ้ม)


เราร่วมงานกับนักแสดงชายเยอะ เขาเคยมีแอบหึงรึเปล่า? 
ความโชคดีที่เอินไม่ยุ่งเลยเวลาที่จ๊ะทำงาน ถ้าจ๊ะเข้าฉากก็อยู่คนละมุม แยกกันอยู่ เขามีหน้าที่จัดการเยอะอยู่แล้ว เราก็รับผิดชอบในส่วนของเรา ดังนั้นจึงไม่มีอะไรแบบนี้เลย ส่วนตัวจ๊ะก็ไม่เป็นคนขี้หึงเลย จ๊ะไม่เช็กอะไร ไม่คิดอะไร ถ้าเลือกที่จะคบก็เลือกที่จะไว้ใจค่ะ ซึ่งเขาก็ทำให้เราไว้ใจ วัน ๆ นึงเขาอยู่แต่กับงาน จนจ๊ะเองก็ต้องเบรกเขาบ้าง เขาบ้างานมาก เราก็จะมีชวนไปดูหนังมั้ย เพราะบางงานเขาเครียด ต้องดูแลทุกอย่าง คือเราต่างคนต่างคอยสังเกตกันค่ะ

 

 

มองเรื่องแต่งงานไว้บ้างรึยัง? 
เรื่องแต่งงานส่วนใหญ่เขาจะเป็นฝ่ายพูด ตัวจ๊ะเป็นผู้หญิงที่ไม่เคยคิดเรื่องแต่งงานเลย ชอบการใช้ชีวิตกับเพื่อน พอวันนี้มันเปลี่ยนไปเพราะมีเอินอยู่ในชีวิต แต่ก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกว่าจะต้องแต่งงานเลยนะ จ๊ะชอบมีความสุขในทุกวันแบบนี้ไปเรื่อย ๆ แต่เอินไม่ เขาบอกว่าแล้วยังไง จะอยู่แบบนี้ไปเรื่อย ๆ เหรอ ตลกแล้ว แต่เราก็ไม่เห็นต้องรีบ เขาก็แย้งว่าอายุ 30 แล้วนะ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ทะเลาะกันบ่อยที่สุด เพราะเราคิดว่าไม่เห็นต้องเอาอายุมาเป็นเกณฑ์เลย เป็นเรื่องที่จูนยากมากค่ะ (หัวเราะ)


ตอนนี้หาจุดตรงกลางเรื่องแต่งงานได้รึยัง? 
จ๊ะบอกเขาไปแล้วว่าขอเวลาอีกแป๊บนึง ไม่ปล่อยให้นานขนาดนั้นแน่นอน เรายังอยากสนุกในหลายอย่าง เพราะการแต่งงานสำหรับจ๊ะคือการดึงอีกคนเข้ามาในชีวิตเรา และตัวเราก็เข้าไปในชีวิตเขาโดยสมบูรณ์ จ๊ะแค่รู้สึกว่าตอนนี้เรายังอยากมีพื้นที่ส่วนตัวในบางเรื่องก่อน


เคยมีโมเมนต์อยากมีลูกบ้างมั้ย? 
ไม่เคยคิดอยากมีลูกเลย น่ากลัวมาก พอเราเห็นเด็ก เห็นสังคมในยุคนี้ จะมีลูกชายลูกสาวสำหรับจ๊ะคือเสี่ยงไปหมด ในขณะที่เอินอยากมีมาก ก็เป็นเรื่องที่ต้องมาเจอกันตรงกลางให้ได้อีก ตอนนี้จ๊ะไม่อยากมีลูกเลย แต่อีกปี สอง ปี ก็ไม่แน่ ถ้าเขายังอยากมีมาก ๆ แต่ จ๊ะเห็นภาพหลาน ๆ ที่ยังเล็กแล้วเขางอแง เอาแต่ใจ เป็นหลานเราเดินหนีได้ แต่ถ้าเป็นลูกเราก็ต้องรับผิดชอบดูแล เลยไม่ใช่ตอนนี้แน่ ๆ ก็บอกเขาไว้แล้วว่าเรื่องแต่งงานขออีกสักพักนึง แต่เรื่องมีลูกไม่รับปาก แต่เขาก็อยากมี ก็รอดูวันนั้นจริง ๆ ว่าความคิดใครจะชนะ (หัวเราะ)


ท้ายสุดฝากถึงแฟน ๆ ที่คอยให้กำลังใจมาตลอดหน่อย? 
จริง ๆ ก็อยู่ตรงนี้มา 11 ปีแล้ว แฟน ๆ ตั้งแต่จ๊ะเพิ่งเข้าวงการตอนนี้ก็เป็นวัยกลางคนกันไปแล้ว (ยิ้ม) และแฟนรุ่นใหม่ที่เพิ่มเข้ามา จ๊ะดีใจที่เขาอยู่ในทุกช่วงชีวิตการเป็นนักแสดงของเราไม่ว่าจะทุกข์หรือสุข เวลาที่จ๊ะทุกข์เขาก็รู้ ก็คอยให้กำลังใจกันมาค่ะ และก็คอยรอดูละครกัน ขอบคุณมากค่ะ

 

: จ๊ะ จิตตาภา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • “จ๊ะ” จิตตาภา สวยสะดุดตา ถ่าย MV ครั้งแรก
  • ชีวิตจริง ‘จ๊ะ-จิตตาภา’ ไม่ได้หวานอย่างที่คิด
  •  
     
     
    ร่วมแสดงความคิดเห็น
     
    ชื่อ :
     
    ความคิดเห็น :