จอช โบรลิน (Josh Brolin) คือหนึ่งในนักแสดงผู้เป็นที่รู้จักกันดีในโลกของซูเปอร์ฮีโร่ ทั้งจากบทบาท ธานอส ในภาพยนตร์ Avengers: Infinity War (2018) และ Avengers: Endgame (2019) รวมไปถึงบทบาท เคเบิล ในภาพยนตร์ Deadpool 2 (2018) แต่บางคนอาจยังไม่รู้ว่าครั้งหนึ่ง โบรลิน ก็เกือบจะมีลุ้นได้มาสวมบทเป็น แบทแมน ในภาพยนตร์ Batman v Superman: Dawn of Justice (2016) ของผู้กำกับ แซ็ค สไนเดอร์ (Zack Snyder) ก่อนที่สุดท้ายบทนั้นจะตกไปเป็นของ เบน แอฟเฟล็ค (Ben Affleck) ซึ่งก่อนหน้านี้ โบรลิน เคยออกมายืนยันแล้วว่าระหว่างเขากับ แอฟเฟล็ค ไม่ได้มีความขุ่นเคืองอะไรกัน

ล่าสุด โบรลิน มีโอกาสได้พูดถึงประเด็นนี้อีกครั้งขณะให้สัมภาษณ์ในรายการพอดแคสต์ Happy Sad Confused ซึ่ง โบรลิน เผยว่า Batman v Superman: Dawn of Justice เป็นโปรเจกต์ที่น่าดึงดูดสำหรับเขา เพราะมันเป็นโปรเจกต์ที่ท้าทายและมีความเสี่ยง แต่ขณะเดียวกันเขาก็ยอมรับในการตัดสินใจของ สไนเดอร์ ที่เลือกจะทำออกมาด้วยหนทางที่ต่างออกไป

"หนังเรื่องนั้นมันน่าสนใจมากสำหรับผม เพราะบางสิ่งถูกกำหนดเอาไว้ให้ใช้งานไม่ได้เลย หรือไม่ก็เพื่อให้ใช้งานได้อย่างฉลุย ผมชอบความประหลาดแบบนั้น ผมอยากจะเล่นกับความแปลกประหลาดแบบนั้น ผมก็คิดนะว่า 'ผมคือคนที่จะทำให้ทุกอย่างมันล้มเหลวเลยเหรอ?' ผมไม่ได้คิดว่าเขา [แบทแมน] จะเลวร้ายอะไรหรอกนะ เวลาคุยกับคลูนีย์เขาก็ยังพูดถึงมันอยู่ และมันก็ไม่ใช่ความผิดของเขา" โบรลิน กล่าว "นั่นมันเกิดขึ้นก่อน Deadpool 2 มันน่าจะเป็นเวอร์ชันที่เก่ากว่า และเสียงแหบกว่า เอาจริง ๆ นะ นั่นมันคงจะสนุกมากเลย บางทีผมอาจจะได้ทำมันตอนอายุ 80 ก็ได้"

ที่มา: [1]

จอช โบรลิน เผยความรู้สึกเมื่อครั้งชวดบท แบทแมน ใน Batman v Superman: Dawn of Justice