กลายเป็นนางเอกขายดีของช่อง 3 ไปอีกคนแล้ว เพราะช่วงที่ผ่านมาได้เห็นละครของ มาร์กี้ - ราศรี บาเล็นซิเอก้า ออกต่อเนื่องติดกันทั้ง 5 วัน ทั้ง "ผู้กองยอดรัก" ที่เพิ่งจบไป และ "ใต้เงาจันทร์" ที่กำลังออกอากาศอยู่ แถมความรักกับหนุ่มรู้ใจ ป๊อก - ภัสสรกรณ์ จิราธิวัฒน์ เรียกว่าโชคดีทั้งเรื่องงานและเรื่องความรักมาก ๆ วันนี้ "ดาวต่างมุม" เลยขอเจาะลึกทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัวมาฝากแฟน ๆ กัน

ที่มา: ดาวต่างมุม เดลินิวส์ / ภาพ: @margie_rasri (IG)

ตอนนี้ถือว่าเป็นนางเอกงานชุกไปแล้วนะ? 
จริง ๆ แล้วไล่ถ่ายมาสักพักแล้วค่ะ บังเอิญละคร 2 เรื่องนี้มาออนแอร์พร้อมกันแค่นั้นเอง ไม่หน้าช้ำหรอกค่ะ สำหรับคนที่คิดถึง เขาจะได้ดูเต็ม ๆ แต่หลังจากนี้ต้องรอไปจนต้นปีหน้าเลยถึงจะได้เจอกันอีกที เพราะกี้ไม่ได้เล่นละครเยอะมาก ปีหนึ่งเล่นแค่ 2 เรื่องเองค่ะ ใน 1 สัปดาห์ กี้รับละครแค่เรื่องเดียว ใช้เวลาถ่าย 3-4 วัน ไม่ได้รับทีนึง 2 เรื่อง แต่ถ้าเรื่องนี้ถ่ายเสร็จเร็ว เช่น 5 เดือนเสร็จ เราก็รับต่อได้เลย บางครั้งปีหนึ่งอาจจะได้ 2 เรื่องครึ่งค่ะ

ผลตอบรับจากเรื่อง "ผู้กองยอดรัก" เป็นอย่างไรบ้าง? 
ฟีดแบ็กดีมาก เรตติ้งดีมากค่ะ กี้ว่ามันเป็นละครที่ไม่ได้โฟกัสแค่ตัวพระเอกนางเอกอย่างเดียว เพราะมีเนื้อเรื่องที่สนุก มีเรื่องราวของตัวละครอื่น ๆ ที่น่าติดตามและเข้มข้นมากค่ะ บทที่ได้เหมือนปรับลุคด้วย ดูนิ่งขึ้น ดูหวาน

คิดว่าแฟน ๆ ชอบกี้ในบทบาทไหนมากที่สุด? 
คงเป็นบทห้าว ๆ แก่น ๆ มากกว่า แต่ถ้าเป็นเรื่องที่พระเอกตลก นางเอกต้องหวานก็โอเค คนดูคงไม่ได้ดูแค่เราอย่างเดียว เขาดูภาพรวมของละคร อย่างเรื่องผู้กองฯ คนอาจไม่ได้ชอบคาแรกเตอร์มาร์กี้ในแบบนั้น แต่มันก็ดูกลมกลืนในภาพรวมค่ะ

 

 

แล้วเรื่อง "ใต้เงาจันทร์" เป็นอย่างไรบ้าง? 
เรื่องนี้คนจะชอบตรงที่แต่งตัวสวย ดูเฉี่ยว เป็นนางเอกที่ทันสมัย บ้าแบรนด์เนม เป็นคนตรง แสดงออกทางสีหน้าค่อนข้างเยอะ บทไม่ได้ยาก เราถนัดเล่นแบบนี้ด้วย ใกล้เคียงตัวเรา เรื่องนี้เป็นละครที่ทันสมัยมาก ทั้งมุก มีการแชตไลน์ ประมาณนี้ค่ะ

พอหมดละครช่วงนี้ แฟน ๆ คงคิดถึงแย่เลย? 
กี้มีหนังช่วงปลายปีพอดีค่ะ เล่นภาพยนตร์ไว้เป็นแนวคอมเมดี้ที่มีผีด้วย แฟน ๆ จะได้หายคิดถึงกัน จากนั้นก็มาชมละครเรื่อง "บุษบาเร่ฝัน" กันต่อต้นปีหน้าค่ะ ตอนนี้กำลังถ่ายทำอยู่ คือช่วงที่ไม่มีละครออนแอร์ ก็มีงานอยู่เรื่อย ๆ ค่ะ ถ้าช่วงไหนละครเงียบก็จะมีอย่างอื่นมาแซมบ้าง เช่น ถ่ายรายการ ถ่ายหนังสือให้คนได้เห็นบ้าง

คิดว่าเราทำงานหนักเกินไปไหม? 
มีช่วงหนึ่งทำงานหนักเกินไป แต่ตอนนี้ไม่แล้วค่ะ เราแบ่งเวลาสัปดาห์หนึ่งอาจจะทำงาน 5 วัน แต่ไม่ใช่ทำ 5 วันแล้ว 2 วันจะเป็นวันหยุดเต็ม ๆ นะคะ เพราะกี้จะไม่ค่อยมีวันหยุดที่เต็มวัน เราถ่ายละครแบบใช้เต็มวันแน่ ๆ 3-4 วัน ส่วนที่เหลืออีก 3 วัน ก็มีงานพวกถ่ายหนังสือ อีเวนต์ สัมภาษณ์อะไรทำนองนี้ที่ใช้แค่ครึ่งวัน เวลาที่เหลือก็ว่างไปนวดบ้าง ไปทำสีผมบ้าง ไปเสริมสวย คือมันต้องซ่อมแซมค่ะ (หัวเราะ) เรียกว่าวันซ่อมแซม คือมีเวลาให้ตัวเองมากขึ้น เพราะก่อนหน้านี้ถ่ายละครทั้ง 7 วันเลย เล็บงอกเลยมาครึ่งนึงแล้ว มีสีครึ่งไม่มีสีครึ่ง ไม่มีเวลาดูแลเลย

 

 

ทำไมช่วงแรกโหมงานหนักขนาดนั้น? 
เราคิดว่าเราทำได้ คงไม่ขนาดนั้นหรอก เอาเข้าจริง ๆ มันทั้งเหนื่อย ไม่ได้เจอเพื่อน ๆ ไม่ได้เจอใครเลยนอกจากคนที่กองถ่าย สุขภาพจิตก็เริ่มแย่ เลยต้องจัดระเบียบใหม่ค่ะ เวลาพักผ่อนส่วนมากถ้าว่างแค่วันเดียวก็จะนัดเพื่อน ดูหนัง กินข้าว เสริมสวยบ้าง เพราะเราค่อนข้างใช้ร่างเยอะค่ะ

แสดงว่าตอนนี้ไม่โกยรับงานเยอะ ๆ เหมือนตอนเข้าวงการใหม่ ๆ แล้ว? 
โกยได้ แต่ไม่อยากให้เหนื่อยจนเกินไปค่ะ ตอนนี้ก็โกยเต็มสองมือนะ แต่ไม่ล้นจนเกินไป ดีกว่าค่ะ

ยังอยากเล่นบทอะไรที่ยังไม่เคยเล่นอีกไหม? 
คงต้องค่อย ๆ เป็นไปตามประสบการณ์ของเราด้วยค่ะ ตอนนี้ก็เล่นประมาณนี้ไปก่อน หลังจากนี้ค่อยเปลี่ยนไปเล่นร้ายบ้าง มันอยู่ที่อายุด้วย มันยังไม่ถึงวัยที่จะพลิกไปเล่นอย่างอื่นมั้งคะ ที่ไม่ค่อยเห็นกี้เล่นดราม่าหนัก ๆ อาจเป็นเพราะคาแรกเตอร์ของกี้ไม่ได้ดูดราม่าหนักขนาดนั้น มีนักแสดงหลายคนที่ถนัดเล่นดราม่า บางคนถนัดเล่นบู๊ บางคนก็ถนัดเล่นคอมเมดี้ กี้ก็เหมือนกัน ก็มีบ้างที่กี้ได้ลองเล่นแบบอื่นดู แต่หลัก ๆ เราก็ประมาณนี้

เดี๋ยวนี้ดาราเกิดใหม่เยอะ กี้รักษามาตรฐานตัวเองอย่างไรให้ยืนอยู่ในแถวหน้าได้? 
กี้ว่าเราต้องใส่ใจในรายละเอียดของงานนะ ปัญหาไม่ได้อยู่ที่มีคนเข้ามาใหม่หรอก ปัญหาอยู่ที่เราทำมานานจนเริ่มละเลยรายละเอียดมากกว่า หรือเราไม่รักษามันไว้มากกว่า เพราะฉะนั้นเราต้องตั้งใจทำงานเหมือนเราเพิ่งเข้าวงการค่ะ ตั้งใจอ่านบท ตั้งใจแสดงให้ออกมาดี แล้วเราก็ต้องเป็นตัวของตัวเองด้วย คนเขาจะรักเราก็รักในแบบที่เราเป็น เป็นปกตินะที่ดาราอาจจะเหมือนกันบ้าง อย่างกี้กับแมท (ภีรนีย์ คงไทย) มีคาแรกเตอร์คล้ายกัน แต่มันก็ไม่จำเป็นที่เราจะต้องเปลี่ยนตัวเองเพื่อที่จะดูแปลกแหวกแนวจากเดิมค่ะ

 

 

ตอนนี้น้องสาว (มารีน่า บาเล็นซิเอก้า) เพิ่งเข้าวงการ มีอะไรแนะนำน้องบ้างไหม? 
กี้ว่าวงการบันเทิงมันไม่สามารถสอนเป็นคำพูดได้ มันคือประสบการณ์ที่เราจะต้องเจอเอง มันจะค่อย ๆ เจอทีละนิดละหน่อย เจอแล้วค่อยมาถามมันจะง่ายกว่าที่เราพูดไปก่อน เพราะมันยังไม่เห็นภาพไง บอกเลยว่าทำงานในวงการบันเทิงต้องมีความอดทนสูงมาก เพราะต้องนั่งรอเข้าฉากนานจริง ๆ บางทีรอ 5-6 ชั่วโมง บางฉากอยู่ในป่า ไม่มีอะไรทำเลย ต้องนั่งรออย่างเดียว สัญญาณโทรศัพท์ก็ไม่มี เพราะฉะนั้นมันต้องใช้สมาธิและความอดทนสูง ซึ่งก็ต้องฝึกกันเองจนเริ่มชิน ส่วนการช่วยผลักดัน มีบ้างที่เวลาเราเจอผู้จัดก็จะบอกว่าน้องโตแล้วนะ อยากให้ลองเล่นละครดูบ้าง แต่สุดท้ายแล้ว เขาก็ต้องไปแคสเหมือนคนอื่น ๆ ตามปกติ ก็อยู่ที่ตัวเขาแล้วค่ะ

ตอนนี้แฟนคลับยังอยากให้เล่นละครคู่กับ บอย - ปกรณ์ อยู่ไหม? 
เป็นปกติค่ะที่คนดูอยากให้เราคู่กัน แต่เวลาที่เราคู่กับคนอื่น คนดูก็ยังดูเหมือนเดิมนะ แต่มีกระแสเรียกร้องมาเรื่อย ๆ ก็ดีเหมือนกันค่ะ ร่วมงานกับเขาล่าสุดประมาณ 2 ปีที่แล้ว เดี๋ยวก็คงวนกลับมาเจอกันอีกแน่นอนค่ะ แต่เวลากี้เล่นคู่กับคนอื่น คนดูก็เชื่อนะ กี้ไม่เคยเจอปัญหาในการคู่กับพระเอกคนไหนเลย ไม่เคยโดนแอนตี้ ที่จริงก็เข้าขากับพระเอกทุกคนนะ แต่คนดูชอบเวลาเราคู่กันแค่นั้นเอง

ตอนนี้หันมาทำธุรกิจด้วย เป็นอย่างไรบ้าง? 
กี้ทำธุรกิจเครื่องประดับ ก็ดีค่ะ ของขายหมดเร็ว ต้องเร่งออกแบบและผลิตให้ทัน เพราะปัญหาตอนนี้คือของมาช้า ก็กำลังแก้ไขอยู่ค่ะ กี้ทำกับ พี่ไอซ์-พิชพงศ์ ทำกันแค่ 2 คน ก็ทำตลอดค่ะ อย่างตอนอยู่กองถ่ายละคร เวลาพัก 2-3 ฉาก บางทีเดินไปเห็นรูปทรงรั้วบ้านซึ่งดูดี เราก็ได้ไอเดียมาทำ เก็บรายละเอียดตรงนั้นตรงนี้ มันดีนะเวลาเราได้ไปกองถ่าย เพราะได้เจอสิ่งต่าง ๆ มากมาย เช่น ภาพวาดในบ้านที่เราไปถ่าย ลายกระเบื้องบ้าง ลายลวดดัดรั้วบ้านเขาบ้าง คือถ้าเรามีทีมที่เยอะกว่านี้ก็อาจผลิตสินค้าได้เยอะขึ้น หรือถ้ามีคนรับไปขายเมืองนอกก็คงดี เพราะตอนนี้ทีมเรามีแค่ 2 คน คนออกแบบมีแค่กี้คนเดียว ก็เลยออกช้าหน่อย เดือนหนึ่งอาจจะได้แค่แบบสองแบบ กี้ชอบทางนี้ ทั้งที่เราไม่มีพื้นฐานด้านการออกแบบมาเลย ได้ลองทำดู เหมือนเป็นประสบการณ์ค่ะ แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องที่เรียนรู้ยากหรอก เราอยู่กับของสวย ๆ งาม ๆ เวลาถ่ายแบบ ได้เจอสไตลิสต์หลายคน คือมีคนให้คำปรึกษาเยอะมาก แล้วก็เรียนรู้จากคำติชมด้วย ทั้งจากลูกค้าที่มาซื้อ และเพื่อน ๆ

 

 

เรื่องความรักบ้าง ทุกวันนี้เป็นอย่างไร? 
มีความสุขดีค่ะ ไม่ได้มีปัญหาอะไรเลย ส่วนจะมองไกลหรือเปล่าก็เป็นเรื่องของอนาคต ตอนนี้ยังไม่ทราบเลยค่ะ

รู้สึกอย่างไรที่คนจับตามองคู่ของเรามากเป็นพิเศษ? 
ค่อนข้างชินแล้วค่ะ เพราะอยู่ในวงการมา 11 ปี มันชินและเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปแล้ว ส่วนเขาอาจจะไม่ชินมาก แต่ด้วยความที่คุณแม่ป๊อกเป็นถึงนางงามจักรวาล เขาก็เลยอยู่ในสปอตไลต์ แต่เป็นอีกสปอตไลต์หนึ่ง คงยังไม่ค่อยชินกับการมีข่าว แต่เวลาไปไหนมาไหนกันแล้วมีคนมอง เขาก็ชินนะ เพราะเวลาไปไหนมาไหนกับแม่ของเขา คนก็มองเหมือนกัน เขาบอกว่าตอนเด็ก ๆ เวลาไปกับแม่มีแต่คนมอง มีแต่คนมาขอถ่ายรูป เขาเขิน เขาไม่ชอบ เลยไม่ค่อยเดินกับแม่ พอโตขึ้นแล้วมาเจอเรา กลายเป็นว่ายิ่งกว่าเดิมอีก (หัวเราะ) เขาบอกอุตส่าห์หนีไม่เดินห้างกับแม่แล้วนะ ดูสิยังมาเจออีก แต่เขาก็เข้าใจและโอเคนะ

เขาเป็นคนที่ตรงสเปกกี้ไหม? 
ก็ตรงนะ กี้ชอบคนทำงานเก่ง อดทน มีความรู้รอบตัวเยอะ ซึ่งก็ตรงกับเขาเลยค่ะ

 

 

แสดงว่าไลฟ์สไตล์ตรงกันด้วยหรือเปล่า? 
ไม่นะ เขาชอบทางด้านดนตรี ทำเพลง แต่เราทำไม่เป็น การที่ไลฟ์สไตล์ไม่เหมือนกันก็ใช่ว่าจะอยู่ด้วยกันไม่ได้ แต่บางคู่ไลฟ์สไตล์ไม่ตรงกันก็อาจอยู่ด้วยกันไม่ได้ ถ้าเป็นไลฟ์สไตล์ที่อีกฝ่ายไม่ชอบ สำหรับกี้แม้จะไม่ได้มีไลฟ์สไตล์ในเรื่องเพลงแบบเขา แต่ไม่ได้แปลว่าเราไม่ชอบ มันเป็นอะไรใหม่ ๆ ที่เราได้เรียนรู้มากขึ้นมากกว่า อีกอย่างเขาเป็นคนที่เก่งภาษาอังกฤษ ส่วนเราเล่นละครมันก็มีคำที่ใช้ในละคร เป็นคำสวย ๆ ที่ในชีวิตประจำวันไม่ค่อยได้ใช้สักเท่าไหร่ เวลาเขาแต่งเพลงจะใช้ภาษาอังกฤษเยอะ เราก็บอกให้ใช้ภาษาไทยมากขึ้น ใช้คำนี้สิ เพราะคนฟังเป็นคนไทยนะ จะใช้ภาษาอังกฤษเยอะไม่ได้ ก็จะช่วยให้คำปรึกษาเรื่องเนื้อเพลงค่ะ แต่เรื่องเล่นละคร กี้ว่าเขาไม่ชอบอะไรแบบนี้ค่ะ เลยไม่ได้ชวน

มุมมองความรักของกี้เป็นอย่างไร? 
กี้ว่าถ้าแฟนเป็นทั้งเพื่อน เป็นทั้งพี่ เป็นได้หลาย ๆ อย่าง มันดีนะ คนหนึ่งเป็นให้เราได้หลายอย่าง อะไรที่เราไม่เก่งเขามาช่วย อะไรที่เขาไม่เก่งเราก็ไปช่วย

สุดท้ายนี้ฝากอะไรถึงแฟนคลับบ้าง? 
ขอบคุณแฟนคลับที่อยู่กันมานานทุกคนที่ดูละครกี้ตั้งแต่เรื่องแรกเลย ขอบคุณแฟนคลับใหม่ ๆ ที่เพิ่งเข้ามา ขอบคุณแฟนคลับที่ตามไปไหนมาไหนด้วย และขอบคุณแฟนคลับที่อยู่ทางบ้าน ขอบคุณที่ติดตามและคอยสนับสนุนผลงานพร้อมให้คำติชมต่าง ๆ กี้พยายามทำทุกผลงานให้เป็นที่ชื่นชอบ หวังว่าจะได้มอบความสุขให้กับทุกคนไม่มากก็น้อยค่ะ