หลังจากนางเอกสาว มิว - นิษฐา จิรยั่งยืน แจ้งเกิดเป็นคู่จิ้น กับหนุ่ม โป๊ป - ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ จากเรื่อง "คุณชายปวรรุจ" ผ่านมาแล้ว 3 ปี เธอก็ยังคงมีผลงานออกมาให้แฟน ๆ ได้ชมอย่างต่อเนื่อง และล่าสุดเจ้าตัวกำลังสวมบท "อาจู" ในเรื่อง "สิงห์" ประกบพระเอกแถวหน้า อย่าง ติ๊ก - เจษฎาภรณ์ ผลดี ได้อย่างน่าเอ็นดู วันนี้ "ดาวต่างมุม" เลยขอนัดแนะสาวสวยคนนี้มาทำความรู้จักกันให้ลึกกว่าที่เห็น ใครพร้อมจะไปเปิดใจของเธอทั้งเรื่องการทำงานและความรัก ห้ามพลาดบทสัมภาษณ์นี้เลยทีเดียว

ที่มา: ดาวต่างมุม เดลินิวส์ / ภาพ: @mewnittha (IG)

บทบาท "อาจู" ในเรื่องสิงห์ คาแรกเตอร์เป็นยังไง? 
อาจูเป็นเด็กบ้าน ๆ ธรรมดาค่ะ หาเช้ากินค่ำ เป็นคนมีความกตัญญูและรักครอบครัว และเธอก็เป็นคนสู้ตาย คาแรกแตอร์นี้มันมีความเรียบร้อยตรงที่เติบโตมากับความกดดันจากอาม่าเยอะ เพราะอาม่าไม่รัก แต่โดยส่วนตัวอาจูไม่ได้เป็นคนเรียบร้อบ มีความดื้อ มีความคิดเป็นของตัวเอง แต่เพราะอยู่กับแม่และอาม่า เลยไม่ได้แสดงออกมามากนักค่ะ จริง ๆ คาแรกเตอร์นี้ก็คล้ายตัวมิวนะ เพราะมิวเองก็ไม่ได้เรียบร้อยมาก มีความคิดเป็นของตัวเอง ส่วนความต่างคืออาจูเขาจะขี้กลัว ลนลานมากกว่าตัวมิว มิวจะมีสติคิดไตร่ตรองมากกว่าค่ะ

สิงห์ ถือเป็นอีกหนึ่งละครฟอร์มยักษ์ที่หลายคนคาดหวัง เรารู้สึกกดดันในการแสดงบ้างมั้ย? 
ส่วนตัวมิวไม่ค่อยกดดันนะ เราค่อนข้างดีใจมากกว่าที่อยู่ในเรื่องนี้ เราชอบพี่ติ๊กอยู่แล้ว พอได้มาเล่นละครกับพี่ติ๊กซึ่งเป็นคนที่ไม่ค่อยรับละครก็รู้สึกดีใจ และเรื่องนี้ก็ยังเป็นซีรีส์ฟอร์มยักษ์ที่แต่ละตอนก็มีนักแสดงที่สุดยอดมาร่วมแสดง แล้วเราก็ได้มาเป็นหนึ่งในนางเอก เป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่มากค่ะ ส่วนที่ได้ร่วมงานกับพี่ติ๊ก เขาก็ไม่เชิงสอนเทคนิคการแสดง แต่เขาจะช่วยในเรื่องที่จะทำให้เราสนิทสนมกันมากกว่า ช่วยต่อบทกันให้คุ้นเคย คือแรก ๆ มิวก็เกร็งที่ได้มาเล่นกับเขา เพราะเราก็เป็นเด็กใหม่ เลยไม่รู้ว่าจะคุยอะไรกับพี่เขาดี แต่พอได้มาเล่นจริง ๆ มันต่างจากที่คิดไว้ตอนแรกมาก ตอนแรกมิวคิดว่าพี่ติ๊กจะเป็นคนหล่อแบบนิ่ง ๆ แต่จริง ๆ เขาเป็นคนที่พูดคุยเล่นได้ ปากหวาน พูดจาเพราะค่ะ

มิวเข้าวงการมาด้วยการแจ้งเกิดเป็นคู่จิ้นกับโป๊ป - ธนวรรธน์ ตอนนี้แฟน ๆ ก็ยังฟินอยู่ รู้สึกยังไงบ้าง? 
ต้องขอบคุณแฟนคลับ เพราะมิวก็ยังไม่เคยรู้จักคู่จิ้นมาก่อน แต่พอมาเล่นเรื่องนี้ เขาก็จิ้นเรากับพี่โป๊ปซะอย่างนั้น และก็จิ้นตลอดมา ตอนแรกเราคิดว่าจะมีเชียร์แค่ตอนที่ละครออนแอร์ แต่พอละครจบเขาก็ยังจิ้นกันต่อ ก็ดีค่ะ ส่วนงานละครกับพี่โป๊ปตอนนี้ยังไม่มี แต่มิวคิดว่าเราคงได้กลับมาเจอกันอีก แต่คงยังไม่ใช่เร็ว ๆ นี้

 

 

มิวกลัวว่ากระแส โป๊ป - มิว จะทำให้แฟนคลับเราไม่อินเวลาเราเล่นคู่กับคนอื่นรึเปล่า? 
ตอนแรกเราก็กลัวอย่างนั้นเหมือนกันนะคะ แต่พอเราได้ลองเล่นกับนักแสดงคนอื่น เขาก็ยังชอบและอินกันอยู่ ถามว่าหากมิวต้องโคจรมาเล่นละครกับพี่โป๊ปอีกครั้ง กลัวไม่ดังเท่าเดิมรึเปล่า คือมิวไม่คิดอย่างนั้น เพราะตอนแรกที่เราเล่นกับพี่โป๊ปก็ไม่ได้คิดว่าจะต้องเล่นให้มันฟิน แต่มันก็เป็นเองด้วยตัวละครและเคมี เราไม่ต้องพยายามเล่นให้มันไปจิ้นอะไรเลยค่ะ

มิวคาดหวังต่องานแสดงในแต่ละครั้งของตัวเองมากน้อยแค่ไหน? 
ก็หวังนะคะว่าคนจะจดจำในตัวละครล่าสุดที่เราเล่นได้ อย่างล่าสุดเราสวมบท "อาจ" ซึ่งเป็นคนน่ารัก เราก็อยากให้คนชอบในบทบาทที่ เราเล่นทุกเรื่อง อยากให้อินกับเรื่องล่าสุดของเราไม่อยากให้ติดภาพกับผลงานเก่า ๆ ค่ะ

เข้าวงการมา 3 ปีแล้ว มุมมองในวงการเปลี่ยนไปมั้ย? 
เปลี่ยนค่ะ เพราะตอนแรกที่มิวเข้าวงการมาจากแคสติ้งโฆษณา ตอนนั้นเราก็สนุก ๆ เพราะเรายังเรียนอยู่ด้วย ก็คิดแค่ว่ามาถ่ายงานก็ได้เงินแล้ว แต่พอเราทำงานมาเรื่อย ๆ มันเหมือนกับว่าเงินเป็นแค่ส่วนหนึ่ง แต่สิ่งหลักเลยคือเราต้องชอบกับงานมากกว่า เราต้องมีใจรักมันถึงจะทำได้ เพราะว่างานค่อนข้างหนักมาก ถ้าเราทำเพราะเงินอย่างเดียวเราจะไม่มีความสุขกับมัน คืองานมันทำ 7 วันเลย ส่วนตัวมิวทำงานเรื่อย ๆ แล้ว กลับรู้สึกชอบมากกว่าเรื่องของการได้เงิน จะเรียกว่ามิวหลงเสน่ห์วงการบันเทิงก็ได้นะคะ เพราะมันก็เป็นอะไรที่เราได้ทำหลากหลาย ไม่ใช่แค่เล่นละครอย่างเดียว แต่ได้ทำอย่างอื่นด้วย เช่น ไปงานช่อง เราก็ได้เต้น ได้ร้องเพลง หรืองานถ่ายแบบ ซึ่งทุกอย่างมันเป็นผลพวงมาจากการที่เรามาเป็นนักแสดงค่ะ

วันนี้ยังต้องปรับตัวในการใช้ชีวิตในวงการอีกรึเปล่า? 
มิวไม่ได้ปรับมาก เพราะมิวค่อนข้างเป็นตัวของตัวเองตั้งแต่ตอนแรกเลย คือมิวเป็นคนเรียบง่าย ชีวิตมิวไม่ได้สุดโต่งตั้งแต่แรกอยู่แล้วมันเลยไม่ต้องปรับอะไรมาก มีแค่ นิด ๆ หน่อย ๆ อย่างเรื่องการสร้างความเคยชินเวลาที่มีคนจับตามอง จากเดิมที่เราอยากทำอะไรก็ได้ ไม่มีใครสนใจ ตอนนี้ไปไหนคนก็คอยสังเกต เราก็ระวังตัวมากขึ้นด้วย ส่วนเรื่องการเรียนรู้จากวงการบันเทิง มันก็ได้ทั้งเรื่องทำให้เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น การที่เราทำงานกับคนเยอะ ๆ มันก็จะโตเร็วกว่าคนอื่น และก็มีเรื่องความรับผิดชอบ การตรงต่อเวลา คือมันต้องมีทั้ง 2 อย่างนี้ค่อนข้างเยอะค่ะ

 

 

แล้วการใช้ชีวิตในวงการเคยมีเรื่องที่ทำให้เรารู้สึกไม่สบายใจบ้างรึเปล่า? 
ก็จะมีบ้าง อย่างเช่นที่เราอยู่ดี ๆ ก็มีคนนั้นคนนี้มาติมาว่าเรา แรก ๆ เราก็งงนะว่าอะไร ทำไมต้องมาว่าฉันด้วย แต่ไป ๆ มา ๆ มิวก็ชินจนรู้สึกเฉย ๆ ค่ะ คือคนที่ว่าเราเขาก็อาจเป็นแฟนคลับคนอื่นซึ่งมาว่าเพื่อดิสเครดิตเรา แต่เราก็ไม่ได้เป็นอย่างนั้น เรารู้ตัวเองดีว่าเป็นอย่างที่เขาว่าจริง ๆ รึเปล่า แต่คำวิจารณ์มิวไม่ค่อยเอามานอยด์นะ เพราะมิวโกรธใครก็โกรธแป๊บเดียว ตอนอ่านคำวิจารณ์เราก็อาจเซ็ง ๆ แต่แป๊บเดียวก็ลืมแล้ว มิวไม่ได้เอามานั่งคิด เพราะมันเป็นที่นิสัยมิวด้วยที่เป็นคนโกรธแป๊บเดียวก็หายแล้ว มันเลยไม่ได้มากระทบกับจิตใจเราค่ะ คือเราพยายามคิดบวกนะ พยายามเข้าใจคนที่เขาว่าเรา และที่เราไม่โกรธเพราะไม่รู้ว่าเป็นใคร เลยไม่รู้จะโกรธคนไหนด้วย เราเองยังมีที่ไม่ชอบคนไหนก็ว่าเขาเหมือนกัน มันก็คงไม่แปลกที่ใครมาว่าเราค่ะ

ตั้งเป้าหมายในช่วงวัยทำงานของตัวเองตอนนี้ยังไงบ้าง? 
มิวไม่มีเป้าหมายระยะยาวนะคะ คือถ้ามิวถ่ายละครเรื่องนี้ เราก็แค่อยากทำเรื่องนี้ให้ดีที่สุดที่เราสามารถทำได้ คือก่อนหน้านี้มิวก็ชอบแพลนอะไรยาว ๆ เหมือนกัน แต่มันไม่เป็นอย่างที่แพลนไว้ คือก่อนที่มิวจะเข้าวงการ เราก็ฝันอยากเป็นดีไซเนอร์ ไปเปิดแบรนด์ เปิดช็อปที่เมืองนอกของตัวเอง แต่มันก็ไม่ได้เป็นตามนั้นกลายมาอยู่ในวงการแทน มิวเลยไม่วาง แพลนแล้ว มิวไม่ได้กลัวว่าตัวเองวางแพลนแล้วจะผิดหวัง แต่แค่ไม่รู้ว่าจะแพลนไปทำไม เพราะเราก็แฮปปี้กับตรงนี้ ค่อย ๆ ไปทีละก้าวค่ะ

ถามถึงเรื่องหัวใจกับคนสนิทนอกวงการบ้าง เห็นบอกว่าพักหลังคุยกันน้อยลง แต่สถานะยังดีอยู่ใช่มั้ย? 
มันเรื่อย ๆ แบบนี้มาตั้งนานแล้ว เพราะเราสนิทกันมา 5 ปี มันก็เป็นลักษณะเรื่อย ๆ มาตลอด เราไม่ได้คุยกันน้อยลงหรอกค่ะ แต่เราเจอกันน้อยลงมากกว่า เพราะเราว่างไม่เป็นเวลา แต่สถานะยังดีอยู่เหมือนเดิม ซึ่ง ณ ตอนนี้เขาเข้าใจเรามากขึ้นด้วยคือมันเหมือนการที่เราเข้ามาในวงการ เราก็ว่างน้อยลง ดังนั้นมันก็ทำให้เขาต้องเข้าใจเรามากขึ้น เพราะถ้าไม่เข้าใจเขาก็คงไม่ไหว วันนึงเราก็มีโทรฯหากันบ้าง คือเขาไม่นอยด์เรื่องเราไม่มีเวลานะ เขาค่อนข้างเข้าใจจริง ๆ ค่ะ

เล่าให้ฟังหน่อยว่ารู้จักหนุ่มคนนี้ได้ยังไง และถูกใจตรงไหนถึงเปิดใจคุย? 
กับคนนี้มิวรู้จักมาตั้งแต่ตอนเรียนมหาวิทยาลัยปี 1 แล้วค่ะ เราเป็นเพื่อนกันมาก่อน แล้วก็สนิทกันมาเรื่อย ๆ ถามว่าเขาถูกใจเราตรงไหน ก็ไม่รู้เหมือนกันนะ เพราะเราอยู่กับเขาแล้วมันก็สนุกดี และมันก็อยู่ไปได้เรื่อย ๆ โดยที่ไม่ต้องพยายามไปทำให้มันสนุก เราคุยด้วยแล้วสบายใจ ส่วนที่มิวกล้าเปิดเผยเรื่องหัวใจตั้งแต่แรกเริ่มเข้าวงการ คือมิวว่าตัวเราเองก็อายุ 20 กว่าแล้ว การมีเพื่อนผู้ชายก็คงไม่แปลก ซึ่งคุณแม่มิวก็เคยเจอเขาแล้ว ส่วนไฟเขียวมั้ย มิวว่าคุณแม่ก็คิดว่าเขาก็เป็นเพื่อนของลูกคนนึง ก็ให้ดู ๆ กันไปเรื่อย ๆ ก่อนค่ะ

 

 

เราเข้าวงการมา เขามีหวงหรือห่วงอะไรเราเป็นพิเศษบ้างมั้ย? 
เรื่องห่วงไม่มีนะคะ แต่เรื่องหวงก็มีบ้างนิดหน่อย เพราะการเล่นละครก็จะมีการใกล้ชิดสนิทสนมกับพระเอก เขาก็จะมีถาม ๆ ว่ามีจูบจริง มีหอมแก้มจริงรึเปล่าเนี่ย (ยิ้ม) แต่ก็ไม่ได้อะไรนะ อย่างเวลาเราเข้าฉากเลิฟซีนก็ไม่ต้องถึงขั้นขออนุญาตเขาก่อน เพราะว่าเขาไม่ได้ขนาดนั้น เขาแค่ถามเราเล่น ๆ แต่จะหวงจริงรึเปล่า ก็ไม่รู้เหมือนกัน

เวลาที่เป็นข่าวคู่จิ้น กับโป๊ปเขามีแซวรึเปล่า? 
ก็มีบ้างนิดหน่อย แต่เราก็ไม่อะไร เพราะเวลามีอะไรเราก็จะเล่าให้ฟังก่อนอยู่แล้ว คือเขาเป็นคนไม่ติดตามข่าว ก็อซซิปแบบนี้ อย่างเช่นเรามีข่าวกับพี่โป๊ป เราก็จะบอกเขาว่ามีข่าวกับพี่โป๊ปด้วย ซึ่งเขาก็ไม่ได้ว่าอะไร ส่วนเคล็ดลับที่ทำให้เราคบกันมาได้ถึง 5 ปี ก็คงเป็นเรื่องความเข้าใจ คือมันเป็นอะไรที่ต้องการความเข้าใจมาก ๆ เลยในการที่เราเข้ามาทำงานตรงนี้ แล้วเราเองก็เป็นคนที่หนักแน่นด้วย เราเจอคนเยอะ แต่เราก็ไม่เคยโลเล เราทำให้เขาเชื่อใจเราค่ะ

คู่เรามีช่วงเวลาหวาน ๆ กันบ้างมั้ย? 
คือคู่เราไม่เคยคุยกันหวาน ๆ เลย ส่วนใหญ่จะคุยเหมือนเพื่อน สบาย ๆ ไม่ได้เป็นคู่ที่สวีท ส่วนเรื่องเซอร์ไพร้ส์ที่เขาทำให้เราประทับใจก็มีบ้าง อย่างเอาดอกไม้มาให้เรา แต่ก็นาน ๆ เลยนะที่จะทำ เวลาเขาทำเรื่องโรแมนติกเราก็เขินค่ะ (ยิ้ม) ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ เพราะมิวเป็นคนห้าว ๆนิดนึง ถ้ามาทำสวีทหวานก็ทำให้เราไม่ค่อยชอบ

เร็ว ๆ นี้มิวเพิ่งมีข่าวเป็นมือที่ 3 ของ เนม วงเกทสึโนวา กับ สิ - พิชญ์สินี ด้วย? 
เห็นแว้บ ๆ เหมือนกัน ตลกมากเลย คือมิวกับพี่เนมนาน ๆ เจอกันที แบบบังเอิญเจอตามงานแฟชั่น เขาอยู่กับพี่สิ และเราก็มีไปถ่ายเอ็มวีให้พี่เนม ซึ่งพี่สิก็ไปด้วย ข่าวนี้ออกมาได้ยังไงก็ไม่รู้ เรื่องนี้มิวไม่ซีเรียส คือทุกคนน่าจะรู้อยู่แล้วว่ามิวไม่ใช่มือที่ 3 และตัวพี่สิเองก็ไม่ได้คิดแบบนั้นอยู่แล้วซึ่งเรื่องนี้เราก็เอาไปเล่าให้คนที่เราคุยด้วยฟังเหมือนกัน เขาก็เข้าใจว่าเป็น ข่าวค่ะ

 

ดูเหมือนเรากับหนุ่มรู้ใจคนนี้จะเข้าใจกันทุกอย่าง แล้ว ณ วันนี้ยังต้องจูนกันอีกรึเปล่า? 
ก็ยังต้องปรับต้องจูนนะ เพราะมันเหมือนเรารู้จักกันมากขึ้น ก็ยังมีเรื่องที่ต้องปรับกันมากขึ้นด้วย หลัก ๆ ที่เราต้องปรับก็มี อย่างเราเป็นคนที่ไม่ชอบโทรฯหา บางทีเราเหนื่อยจากการทำงาน ก็ขี้เกียจ เขาก็จะมีมาบ่น ๆ นิดนึง ก็มีแค่เรื่องใส่ใจกันนิด ๆ หน่อย ๆ ค่ะ

คาดหวังกับรักครั้งนี้ไว้แค่ไหน? 
ไม่รู้เลยค่ะ ไม่ได้คาดหวัง ไม่ได้คิดว่าจะต้องแต่งงานกับผู้ชายคนนี้ เราแค่อยากคบดูไปเรื่อย ๆ ก่อน ยังไม่ได้คิดว่าเป็นคนนี้เลย มิวพยายามคิดไว้ว่าทุกอย่างมันมีเปลี่ยนแปลงได้ กับทุกเรื่องเลยนะไม่ใช่แค่เรื่องความรักอย่างเดียว มิวค่อนข้างจะเผื่อใจกับทุกเรื่องว่าทุกอย่างมันเปลี่ยนแปลงได้เสมอ คือมิวก็คิดแผนสำรองไว้เหมือนกัน ว่าถ้าไม่เป็นอย่างนั้น เราจะทำยังไง คือเราต้องเผื่อใจ ไม่อย่างนั้นจะผิดหวังมากขึ้นค่ะ

สุดท้ายฝากอะไรถึงแฟนคลับที่คอยให้กำลังใจเรามาโดยตลอดหน่อย? 
ขอบคุณแฟนคลับของมิว ทุกคนน่ารักมาก เขาเป็นคนที่ไม่มาก้าวก่ายมิวเกินไป เขาจะมาตามงาน ติดตามผลงาน แต่จะไม่ยุ่งเรื่องส่วนตัว และก็ชอบแอบทำเซอร์ไพร้ส์เวลาที่เรารับรางวัล เขาก็จะมีดอกไม้มาให้ตลอดค่ะ มิวโชคดีมากที่แฟนคลับไม่ได้หวงมิว หรือจะเป็นแฟนคลับโป๊ป-มิวจริง ๆ เขาก็ไม่มาหวงที่เราจะเล่นละครคู่คนอื่น และเขาก็จะคอยสนับสนุนเราทุกงานค่ะ