แมดส์ มิคเคลสัน (Mads Mikkelsen) ผู้รับบทวายร้าย เยอเก้น โฟลเลอร์ ในภาพยนตร์ Indiana Jones and the Dial of Destiny เปิดเผยผ่านบทสัมภาษณ์ของ Digital Spy ว่าตอนจบของภาพยนตร์เรื่องนี้คือทุกสิ่งที่เขาคาดหวังเอาไว้
"ผมคาดหวังไว้ว่ามันจะไปในแนวทางนั้น" มิคเคลสัน กล่าว "ในภาคก่อน ๆ คุณก็รู้ใช่ไหม เรามีสิ่งที่ขาดไม่ได้ซึ่งนั่นทำให้คุณมีชีวิตอยู่นิรันดร์ เรามีหีบที่เปิดออกมาพร้อมกับพลังอันไร้ขอบเขต ดังนั้นผมจึงคาดหวังว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะดำเนินไปในทิศทางที่มันกำลังจะไป และมันก็เป็นเช่นนั้นแล้วครับ"
เมื่อถามถึงบทบาทที่ได้รับ มิคเคลสัน ก็อธิบายว่าเขาจะไม่ใช่ตัวร้ายแบบทั่ว ๆ ไปที่คุณเคยได้พบในหนังของอินดี้ ซึ่งในแฟรนไชส์ชุดนี้ส่วนใหญ่แล้วตัวร้ายจะเป็นนาซี แต่สำหรับตัวร้ายในภาคนี้ จะเป็นอดีตนาซีที่ไปทำงานกับนาซ่า และหาผลประโยชน์ส่วนตนจากการไปเหยียบดวงจันทร์
"ตัวละครนี้มีความปรารถนา เขามีความฝันครับ" มิคเคลสัน เผย "มีบางสิ่งที่เขาคิดว่าถ้าย้อนกลับไปในยุค 40 น่าจะสามารถแก้ปัญหาได้ดีกว่านี้มาก เพียงถ้าเขามีโอกาสได้แก้ไขมัน ถูกไหมครับ ซึ่งนั่นมันคือสิ่งที่อยู่ในนั้น"
มิคเคลสัน ยังบอกอีกว่า Dial of Destiny เลี่ยงการใช้ภาษาเยอรมันแบบโบราณที่มักใช้เพื่อพรรณนาตัวร้ายในภาพยนตร์เก่า ๆ รวมถึง Indiana Jones ภาคก่อน ๆ ด้วย
"ผมว่าบางทีเราอาจจะห่างไกลจากสำเนียงคลาสสิกของชาวเยอรมัน หรือสำเนียงแบบโบราณของชาวเยอรมันไปสักหน่อย" มิคเคลสัน เสริม "เราแค่เก็บไว้ในใจ [หัวเราะ] และใส่คำของชาวเยอรมันลงไปนิดหน่อยในจุดนั้น"
Indiana Jones and the Dial of Destiny เข้าฉายแล้ว วันนี้ ในโรงภาพยนตร์
: