ถ้าเอ่ยถึงนางร้ายที่มีผลงานละครให้แฟน ๆ ได้ชมทุกปีต้องยกให้นักแสดงสาวสวย เนย - โชติกา วงศ์วิลาศ ตลอด 7 ปีในวงการบันเทิงของเนย ทุก ๆ ปีเป็นปีทองของเธอเพราะงานละครไม่เคยขาด ปัจจุบันยังทำธุรกิจของตัวเองทั้งผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร แบรนด์เสื้อผ้า และเครื่องสำอาง ครบคอนเซปต์เวิร์กกิ้งวูเมน ส่วนเรื่องหัวใจความรักกับแฟนหนุ่มนักธุรกิจที่ชื่อ "อาร์ม - จันทร์สิริ" ก็สุกงอมพร้อมวิวาห์ในวันที่ 3 ก.ย. 59 และฉลองวิวาห์วันที่ 10 ก.ย. 59 นี้ที่โรงแรมพลาซ่าแอทธินี วันนี้ "ดาวต่างมุม" เลยไม่รอช้าคว้าตัวว่าที่เจ้าสาวคนสวยมาพูดคุยถึงชีวิตหลายแง่มุมให้รู้จักเธอมากขึ้น แล้วจะรู้ว่านางร้ายในจอคนนี้ ชีวิตจริงแฮปปี้แบบนางเอกเป็นยังไง ติดตามกันเลยค่า

ที่มา: ดาวต่างมุม เดลินิวส์ / ภาพ: @noeychotika (IG)

 

เนยอยู่วงการบันเทิงมาปีนี้ปีที่ 7 แล้วรู้สึกยังไงบ้าง? 
มันดีมากเลยค่ะ ทุกปีมีละคร งานทุกชิ้นมันคือผลงานของเรา เป็นประสบการณ์ของเรา เราโตขึ้นจากการทำงานที่มากขึ้น มีความเปลี่ยนแปลงเยอะทุกปี แต่เนยก็รู้สึกว่ามันเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ดี เราก็ตั้งใจทำงานเต็มที่ตั้งแต่เข้าวงการมา ผลจากการตั้งใจในวันนั้นทำให้เรามีงานต่อเนื่องในวันนี้

ย้อนไปถึงตอนเข้าวงการใหม่ ๆ หน่อยเป็นยังไงบ้าง? 
ตอนนั้นเนยเรียนที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ หาดใหญ่ มีคนแนะนำพี่ เอ - ศุภชัย ว่ามีเด็กหน้าตาโอเค พี่เอก็โทรฯมาหาเนย นัดเจอกันชวนเข้าวงการ ตอนนั้นเนยเรียนปี 3 เอง เขาบอกให้เนยย้ายที่เรียนมากรุงเทพฯ ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่มาก เราสอบเข้ามหาวิทยาลัยรัฐบาลได้ไม่อยากทิ้ง เลยตัดสินใจปล่อยไปตามดวง แต่ขอเรียนจบก่อน แต่พี่เอก็ยังโทรฯหาเรื่อย ๆ ยังรอเนยตลอด จนเรียนจบมาอยู่บ้านพี่เอ มาเรียนแอ๊คติ้งต่าง ๆ แล้วมาแคสติ้งละครนั่นคือจุดเริ่มต้นของเนย สำหรับเราพี่เอเป็นมากกว่าผู้จัดการ เพราะเขาให้ชีวิตเราในวงการบันเทิงต้องขอบคุณพี่เขามากจริง ๆ ค่ะ (ยิ้ม)

งานแสดงคือสิ่งที่ฝันไว้บ้างหรือเปล่า? 
ไม่เลยค่ะ เด็ก ๆ อยากเป็นคุณครู อยากเป็นนางงามใส่ส้นสูงทำผมยาวด้วยผ้าเช็ดตัว (หัวเราะ) วงการบันเทิงไกลตัวมาก เรียกว่าเข้าวงการแบบเริ่มต้นจากศูนย์เลย กระทั่งเจอพี่เอก็ให้หนูไปแคสติ้งแต่งานละคร ไม่ได้ทำอย่างอื่น เช่น โฆษณา เดินแบบ อะไรเลย จนได้เล่นละคร "ชุมทางเสือเผ่น" ของยูม่า เป็นนางเอกนะคะ (หัวเราะ) ด้วยคาแรกเตอร์ ไม่หวาน ไม่ยอมคน ทำให้เรามีแววเล่นร้ายได้ ก็มาร้ายเต็ม ๆ ในละคร "เพลิงพราย" จากนั้นเนยผูกขาดบทนางร้ายมาตลอดเลยค่ะ ถามว่าเรารักในบทบาทของการเป็นนางร้ายมั้ย รักนะคะ เนยไม่รู้สึกว่าเราจะเด่นดังอะไร บทนางร้ายคืองานของเรา เนยภูมิใจในความเป็นตัวร้าย เกิดมาจากบทนี้รักตรงนี้มาก จึงต้องทำให้ดีที่สุดค่ะ

 

 

พอเล่นร้ายทุกเรื่องเราตีความยังไงให้ร้ายแตกต่างกันไป? 
การรับบทนางร้ายต้องใช้พลังเยอะมาก แรก ๆ เล่นละครต้องกรี๊ด เนยทำไม่ได้อะ (หัวเราะ) คือเนยท่องบทมาอย่างดีเพื่อจะมาด่าทุกคนในบ้าน แล้วก็เว้นวรรคกรี๊ดมันผิดธรรมชาติไง ทุกคนขำในกองกันใหญ่ (หัวเราะ) จน พี่ปุ๊ย-ผอูน มาสอนเราว่าการกรี๊ดต้องมาจากความรู้สึกไม่ใช่ท่อง กว่าจะมาเป็นนางร้ายจนทุกวันนี้ไม่ง่ายค่ะ ละครทุกเรื่องคือประสบการณ์ทำงาน ไม่เคยน้อยใจที่ได้เล่นแต่บทนางร้าย เรารักในบทของเรา บทนี้ทำให้คนรู้จักเนยที่สำคัญพิสูจน์ฝีมือการแสดงจนเรามีงานต่อเนื่องกว่า 7 ปี นี่คือกำไรชีวิตสำหรับคนที่เริ่มต้นในวงการบันเทิงจากศูนย์อย่างเนยแล้วล่ะค่ะ

สมัยก่อนนางร้ายจะเดินตลาดไม่ได้เคยเจอกับตัวเองมั้ย? 
เราไม่เคยเจอแบบนั้น มีแต่บอกว่าในละครน่าหมั่นไส้มาก แต่ป้าก็ชอบหนูมากแบบนี้ค่ะ (ยิ้ม) บางคนมารักในความร้ายของเราก็มี พูดแบบไม่ได้เข้าข้างตัวเองเลยนะคะ แต่บทเราไม่ใช่ตัวร้ายฆ่าคนขนาดนั้น เป็นร้ายโก๊ะ ๆ คนเลยชอบตัวละครเรา

ยังเห็นข้อบกพร่องในการแสดงของเรามั้ย? 
ยังมีเยอะนะคะ เราไม่ได้เก่งเนอะ ทุกอย่างยังต้องพัฒนา ข้อเสียของการเล่นละครมาหลายเรื่อง คือชินจนเล่นเหมือนเดิม นี่คือสิ่งที่น่ากลัว ต้องให้ผู้กำกับช่วยไกด์ ฉะนั้นเราต้องพัฒนาตัวเองด้วยการอ่านบทให้ดี มองให้ออกว่าตัวละครของเราแตกต่างจากเรื่องอื่น ๆ ยังไงค่อยถ่ายทอดออกมาค่ะ

 

 

วงการบันเทิงเปลี่ยนชีวิตเนยไปแค่ไหน? 
เราโชคดีเรียนการจัดการมาเลยจัดคิวเวลาได้เป๊ะมาก (หัวเราะ) เราเป็นคนมีระเบียบในการทำงานมาก ทุกอย่างต้องเป๊ะ นัดใครตรงเวลาหนักมาก ตั้งแต่ทำงานมาไม่เคยมากองถ่ายสายเลย บางทีรู้มันยืดหยุ่นได้ แต่เราเป็นคนแบบนี้ ต้องไปถึงตามเวลานัด แม้ว่าทุกอย่างจะเผื่อเวลาไว้ ใช้ชีวิตอย่างมีสติ ไม่หลงไปกับชื่อเสียง สิ่งเหล่านี้กลายเป็นสิ่งที่ดีต่อเราจนถึงปัจจุบันในการทำงาน จริง ๆ บางคนเข้าวงการมาก็เปลี่ยนไปหลังมีชื่อเสียง เนยเข้ามาตอนเราโต ทำให้เนยมองว่านักแสดงคืออาชีพรับจ้างอย่างหนึ่ง ไม่มองว่าตัวเองดังกว่าใคร แค่ทำทุกอย่างให้มันดีที่สุดก็พอค่ะ อยู่วงการมาเนยไม่เคยมีข่าวไม่ดีเท่าไหร่ เพราะเชื่อเสมอว่าการกระทำในวันนี้ ส่งผลถึงอนาคตข้างหน้า ถ้าทุกวันเราทำดี ก้าวต่อไปของเราจะอยู่อย่างสบายใจค่ะ

ธุรกิจส่วนตัวก็ไปได้ดี จนคนแซวว่าเป็นเศรษฐินีแล้ว? 
ไม่ถึงขนาดนั้นค่ะ (หัวเราะ) ตอนนี้มีผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ทำมา 2 ปีแล้ว อีกธุรกิจคือแบรนด์เสื้อผ้าของตัวเอง ชื่อ "โชติกา" เนยเคยทำเสื้อผ้าแล้วเมื่อ 3 ปีก่อน ทำเองโดยไม่ใช้ทีม พอไม่มีเวลาเลยไม่ประสบความสำเร็จ รอบนี้กลับมาเราได้ทีมดีไซเนอร์เก่ง ผ้ามาจากเมืองนอกเลยสานฝันต่อ แบบเสื้อผ้าเราเน้นสรีระเซ็กซี่ สวยงามของผู้หญิง อีกตัวคือธุรกิจแป้งพัฟฟ์ "โช" บังเอิญใช้ของเขาแล้วดีเลยไปคุยกับเจ้าของแป้ง ธุรกิจทั้งหลายที่ทำไม่ได้หวังรวย แต่ชอบค้าขายพอทำแล้วต้องรู้จริงในสิ่งที่ทำ ไม่ใช่คิดแค่อยากได้เงิน แต่ลูกค้าจะดีไม่ดีไม่สนใจแบบนั้นไม่ได้ค่ะ

ตัวตนของเนยจริง ๆ เป็นคนยังไงภายนอกดูสวย เปรี้ยว? 
เป็นคนทำอะไรจริงจัง บางทีเครียดไป แต่เป็นคนแบบนี้จริง ๆ ทำอะไรต้องทำให้ดีที่สุด โชคดีเดี๋ยวนี้มีโซเชียลมีเดีย คนได้เห็นวันที่เนยไม่ได้ทำงาน สัมผัสตัวตนเรามากขึ้น ไม่ยึดภาพเราจากในละครคือนางร้าย ช่วงกลับไปบ้านที่ใต้ เราถ่ายรูปเด็ดผักริมรั้วกับแม่ แล้วแม่ยังใส่ผ้าถุง คนเอารูปแชร์กันใหญ่ ตกใจมาก(หัวเราะ) แม่บอกไปไหนลำบากนะเนี่ย ทุกวันนี้ฉันยังใส่ผ้าถุงอยู่เลย เราก็บอกเขาทำตัวเหมือนเดิมนี่แหละ บ้านเราไม่ใช่ครอบครัวร่ำรวย ทำงานทุกวันนี้เพื่อให้เขามีชีวิตที่ดีขึ้น แม่ก็ภูมิใจในตัวเรานะ เวลากลับบ้านเนยมีความสุขมาก ได้ทานอาหารใต้ฝีมือแม่ กลับไปใช้ชีวิตบ้าน ๆ ปลูกผักกินเองแค่นี้แฮปปี้แล้ว

 

 

คนมองว่าปี 2 ปีที่ผ่านมาคือปีทองของเนยทั้งงานและความรัก? 
เนยพยายามทำให้ดีที่สุด ใส่ใจกับทุก ๆ อย่าง ปีนี้เนยคบกับแฟนปีที่ 7 แล้ว เราไม่หวือหวา ค่อย ๆ ดูกันไป จนมั่นใจว่าจะฝากชีวิตกับคนนี้ ทุกอย่างต้องใช้เวลาในการเลือกใครสักคน ชีวิตเรายุ่งขนาดนี้ เขาจะยังอยู่ข้าง ๆ เรามั้ย ซึ่งเขาก็ยังอยู่ข้างๆ เราเสมอ

เนยกับอาร์มตกหลุมรักกันยังไง? 
เนยไปงานเปิดร้านอาหารของเพื่อนเลยได้เจอกัน เขาเป็นคนพูดน้อย เนยก็ไม่คุยกับเขาด้วยนะ อาศัยเพื่อน ๆ ของเราช่วยทำให้เราได้คุยกัน แว้บแรกที่เจอก็รู้สึกคนนี้ทำไมไม่ค่อยพูดนะ ปกติผู้ชายคนอื่นต้องมาเยอะ ๆ ใส่เรา พยายามทำความรู้จัก พรีเซนต์ตัวเอง แต่คนนี้ไม่เป็นเลยเราชอบเขาตรงนี้

อะไรที่ทำให้เรารู้สึกคลิกว่าจะใช้ชีวิตด้วยกันได้? 
คุณอาร์มเป็นคนไม่พูดขายฝัน ทำอะไรสม่ำเสมอ ซึ่งคนที่จะอยู่ข้าง ๆ เราต้องเป็นกำลังใจให้เราในวันที่ท้อ ไม่หาเรื่องปวดหัวเพิ่ม เราแข็งแกร่งพอที่จะดูแลตัวเอง ขอแค่รับฟัง ร่วมสุข ร่วมทุกข์ได้ ซึ่งคุณอาร์มก็เป็นคนคนนั้นเนยโชคดีที่ได้เจอเขาค่ะ (ยิ้ม)

ปลายปีจะจัดงานแล้วหลังแฟนคุกเข่าขอปีที่แล้ว? 
ใช่ค่ะ (ยิ้ม) เราจะมีงานแต่งช่วงเดือน ก.ย. นี้ วางแผนไว้ว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด ละครน่าจะปิดกล้องหมดแล้ว งานก็น่าจะลงตัว ธุรกิจก็ลงตัว แต่งงานแล้วก็จะได้มีโอกาสไปเที่ยวบ้าง เพราะเนยเก็บกดมากเลยแพลนก่อนแล้วเราจะไปเที่ยวที่ไหนกันหลังแต่งงานค่ะ ส่วนเรื่องลูก แฟนเนยอยากมีเลย ส่วนเนยก็ชอบเด็ก แต่ยังนึกภาพตัวเองเป็นแม่ไม่ออกเลย (หัวเราะ) แต่สองครอบครัวก็อยากให้มี แม่เนยอยากเลี้ยงหลานก็ต้องวางแผนอีกทีจะยังไง

 

 

เคล็ดลับในการดูแลความรักมานานถึง 7 ปีล่ะ? 
เนยไม่มีเคล็ดลับอะไรเลย เราอายุห่างกัน 2 ปี เนยกับคุณอาร์มไม่ใช่คู่หวาน ซื้อของแพง ๆ ให้กัน เราคบกันด้วยความเข้าใจร่วมทุกข์ร่วมสุข เวลามีปัญหาพอเล่าให้คุณอาร์มฟัง เขาจะมีมุมมองที่ดีและแง่บวกเสมอ โชคดีของเนยที่เจอคนแบบนี้เข้ามาในชีวิต (ยิ้ม) สุดท้ายจากใจร้อน ๆ ทำให้เราใจเย็นลงและมองโลกในมุมที่ดีขึ้น

ความเป็นแม่บ้านแม่เรือนพร้อมแค่ไหน? 
พร้อมหนักมาก (ยิ้ม) โอกาสพิเศษก็ทำให้เขาทานบ่อยทำได้หมด ภาพอาจดูเราไม่น่าทำอะไรเป็นนะ แต่บอกเลยฝีมือไม่เบา สมัยเด็ก ๆ เป็นลูกมือแม่ทำอาหารที่บ้านตลอด ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีมากที่แม่สอนเนยมาแบบนี้ จดจำได้ตรงนี้มาใช้ในชีวิตค่ะ

อนาคตต่อไปของเนยแพลนอะไรไว้บ้าง? 
ตอนนี้กลับมาเล่นละครแน่นเหมือนเดิมแล้ว ถึงแต่งงานไปก็ยังทำงานเหมือนเดิม แต่แค่อาจจะรับงานน้อยลงเพื่อแบ่งเวลาไปดูแลธุรกิจและครอบครัวค่ะ

สุดท้ายฝากอะไรถึงแฟน ๆ ที่ชื่นชอบเราบ้าง? 
ขอบคุณแฟน ๆ ละครทุกคนที่ติดตามเนยมาตลอด ขอบคุณทุกคนที่ทำให้เนยเป็นเนยในวันนี้ โดยเฉพาะพี่เอ ที่เป็นทุกอย่างจริง ๆ ครอบครัว เพื่อนที่น่ารัก ขอบคุณช่อง 3 ผู้จัด ผู้ใหญ่ทุกท่าน ทุกวันนี้เนยแฮปปี้กับชีวิตมากแล้ว ขอให้ทุกคนประสบความสำเร็จเช่นกัน ใครที่ยังสู้ก็สู้กันต่อไป ไม่ต้องไปแข่งกับคนอื่น แข่งกับตัวเราเอง ทำให้ดีก็จะมีความสุขในแบบของเราค่ะ