ข่าว > ข่าวดาราทั้งหมด > สัมภาษณ์ดารา

'ไอซ์ อภิษฎา' ไม่รีบข้ามสเต็ป ขอมีรักแบบค่อยเป็นค่อยไป

12 พ.ค. 2558 15:29 น. | เปิดอ่าน 1521 | แสดงความคิดเห็น
แชร์หน้านี้ แชร์หน้านี้
 

 

เรียกว่าเป็นนางร้ายคิวทอง สำหรับ ไอซ์ - อภิษฎา เครือคงคา เพราะนอกจากละคร "น้ำตากามเทพ" ที่กำลังออกอากาศ และ ทำคนดูอิน จนขอสมัครเป็นแฟนคลับ "ทีมดีดี้" กันทั้งบ้านทั้งเมืองแล้ว เจ้าตัวยังมีละครที่กำลังถ่ายทำอีก 3 เรื่องติด ฮอตขนาดนี้ "ดาวต่างมุม" เลยพลาดไม่ได้ที่จะนัดสาวไอซ์ มานั่งพูดคุยถึงเรื่องงานและธุรกิจที่กำลังไปได้สวย รวมไปถึงเรื่องหัวใจกับนักธุรกิจหนุ่มชื่อ "แม็กซ์" ซึ่งปกติเธอออกปากว่าไม่ค่อยพูดถึงเรื่องความรักสักเท่าไหร่ เพราะฉะนั้นพลาดไม่ได้แม้แต่บรรทัดเดียว

ที่มา: ดาวต่างมุม เดลินิวส์ / ภาพ: @apitsada (IG)


ถามถึงฟีดแบ็กละครเรื่อง "น้ำตากามเทพ"? 
เรื่องนี้ไอซ์รับบทเป็นตัวละครชื่อดีดี้ค่ะ คาแรกเตอร์เป็นไปตามเบสิกของละครไทยเกือบทุกเรื่องที่ว่า ต้องจบจากเมืองนอก แล้วก็เป็นแฟนกับพระเอกอยู่แล้ว พอกลับมาเมืองไทย ก็จะมีเรื่องราวต่าง ๆ ที่ทำให้พระเอกกับนางเอกเจอกัน สุดท้ายเขาก็ได้กัน แล้วฉันล่ะ สุดท้ายก็เป็นนางร้ายเลยไม่รู้ตัว ก็ถือเป็นละครอีกเรื่องหนึ่งที่ฟีดแบ็กดีตั้งแต่ก่อนฉายเลยด้วยซ้ำ พอออกอากาศแล้ว คนก็จะจำคำพูด ไดอะล็อกของเราได้ จะมีแฟน ๆ มาคุยกันในเว็บว่าชอบคำพูดไหนของดีดี้มากที่สุด มีแฮชแท็กว่าทีมดีดี้ รอนะคะคืนนี้ เราก็ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ


ไม่ค่อยเห็นไอซ์เล่นละครคอมเมดี้สักเท่าไหร่? 
จริง ๆ ก่อนหน้านี้ไอซ์เคยเล่นละครแนวคอมเมดี้กับทางจีทีเอชมาแล้วเรื่องหนึ่งคือ “หมวดโอภาส” แต่เรื่อง “น้ำตากามเทพ” จะแตกต่างจากเรื่องอื่น เพราะเราต้องเล่นแบบจริงจัง ต้องคิดว่าเราเล่นละครดราม่า ไม่ใช่ละครตลก ซึ่งบางทีเวลาแสดงเนี่ย ต้องเอาเล็บจิกมือตัวเองเลย กลัวจะหลุดขำ เพราะกว่าจะได้ซีนนึงนี่ยากเหมือนกันนะ เนื่องจากการถ่ายทำเรื่องนี้จะค่อนข้างคล้ายหนัง จริง ๆ ไอซ์ไม่ใช่คนเส้นตื้นหรอก แต่ถ้าเราขำอะไรแล้วจะขำไม่หยุด เลยต้องทำสมาธิก่อนเข้าฉาก ต้องอ่านบทของคนอื่นด้วย ถ้าไปฟังตอนเล่นเลยก็จะขำ เรื่องนี้เลยเหนื่อยมากใช้พลังเยอะมาก ต้องชาร์จแบตสุด ๆ


แล้วผลงานเรื่องอื่น ๆ มีอะไรอีก? 
ตอนนี้มีอีก 3 เรื่องที่ยังถ่ายทำไม่จบค่ะ คือ ผู้กองยอดรัก, เลือดตัดเลือด และ กำไลมาศ ถือว่าปีนี้ไอซ์ทำงานหนักที่สุดในชีวิตเลยนะ ความจริงเราไม่ได้อยากรับพร้อม ๆ กันหมด ไม่ได้โลภ และอยากให้งานทุกอย่างออกมาดี แต่ทั้ง 4 เรื่องนี้ ถ้าไม่รับเรื่องใดเรื่องหนึ่งเราจะเสียใจ อย่าง "ผู้กองยอดรัก" สนุกตั้งแต่ผู้จัดมาชวนแล้ว เพราะในเรื่องไอซ์ต้องรับบทเป็นพริตตี้ มาจากสุพรรณบุรี เราก็คิดว่าคงไม่มีใครให้บทแบบนี้กับเราอีก ส่วน "เลือดตัดเลือด" ในเรื่องมีมาเฟีย มีผู้ชายเยอะไปหมด ก็คิดว่าคนดูน่าจะชอบ ไม่เล่นก็ไม่ได้ และ "กำไลมาศ" นี่ติดต่อมานานมาก ไอซ์เคยบอกกับพี่ หน่อง - อรุโณชา ว่าอยากเล่นละครพีเรียด เพราะไอซ์คิดว่าคนมองว่าหน้าเราไม่เหมาะกับละครแนวนี้หรอก พอพี่หน่องติดต่อมาเลยดีใจมาก แล้วบทมีมิติมาก ต้นเรื่องเป็นเด็กเก็บกด พ่อไม่รัก ก่อนจะมาเป็นคนอยากได้ อยากมี เข้าซีนวันแรกไอซ์ต้องเล่นเป็นคนดี อยู่บ้าน ทำขนม เราก็คิดว่าคนดูจะเชื่อไหมเนี่ย เขาจ้างผิดคนแน่เลย นึกว่าจะให้เล่นร้าย สรุปไม่ร้ายเหรอ (หัวเราะ) ก็ต้องนับหนึ่งใหม่เลย เพราะเราไม่เคยเล่นละครย้อนยุคมาก่อน คำพูดคำจา จะเดินเหิน ต้องเรียบร้อยไปหมด แต่ตอนนี้ก็เข้าที่แล้วค่ะ


นอกจากงานละครก็ทำธุรกิจหลายอย่างมาก? 
ไอซ์ว่าเป็นเรื่องที่ดี ที่เราได้ทำอะไรอย่างอื่นนอกจากเล่นละคร จะได้หลุดออกมาจากโลกตรงนั้นบ้าง สำหรับธุรกิจของไอซ์ตอนนี้ก็มีร้านเช่าชุด "เซเลบ โคลเซ็ท" ที่เข้าที่เข้าทางแล้วค่ะ แต่เราก็ยังหาแบบใหม่ ๆ เข้าร้านเสมอ อย่างล่าสุดก็มีคอลเลกชั่นที่ไอซ์ออกแบบมาพิเศษ ในโอกาสครบรอบ 2 ปี คือเราจบด้านแฟชั่นดีไซน์มาแต่ไม่ค่อยมีคนรู้ ไอซ์ได้แรงบันดาลใจหลังจากได้ไปดูปราสาทที่เขาเอามาทำโลโก้ของดิสนีย์ ที่เยอรมัน มาออกแบบเป็นชุดให้เช่าราคาเดิมเลย เป็นของขวัญให้ลูกค้า ส่วนธุรกิจครีมกันแดด "เจลลี่ซัน" ที่กำลังทำอยู่ ตอนนี้ก็ลงตัวแล้ว มีขายที่ร้าน อีฟแอนด์บอย แล้วก็ เซเว่น แคตตาล็อก แล้วก็มีธุรกิจร้านอาหาร "ไวน์ โซไซตี้" ที่อเวนิว ข้างเมเจอร์รัชโยธิน นอกจากนี้ก็แอบมีธุรกิจที่คิดไว้ว่าจะอยากจะทำในอนาคตอีกค่ะ

 

 

ขึ้นแท่นเถ้าแก่เนี้ยหรือยัง? 
ยังค่ะ ยังอีกไกล ไอซ์ยังเบี้ยน้อยหอยน้อย (ยิ้ม) ทำไปเรื่อย ๆ ถ้าอะไรที่เสี่ยงมาก เราก็ยังไม่พร้อมขนาดนั้น เพราะต้องทำงานในวงการด้วย ไอซ์ว่าการทำธุรกิจนั้น ไม่จำเป็นว่าเราต้องประสบความสำเร็จทุกอย่าง แต่ว่าเป็นการเรียนรู้ เมื่อก่อนเคยคิดว่าพออายุ 30 แล้ว เราอยากจะสบาย เลยเริ่มทำอะไรเร็ว เพราะโอกาสที่จะผิดพลาดก็มี


แบ่งเวลายังไงทั้งเรื่องงานและธุรกิจส่วนตัว? 
ก็ต้องทำให้ได้ค่ะ นอกจากเรื่องงานในวงการกับธุรกิจ เรายังต้องออกกำลังกายและดูแลตัวเองอีก ไอซ์ว่าทุกอย่างถ้าเราตั้งใจเราจะทำได้เอง อย่างบางวันก็มีท้อบ้าง แอบคิดนะ ว่าเพื่อนไปทานข้าวกันทำไมเราไปไม่ได้เลย แต่พอไปถึงหน้าเซตเราแฮปปี้ เลยมาคิดว่าเราคงรักอาชีพนี้ ไม่งั้นคงทำไม่ได้นาน


อยู่วงการมานานเท่าไหร่แล้ว? 
เหมือนแป๊บเดียว แต่ทำงานมา 10 กว่าปีแล้วนะคะ ไอซ์เริ่มงานในวงการตั้งแต่เรียนมัธยม ตอนนั้นทำพิธีกรทางยูบีซี ทุกวันนี้ก็ยังมีคนแซวนะคะ ว่า "ไอซ์ ยูสคูล" อย่าง พี่เต๋อ - ฉันทวิชช์ เป็นแฟนพันธุ์แท้รายการไอซ์เลย (หัวเราะ) จริง ๆเราก็ไม่คิดเลยว่าจะอยู่วงการมาได้นานขนาดนี้ คิดว่าเรียนจบคงหาอย่างอื่นทำ เพราะตอนแรกไอซ์ไม่ชอบเลย ให้ยิ้ม หัวเราะ อยู่คนเดียว ทำไม่ได้หรอก แต่เหตุผลที่ยอมทำ เพราะอยากได้เงินซื้อโทรศัพท์มือถือ อันนี้เป็นความลับเลย (ยิ้ม) เราก็คิดนะว่าถ้าวันนั้นเราถอย และบอกตัวเองว่าไม่ชอบ ก็คงฝังใจ ทั้งที่ในวงการนี้มีอะไรที่ท้าทาย ให้เราได้พัฒนาในทุก ๆ วัน ไอซ์ว่าคนที่จะอยู่ในวงการได้นาน ต้องเป็นคนรับผิดชอบเท่านั้น เพราะกว่าที่เราจะได้ออกงาน หรือออกทีวีรายการหนึ่ง มีหลายคนช่วยกันปั้นแต่ง ทั้งช่างหน้า ช่างผม ละครซีนหนึ่ง คนรับผิดชอบเกือบ 30-40 คน ฉะนั้นเราต้องไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน หรือต้องมารอเรา


ล่าสุดเพิ่งฉลองวันเกิด 30 ปีไปหมาดๆ? 
จุ๊ ๆ อย่าบอกอายุ (หัวเราะ) จริง ๆ ไอซ์ว่าคนเรายิ่งอายุมาก ยิ่งประสบการณ์มากขึ้น ถ้าดูแลตัวเอง และใช้ชีวิตเป็น ก็ได้เปรียบกว่าคนอายุน้อย เพราะเรียนรู้ทั้งถูกและทั้งผิดมาแล้ว เลยรู้ว่าจะรับมือกับปัญหายังไงนะคะ

 

 

ปีนี้เป็นปีชงด้วยใช่ไหม? 
ชงมากค่ะ เริ่มตั้งแต่เดินสะดุดล้ม แล้วเอามือรองรับก็ไม่น่าเชื่อว่าแขนจะหัก ตอนแรกก็ยังเฉย ๆ นะคะ จนกระทั่งประสบอุบัติเหตุในกองถ่าย เราซ้อมเดินข้ามสะพานไม้ เดินไปเดินมาหลายรอบ แต่พอเริ่มถ่ายจริง เท้าตกไปอยู่ในไม้เลย เลยโอเคเชื่อก็ได้ แต่ก็โชคดีที่ปีนี้มีโอกาสได้ทำบุญเยอะค่ะ ไม่ใช่ว่าชงแล้วฉันถึงไปนะ เพราะเรื่องทำบุญถ้าเวลาไม่พร้อม หรือไม่มีกัลยาณมิตรที่ดีมาชวนก็ไม่ได้ไป ปีนี้ขนาดเรายุ่งมากยังได้ไปเลย ทั้ง ฮ่องกง อินเดีย พม่า เนปาล ล่าสุดก็ไปศรีสะเกษมา ไปยกช่อฟ้า จองไว้มา 2 ปี แล้วนะคะ หลวงพ่อเคยชวน เราก็รับปากไว้ เพราะวัดที่ไม่มีโบสถ์หรือจะสร้างใหม่ก็หายาก แล้วก็ปรากฏว่าจังหวะมาเป็นปีนี้พอดี


แล้วเรื่องความรักตอนนี้เป็นยังไงบ้าง? 
ยังดูกันไปเรื่อย ๆ ค่ะ จริง ๆ เราไม่ได้เปิดตัวมากขึ้น แต่เพื่อน ๆ ช่วยกันเปิดให้ (หัวเราะ) ก็เข้าใจว่าเขาคงอยากให้เราแฮปปี้แหละ จริง ๆ ไอซ์เป็นคนพูดเรื่องความรักน้อย แต่ครั้งนี้เราเริ่มต้นด้วยความเป็นเพื่อน เวลาไปทริปต่าง ๆ เลยโพสต์ภาพลงอินสตาแกรมแล้วก็แท็กรูปเขา ไม่ได้คิดว่าจะต้องปิดเดี๋ยวจะเป็นข่าว เพราะว่าเราก็ไปกับคนเยอะ ๆ


ประทับใจอะไรในตัวคุณแม็กซ์ ถึงยอมเปิดใจคุยกับคนนี้? 
เรารู้จักกันตั้งแต่เรียนหลักสูตรผู้นำยุคใหม่ของระบบประชาธิปไตย ที่สถาบันพระปกเกล้า เราเริ่มต้นจากการเป็นเพื่อนกัน ไอซ์รู้สึกได้ว่าเขาไม่ได้ดีกับเราแค่คนเดียว เวลาไปทริปกันกับเพื่อน ๆ เขาช่วยดูแลเพื่อนเราทุกคน ช่วยถือของ ยกของ เป็นธุระให้ทุกคน ซึ่งไอซ์ว่าเขาเป็นคนจิตใจดีนะคะ


อย่างตัวคุณแม็กซ์เอง รู้สึกยังไงที่มีคนมาจับจ้อง? 
ไอซ์ไม่เคยถามเขาเรื่องนี้เลยนะคะ เลยตอบไม่ได้ แต่จริง ๆ เขาไม่ค่อยได้อยู่เมืองไทย เพราะทำงานเกี่ยวกับสายการบิน ตอนเจอไอซ์เขายังไม่รู้เลยว่าเราเป็นดารา ทำไมคนต้องสนใจเรา เขาไม่รู้เรื่องเลย ไอซ์ว่าเป็นความตลกของเขาอย่างหนึ่งคือเขาไม่รู้เรื่องอะไรเลย แล้วคนจะชอบแกล้งภาษาไทยเขา ไอซ์ก็ชอบแกล้งเหมือนกัน จะถามเขาว่ารู้หรือเปล่าคำนี้แปลว่าอะไร แต่เอาเป็นว่าในคลาสที่เรียน ไม่มีใครไม่แกล้งเขาดีกว่า

 

 

เพื่อนในก๊วน ชมพู่ กับ เอมมี่ ไปกันหมดแล้ว เราอยากแต่งบ้างหรือยัง? 
จากใจไอซ์เลย คือเราไม่ได้รีบ หรือมีความรู้สึกอิจฉาว่าเพื่อนแต่งแล้ว เรากลับรู้สึกดีที่เขาแต่งกันไปก่อน จะได้เป็นครูให้เรา ไอซ์ว่าการแต่งงานไม่ใช่เรื่องง่าย แต่คือการเริ่มต้นอีกหนึ่งสเต็ปในชีวิตเลย ไม่ใช่แบบในละครที่จะแฮปปี้เอ็นดิ้ง แล้ววันนี้เรายังเป็นเพื่อนกัน ถ้าจะเป็นแฟนกัน คงต้องปรับอีกเยอะ ฉะนั้นกว่าจะถึงขั้นสามีภรรยากันคงจะอีกไกล ไอซ์ว่าการที่คนจะเป็นคู่กันได้ เราต้องเรียนรู้ที่และเสียสละก่อน จะมารับอย่างเดียวคงไม่ได้ อีกอย่างด้วยความที่ไอซ์มีเพื่อนเป็นพี่ที่โตกว่าเยอะ เขาก็บอกว่าแกรีบใช้ชีวิตเลยนะ ถ้าแกแต่งงานแล้วจะไม่ได้ไปไหนเลย โน่นนี่ เลยทำให้เราเห็นความจริง แต่ไอซ์ไม่ได้กลัวหรือไม่เชื่อในความรัก ไอซ์เป็นคนหนึ่งแหละที่เชื่อในความรัก แล้วก็อยากมีครอบครัวที่ดีในอนาคต แต่ตอนนี้เราแค่ยังไม่พร้อม


คุณแม็กซ์เคยเจอกับคุณพ่อคุณแม่ไอซ์หรือยัง? 
เคยเจอแล้วนะคะ เพราะกลุ่มเพื่อน ๆ พอเลิกเรียนแล้ว ก็จะไปทานข้าวที่ร้านเรา เลยมีโอกาสได้เจอคุณพ่อคุณแม่บ้าง แต่คุณพ่อคุณแม่ไอซ์ ค่อนข้างมั่นใจในการเลี้ยงดูของเขา ค่อนข้างเชื่อใจ และไว้ใจไอซ์ในระดับหนึ่งว่าถ้าเราเลือกคบเพื่อนคนไหน แสดงว่าเราเลือกแล้ว เพราะเราไม่ได้คบได้ทุกคน เพราะฉะนั้นเขาไม่เคยมีปัญหากับบุคคลที่ไอซ์อยากจะศึกษาด้วยเลย


มุมมองความรักตอนนี้เป็นยังไงบ้าง? 
มุมมองความรักไอซ์ไม่ได้เปลี่ยนนะคะ ไอซ์มองว่าความรักเป็นสิ่งที่ดี ณ ช่วงเวลานี้ ต่อให้คนที่เราศึกษาอยู่จะใช่หรือไม่ใช่ในอนาคตก็ตาม แต่เขาก็เป็นสิ่งดี ๆ ที่เข้ามาในชีวิตของเรา เราอยากจะขอบคุณเขา เพราะชีวิตเราจะไม่สมบูรณ์เลย ถ้าไม่มีคนผ่านเข้ามา เพราะบางคนอาจจะเป็นบทเรียน ทุกคนเป็นเรื่องของการเรียนรู้


สุดท้ายถามถึงคติที่ใช้ในการดำเนินชีวิตของไอซ์? 
บางเรื่องเราบังคับใจตัวเองยังยากเลย เราจะไปบังคับใจคนอื่นได้อย่างไร แล้วเราจะไม่เสียใจ ถ้าเราไปคาดหวังว่าทำไมคนนั้นไม่เป็นแบบนี้ แบบนั้น เพราะเราจะเสียใจเอง ฉะนั้นปรับเปลี่ยนที่ใจเราเองดีกว่า ง่ายกว่าค่ะ

 

: ไอซ์ อภิษฎา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • "บอย ปกรณ์" ร่วมงาน "Batman v Superman Dawn of Justice With Bangkok Bank"
  • “ไอซ์-อภิษฎา”อยากตบ “แพทตี้” “ซันนี่” เพิ่มดีกรีความแค้น ใน “น้ำตากามเทพ”
  •  
     
     
    ร่วมแสดงความคิดเห็น
     
    ชื่อ :
     
    ความคิดเห็น :