ข่าว > ข่าวหนังทั้งหมด > รีวิวหนังวันวาน

The Pursuit of Happyness (ยิ้มไว้ก่อนพ่อสอนไว้)

12 ธ.ค. 2556 00:00 น. | เปิดอ่าน 1406 | แสดงความคิดเห็น
แชร์หน้านี้ แชร์หน้านี้
 



สวัสดีปีใหม่ครับเพื่อนที่รักนักเสพ ความเอนเตอร์เทนเม้นท์ผ่านสื่ออินเตอร์เน็ท ผ่านพ้นกับวันขึ้นปีใหม่กันมาแล้วนะครับ เพื่อนๆมีไปเที่ยวที่ไหนกันมาบ้างหรือเปล่าครับ กลับมาคราวนี้ผมก็มีภาพยนตร์เก่าๆน่าสนใจมาให้แฟนๆได้อ่านกันอีกนะครับ ภาพยนตร์ในวันนี้จะเป็นเรื่องราวของ พ่อลูกคู่หนึ่งที่ภรรยาได้หนีไปและทิ้งให้ทั้งสองอยู่กันตามลำพัง เพราะเป็นครอบครัวที่ยากจน แต่ด้วยความรักที่มีต่อลูกทำให้ คริส การ์ดเนอร์ (วิล สมิธ) ผู้เป็นพ่อต้องหาทางทำอะไรสักอย่างกับเรื่องราวในครั้งนี้เพื่อให้ คริสโตเปอร์ (เจเด็น สมิธ) ลูกชายของเขามีความสุขที่สุดและหนีจากความยากจนครั้งนี้ให้จงได้กับเรื่อง The Pursuit of Happyness (ยิ้มไว้ก่อนพ่อสอนไว้)

ตัวภาพยนตร์
ภาพยนตร์แนวดราม่าที่สร้างมาจากเรื่องจริงของ เซลแมนที่มีวิธีการขายไม่เหมือนใครเรื่องนี้ เล่าถึงความรักของพ่อที่มีต่อลูกของเขา เริ่มต้นจากปัญหาครอบครัวบวกกับความยากจนทำให้เขาต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้ ตัวเขาและลูกได้หลุดพ้นจากความจนและมีความสุขให้มากกว่าที่เป็นอยู่นั่นเอง

 



บทบาทภาพยนตร์
ภาพยนตร์เล่าถึงเรื่องราวของพ่อหม้ายลูกติด อย่าง คริส การ์ดเนอร์ ชายผู้ต้องถูกภรรยาทิ้งไปเพราะทนกับความยากจนไม่ได้และแถมยังทิ้งลูก ชายอย่าง คริสโตเฟอร์ ให้เขาดูแลเองด้วย ทำให้ คริส ต้องหาทางหนีจากความจนในครั้งนี้ โดยการหางานทำจนเขาได้มาพบกับบริษัทยักษ์ใหญ่ทางการเงิน ทำให้เขากลายเป็นโบรกเกอร์ และเพราะเขามีเทคนิคในการขายไม่เหมือนใครทำให้เขาได้กลายเป็นเซลแมนขั้นเทพ

นักแสดง
ด้วยชื่อของ วิล สมิธ แล้วคงการันตีได้ถึงความสามารถในการแสดงรวมไปถึงการแสดงออกทางอารมณ์ต่างๆ บอกได้เลยว่าถ้าไม่ใช่ระดับท็อปของวงการคงเทียบชั้นยาก ส่วนบทบาทที่เขาได้รับนั้นคือ คริส การ์ดเนอร์ พ่อหม้ายลูกติด โดยได้ลูกชายเจเด็น สมิธ ซึ่งเป็นลูกชายของ วิล สมิธ เองที่มารับบทเป็น คริสโตเฟอร์ ลูกชายของ คริส ในเรื่อง

 



การกำกับ
ผู้กำกับ แกเบรียล มัคซิโน่ ทำภาพยนตร์เรื่องนี้ออกมาได้ครบรสชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความรักของครอบครัวที่แม้ว่าจะเหลือกันเพียง 2 พ่อลูก ผู้กำกับ มัคซิโน่ ได้สอนให้ผู้ชมได้เห็นว่าความรักนั้นยิ่งใหญ่เสมอ ไม่เจาะจงว่าต้องเป็นชายกับหญิงเท่านั้น

การถ่ายภาพ
ภาพต่างๆในภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกถ่ายทอดออก มาได้อย่างดีเยี่ยม น่าสนใจและน่าติดตามเป็นอย่างยิ่งใครพลาดภาพยนตร์เรื่องนี้ไปคงจะเสียใจเป็น แน่แท้นะครับผม

 



ภาพรวม
ภาพยนตร์เรื่องนี้สื่อให้ผู้ชมได้เห็นถึงความ รักของครอบครัวที่แม้ว่าจะไม่ได้อยู่ด้วยกันครบทั้ง 3 คน แต่ก็ยังแสดงให้เราได้รู้ว่าความรักภายในครอบครัวนั้นยิ่งใหญ่เสมอ ถ้าใครที่ต้องพบเจอเหตุการณ์คล้ายๆกับในเรื่องนี้อาจจะถึงกับมีน้ำตาได้เลย นะครับ

ความคุ้มค่า
9 / 10

ทิ้งท้ายไว้นิดหน่อ
ความรักที่จริงใจไม่ว่าจะมาจากใครมันก็เป็นสิ่ง ที่สวยงามเสมอ ถ้าหากใครได้พบแล้วก็จงรักษาและดูแลมันไว้ให้ดีนะครับ แต่ก็อย่าลืมความรักของครอบครัวที่เลี้ยงดูเรามาด้วยละกันนะครับผม

 



แล้วคราวหน้า "นัวฟิล์ม" จะนำเอาภาพยนตร์เก่าๆ มารีวิว มาเล่าให้ฟังกันอีกนะครับ ขอบคุณที่ติดตาม อ่านนะครับ เข้ามาอ่านแล้ว โพสต์ข้อความเข้ามาบอกความคิดเห็นกันบ้างนะครับว่า ชอบหรือไม่ชอบ อย่างไร หรือ อยากให้ วิจารณ์ภาพยนตร์เรื่องอะไร ก็บอกกันเข้ามาได้นะครับ สวัสดีครับ

: The Pursuit of Happyness, ยิ้มไว้ก่อนพ่อสอนไว้

 
 
 
ร่วมแสดงความคิดเห็น
 
ชื่อ :
 
ความคิดเห็น :
 
 
 
 

ความคิดเห็นที่ 1  จากคุณ mdigital     13 ม.ค. 2567 23:15 น.


 1