ข่าว > ข่าวหนังทั้งหมด > ข่าวหนัง

เจาะลึกเส้นทางก่อนจะมาเป็น Shang-Chi and the Legend of the Ten Rings

23 เม.ย. 2564 10:35 น. | เปิดอ่าน 1386 | แสดงความคิดเห็น
แชร์หน้านี้ แชร์หน้านี้
 

 

ผู้กำกับ เดสติน แดเนียล เครททัน ไม่เคยคิดหวังอยากทำหนังมาร์เวลมาก่อน ในอดีตที่ผ่านมาเขาค่อย ๆ ปูเส้นทางในวงการของเขาด้วยผลงานแนวดราม่าใช้ความคิดเงียบ ๆ อย่าง Short Term 12 (2013), The Glass Castle (2017) และ Just Mercy (2019) ซึ่งมันแตกต่างจากภาพลักษณ์ของหนังซูเปอร์ฮีโร่โดยสิ้นเชิง เครททัน จำได้ว่าเขาเคยบอกกับเพื่อน ๆ ของเขาไปว่าเขาไม่ได้ปรารถนาที่จะเข้าไปร่วมแจมในโลกของผ้าคลุมไหล่ และการ์ตูนฮีโร่อะไรแบบนั้นเลย จนกระทั่งเขาได้อ่านข่าวเมื่อปี 2018 ที่บอกว่ามาร์เวลกำลังจะสร้างหนัง Shang-Chi and the Legend of the Ten Rings ซึ่งเป็นหนังเรื่องแรกที่มีตัวเอกเป็นชาวเอเชีย
 
“ตอนที่ข่าวนั้นมันประกาศออกมา ผมก็รู้สึกคิดถึงชีวิตในวัยเด็กทันทีทันใดเลยล่ะครับ” เครททัน เผย “ทั้งหมดที่ผมมีตอนที่เติบโตมาก็คือสไปเดอร์แมน เพราะเขาสวมหน้ากาก ผมจึงสามารถแต่งตัวเหมือนสไปเดอร์แมนในวันฮาโลวีนได้ ผมมีตัวละครบนหน้าจอที่ดูคล้าย ๆ ผมอยู่อีกจำนวนหนึ่ง แต่มันอาจจะมีแค่สองหรือสามตัวที่ผมสามารถเลือกได้ แต่พวกซูเปอร์ฮีโร่ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งในนั้นเลย”
 
เครททัน ชายหนุ่มผู้เกิดที่ฮาวายและมีเชื้อสายญี่ปุ่น เคยคิดเกี่ยวกับเรื่องที่ว่ากลุ่มคนที่อายุยังน้อยจะมีปฏิกิริยาตอบรับต่อหนังซูเปอร์ฮีโร่ที่มีนักแสดงชาวเอเซียเป็นตัวเอกของเรื่องอย่างไร ดังนั้นเขาก็เลยนัดประชุมกับทางมาร์เวล “ปกติแล้วนั่นไม่ใช่หนทางที่ผู้กำกับจะนัดประชุมในตอนเริ่มต้นหรอกนะครับ การที่จะพูดว่า ‘คุณรู้มั้ยครับผมไม่เคยสนใจที่จะทำหนังแบบนี้มาก่อนเลย’” เควิน ไฟกี ประธาน มาร์เวล สตูดิโอส์ กล่าวพร้อมเสียงหัวเราะ ซึ่งการประชุมมาร์เวลครั้งนั้นมันได้เปลี่ยนเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แล้วจากนั้นก็เปลี่ยนไปเป็นอีกเรื่องหนึ่ง จนกระทั่งสุดท้าย เครททัน ได้ขึ้นไปยืนบนเวทีต่อหน้าแฟน ๆ นับพันในงาน San Diego Comic-Con เมื่อปี 2019 และก็ได้แนะนำให้โลกได้รู้จักกับฮีโร่ในวัยเด็กเพียงหนึ่งเดียวที่เขาใฝ่ฝันถึง
 
 
อย่างไรก็ตามสุดท้ายผลลัพธ์ที่กำลังจะออกมาก็คือภาพยนตร์ Shang-Chi and the Legend of the Ten Rings ที่กำลังจะเข้าฉายในวันที่ 2 กันยายนนี้แล้ว ซึ่งผลงานชิ้นนี้จะเป็นมหากาพย์ซูเปอร์ฮีโร่ที่รวมเอาดราม่า ครอบครัว ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ความรู้สึก มาผสมผสานเข้ากับแอ็คชั่น ศิลปะการต่อสู้สุดท้าทาย โดยมีนักแสดงเชื้อสายจีน-แคนาดา หลิว ซือมู่ มารับบทเป็นฮีโร่หนุ่ม ชาง-ชี ผู้ใช้เวลาช่วงแรกของชีวิตไปกับการฝึกฝนเป็นนักฆ่า ภายใต้การอบรมที่เข้มงานของพ่อ แล้วเขาก็หนีจากไป และพยายามที่จะใช้ชีวิตอย่างคนปกติธรรมดาทั่วไปอยู่ที่อเมริกา แต่แล้วเขาก็ต้องพบว่าตัวเองถูกดูดกลับเข้าไปอยู่ในอาณาจักรอันน่ากลัวของพ่ออีกครั้ง
 
“สิ่งที่น่าตื่นเต้นที่สุดในการก้าวเข้ามาสวมบทบาทเป็นตัวละครนี้ก็คือเรื่องราวเบื้องหลังของเขาที่ยังไม่เคยถูกเล่าขานมาก่อนครับ” หลิว ซือมู่ เผย “พวกเรารู้จักต้นกำเนิดของแบทแมนมาแล้วหลากหลายเวอร์ชั่น รู้ว่าพ่อแม่ของเขาถูกฆาตกรรมยังไงตอนที่เขายังเด็กมาก เรารู้จักปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ ผู้ที่ถูกแมงมุมกัมมันตรังสีกัด และเขาก็ต้องสูญเสียลุงของเขา แต่เรื่องราวของชาง-ชี มันเป็นเรื่องที่คนในโลกส่วนใหญ่ยังไม่รู้ ดังนั้นเราจึงมีอิสระและเสรีภาพในการสร้างสรรค์มากมาย เพื่อที่จะทำมันออกมาตามแนวทางที่เราต้องการ”
 
ชาง-ชี อาจจะยังไม่ใช่ฮีโร่ชื่อดังอย่าง ไอรอนแมน หรือ กัปตันอเมริกา แต่ไอเดียในการสร้างหนัง Shang-Chi ขึ้นมามันเก่าแก่ยิ่งกว่าจักรวาล MCU ซะอีก ซึ่งตัวละครนี้ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาโดย สตีฟ เองเกิลฮาร์ต และ จิม สตาร์ลิน ปรมาจารย์กังฟูเปิดตัวการ์ตูนของเขาออกมาครั้งแรกเมื่อปี 1973 เพื่อปูทางให้มาร์เวลได้นำเอาเรื่องราวความนิยมในศิลปะการต่อสู้มาใช้ให้เกิดประโยชน์กับผู้ชมชาวอเมริกัน นอกจากนี้ยังเคยมีรายงานข่าวออกมาว่า สแตน ลี พยายามที่จะสร้างหนัง Shang-Chi โดยมี แบรนดอน ลี มารับบทนำในช่วงต้นยุค 80 แต่โปรเจกต์นั้นก็ยังไม่เคยเกิดขึ้นจริง ต่อมาในช่วงต้นยุค 2000 มาร์เวลสตูดิโอส์ก็ได้เริ่มหยิบเอาตัวการ์ตูนต่าง ๆ ที่ดูน่าจะมีศักยภาพมากพอที่จะนำมาสร้างหนังของตัวเองได้ขึ้นมาพัฒนา ซึ่งหนึ่งในรายชื่อตัวละครเหล่านั้นก็มี ชาง-ชี รวมอยู่ด้วย และหลังจากต้องล้มเหลวในการเริ่มต้นมาหลายต่อหลายครั้ง ในที่สุดตอนนี้ก็ถึงเวลาที่ ชาง-ชี จะได้ออกมาประกาศศักดาให้ชาวโลกได้รับรู้แล้ว
 
“เส้นเรื่องที่เป็นหัวใจหลักของชาง-ชี ในการ์ตูนก็คือความดราม่าครอบครัวจัด ๆ” โปรดิวเซอร์ โจนาธาน ชวาร์ทซ “นั่นคือสิ่งที่ เดสติน ให้ความสำคัญในช่วงแรก ๆ ที่เราหารือกัน ทั้งไอเดียในการถ่ายทอดถึงเรื่องราวของครอบครัวที่แตกแยก และเรื่องราวที่มืดมนจัด ๆ เหล่านี้ รวมไปถึงเบื้องลึกเบื้องหลังอันเลวร้ายของครอบครัว และการได้เห็นว่าสิ่งเหล่านั้นมันส่งผลยังไงกับเด็กคนหนึ่งเมื่อเวลาผ่านไป” 
 
การพา ชาง-ชี เข้ามาสู่ MCU ยังถือเป็นการอัปเดตข้อมูลต้นกำเนิดดั้งเดิมบางอย่างของเขาด้วย ซึ่งเรื่องราวเบื้องหลังในการ์ตูนของเขามันมีการเปลี่ยนแปลงตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา และ เครททัน กับนักเขียน เดฟ คอลลาแฮม ก็กระตือรือร้นที่จะจัดการกับปัญหาซ้ำ ๆ ซาก ๆ เก่า ๆ ในเรื่องของเชื้อชาติด้วย
 
“เมื่อคุณลองดูตัวละคร ชาง-ชี ผ่านเรื่องราวในการ์ตูนที่ย้อนกลับไปในช่วงยุค 70 ถึง 80 ความจริงที่ว่าเขามีตัวตน และความจริงที่เขาเป็นตัวละครเอเชียมันน่าทึ่งมาก ๆ นะครับ” หลิว ซือมู่ กล่าว “แต่ในขณะเดียวกัน มันก็ยังมีอีกหลายแง่มุมในการถ่ายทอดเรื่องราวของเขาที่มันอาจจะทำให้รู้สึกว่าผิดแบบแผนไปเล็กน้อย ดังนั้นครั้งแรกที่เราเริ่มวางแผนการว่าตัวละครนี้ควรจะเป็นยังไง และการเดินทางของเขาควรจะเป็นอย่างไรในหนังเรื่องนี้ เราทุกคนจึงอ่อนไหวมากที่จะพยายามไม่ให้ก้าวเข้าไปอยู่ในขอบเขตที่มันผิดแบบแผน” 
 
เครททัน บอกว่าเขาอยากจะเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับเอกลักษณ์ของชาวเอเชียที่ให้ความรู้สึกเหมือนมีชีวิต และก็มีความสมจริงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ซึ่งส่วนหนึ่งมันก็รวมไปถึงการที่จะมั่นใจว่า ชาง-ชี มีน้ำเสียงแบบชาวเอเชียทั้งต่อหน้ากล้องและหลังกล้อง  
 
“จำไว้ว่าวัฒนธรรมของชาวเอเชียมันมีความหลากหลายมาก” เครททัน กล่าว “ผมโตที่ฮาวาย และอาหารฮาวายมันก็คล้ายกับการเอาอาหารจีน ญี่ปุ่น เกาหลี ฮาวาย ฟิลิปปินส์ ทั้งหมดมาผสมกัน นั่นมันก็เหมือนกับสิ่งที่ทีมงานของเราเป็น ซึ่งมันเหมือนกับการผสมผสานวัฒนธรรมเอเชียจำนวนมากเข้าด้วยกัน และมันก็ตอบโจทก์กับสคริปต์ อย่างการพูดว่า ‘โอ้ นั่นมันรู้สึกเหมือนไม่ค่อยจะถูกต้องนะ’ ทั้งหมดนั่นมันมีส่วนช่วยในการอัปเดตสิ่งที่ผมคิดว่ามันงดงามจริง ๆ ต่อสิ่งที่มันเริ่มต้นมาจากในการ์ตูนเมื่อไม่กี่ 10 ปีก่อน”
 
“มันคือการเป็นตัวแทนของชาวเอเชียในรูปแบบหนึ่ง ที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน และฉันในฐานะลูกครึ่งเอเชีย-อเมริกันก็คิดว่ามันเจ๋งมาก ๆ เลยนะคะที่จะได้ดูหนังเรื่องนี้” อควาฟิน่า ผู้รับบท เคที เพื่อนสนิทของ ชาง-ชี เผย “มันเป็นการค้นหาตัวตนในอีกระดับค่ะ” 
 
 
ตอนที่กำลังมองหานักแสดงมารับบทฮีโร่ผู้มีเสน่ห์ มาร์เวล ได้ประกาศหานักแสดงชายเชื้อสายจีนจากทั่วโลก แล้วพวกเขาก็ได้มาเจอ หลิว ซือมู่ นักแสดงชายวัย 32 ปี ผู้เป็นที่รู้จักกันดีมาจากบทบาท จองคิม ในซิตคอมยอดฮิต Kim's Convenience ซึ่งตัว หลิว ซือมู่ เองก็ใฝ่ฝันอยากจะเป็นฮีโร่มานาน จนถึงขั้นที่เคยทวีตทวีตหา มาร์เวล เมื่อช่วงต้นปี 2014 ด้วยความหวังที่อยากจะเห็นฮีโร่ชาวเอเชีย-อเมริกัน มาร่วมแจมในจักรวาล MCU และเมื่อตอนที่ มาร์เวล ประกาศสร้างภาพยนตร์ Shang-Chi เขาก็ทวีตอีกครั้งว่า “โอเคมาร์เวล เราจะคุยกันหรือยังไงดีครับ?”
 
“แน่นอนว่าสิ่งที่ไม่ได้อยู่ในหัวผมเลยตอนนั้นก็คือ ‘เฮ้! ผมจะทวีตหามาร์เวล แล้วพวกเขาก็จะต้องตอบกลับมาหาผม และผมก็จะได้บทนี้มาครอง’” หลิว ซือมู่ กล่าวพร้อมเสียงหัวเราะ แล้วเขาก็ต้องประหลาดใจเมื่อเขาได้รับคำเชิญจาก มาร์เวล ให้ไปออดิชั่น และหลังจากนั้นเขาก็ได้บทนี้มาครองอย่างเป็นทางการในเดือนกรกฎาคม 2019 ซึ่งหลังจากนั้นไม่กี่วันเขาก็ต้องบินไปซานดิเอโก้ เพื่อร่วมงาน Comic-Con พร้อมกับ เครททัน 
 
ตอนเริ่มต้นหนัง ชาง-ชี ใช้ชีวิตอยู่ที่ซานฟรานซิสโกเหมือนกับคนวัย 20 ธรรมดาทั่วไป เขาเป็นคนที่ค่อนข้างจะเคว้งคว้างไม่มีจุดหมาย และเขาก็ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการสังสรรค์กับเพื่อน ๆ อย่าง เคที (อควาฟิน่า) เธอเป็นหนึ่งในเพื่อนที่สนิทที่สุดของเขา แต่เธอไม่ได้รู้ประวัติของเขามากมายนัก แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าทำไมเขาถึงเลิกติดต่อกับพ่อแม่ของเขา และแน่นอนเลยว่าเธอก็ไม่ได้คุ้นเคยกับโลกของนักฆ่าและปรมาจารย์กังฟูที่เต็มไปด้วยการต่อสู้แบบจัดหนักจัดเต็มด้วย     
 
“เธอไม่ใช่คนแกร่งอะไรมากนัก” อควาฟิน่า เผย “แต่แท้จริงแล้ว เธอเป็นคนที่จริงใจ และเธอก็ซื่อสัตย์ และอุทิศตนให้กับมิตรภาพของเธอกับ ชาง-ชี เธอเป็นคนที่กล้าหาญมาก” 
 
ชีวิตในปัจจุบันของ ชาง-ชี อาจดูธรรมดา แต่อดีตของเขามันไม่ใช่แบบนั้น เพราะ เหวินหวู่ พ่อของเขาเป็นคนเก่าแก่ผู้ทรงอำนาจ ที่คอยฝึกฝนให้ลูกชายเจริญรอยตามเส้นทางอาชญากรของเขา แต่มันก็ผ่านมากว่า 10 ปีแล้ว นับตั้งแต่ที่ ชาง-ชี ได้รู้ถึงการกระทำอันชั่วร้ายของพ่อ แล้วก็ตัดสินใจหนีไป “นี่มันไม่ใช่การหักมุมแบบ ‘ลุค ข้าคือพ่อของเจ้า’” ไฟกี เสริม “เขารู้ดีว่าพ่อของเขาคือใคร และเขาก็ตัดสินใจทิ้งโลกใบนั้นเอาไว้เบื้องหลัง ก่อนที่จะถูกดึงกลับมาอีกครั้ง” 
 
 
สำหรับการรับบทเป็นจอมวายร้าย ทีมผู้สร้างได้ทาบทามนักแสดงระดับตำนานของฮ่องกง โทนี่ เหลียง ผู้โด่งดังมาจากผลงานภาพยนตร์หลาย ๆ เรื่อง อาทิ In the Mood for Love (2020) และ Chungking Express (2020) ของผู้กำกับ หว่อง กาไว มารับบทนี้ “ตัวละครแบบ เหวินหวู่ น่าจะเป็นวายร้ายมิติเดียวที่ไร้หัวใจได้ง่าย ๆ” เครททัน เผย “โทนี่ เขาเปิดใจให้กับตัวละครนี้ ดังนั้นนี่จึงเป็นตัวร้ายที่สามารถมีความรักอย่างลึกซึ้งได้”
 
ความสัมพันธ์บนจอระหว่าง เหวินหวู่ กับ ชาง-ชี มันซับซ้อน แต่หลังกล้อง โทนี่ เหลียง กับ หลิว ซือมู่ กลับกลายมาเป็นเพื่อนกันอย่างรวดเร็ว ด้วยการสานสัมพันธ์ผ่านการเล่นสโนว์บอร์ด “เขาเป็นคนกระตือรือร้นในการหลั่งอะดรีนาลีนอย่างแรงเลยล่ะครับ” หลิว ซือมู่ พูดถึง โทนี่ เหลียง
 
เหวินหวู่ เป็นตัวละครใหม่ที่สร้างขึ้นมาเพื่อ MCU เขามีความผูกพันกับเท็นริงส์ องค์กรก่อการร้ายลึกลับที่มีชื่อปรากฏออกมาครั้งแรกใน Iron Man (2008) ดั่งที่ ชวาร์ทซ และ ไฟกี กล่าวไว้ เหวินหวู่ “มีหลายชื่อ” ตลอดช่วงเวลาหลาย 10 ปีที่ผ่านมา และหนึ่งในชื่อเหล่านั้นก็คือ “แมนดาริน” หนึ่งในตัวร้ายที่โด่งดังที่สุดของการตูนมาร์เวล ซึ่งก่อนหน้านี้ชื่อนี้เคยปรากฏใน Iron Man 3 (2013) มาแล้ว ตัวละครเวอร์ชั่นนั้นซึ่งรับบทโดย เบน คิงสลีย์ เปิดตัวในฐานะคนโกง แต่ตัวละคร เหวินหวู่ ของ โทนี่ เหลียง จะมีความแปลกใหม่ และร้ายยิ่งกว่าเดิม        
 
“ผมคิดว่าหลายคนน่าจะเคยได้ยินชื่อ แมนดาริน แล้วก็คาดหวังถึงบางสิ่งที่พิเศษเอาไว้สูง แต่นั่นอาจจะไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาจะได้” ชวาร์ทซ กล่าว “พวกเขาคาดหวังว่าจะทำให้ตัวละครนี้มีชั้นเชิงและมีความซับซ้อนมากกว่าชื่อที่อาจจะทำให้คุณคาดหวังเช่นนั้น” 
 
แน่นอนว่าคุณคงจะไม่สามารถสร้างภาพยนตร์เกี่ยวกับนักสู้ที่มีฝีมือดีที่สุดในโลกได้ โดยไม่มีการออกแบบท่าทางการต่อสู้ที่ประณีตงดงามได้ “ผมคิดว่านี่คือหนังแอ็คชั่นที่ดีที่สุดเท่าที่มาร์เวลเคยทำมาเลยล่ะครับ” ชวาร์ทซ กล่าว “ทุกหมัดมันมีความหมาย ทุกสไตล์การต่อสู้มันมีความหมาย และเรื่องราวก็ถูกบอกเล่าออกมาด้วยวิธีที่มันยอดเยี่ยมมากจริง ๆ ครับ” เนื่องจาก ชาง-ชี เป็นผู้เชี่ยวชาญศิลปะการต่อสู้หลายรูปแบบ เครททัน จึงวาดฝันแรงบันดาลใจจากแหล่งข้อมูลหลาย ๆ อย่าง ตั้งแต่สไตล์อันปราดเปรียวและสง่างามของวูซูจาก Crouching Tiger, Hidden Dragon (2000) ไปจนถึงลีลาท่าทางที่ดูมีพละกำลังมากขึ้นจากภาพยนตร์แอ็คชั่น-คอมเมดี้ของ เฉินหลง ซึ่ง แบรด อัลแลน นักออกแบบท่าทางการต่อสู้ถูกดึงตัวเข้ามาช่วยรวบรวมสไตล์และความเชี่ยวชาญหลากหลายรูปแบบไว้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
 
สำหรับ หลิว ซือมู่ แล้ว การก้าวเข้ามารับบท ชาง-ชี ก็เหมือนเป็นการโยนตัวเองเข้าไปสู่สนามฝึก ซึ่งเขาได้หยอดมุขว่ามันไม่เหมือนสหายมาร์เวลของเขาเลย ใบหน้าของ ชาง-ชี ไม่เคยถูกบดบังด้วยหน้ากาก ดังนั้นเขาจึงจำเป็นต้องเรียนรู้คิวบู๊ด้วยตัวของเขาเองให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ดังนั้นแทบจะทันทีที่เขาก้าวลงจากเวที Comic-Con เมื่อปี 2019 เขาต้องเริ่มฝึกฝนทักษะการต่อสู้หลากหลายรูปแบบ แล้วก็ต้องพยายามเพิ่มน้ำหนัก โดยที่ต้องไม่สูญเสียความยืดหยุ่นและความคล่องตัวของ ชาง-ชี ไป “ผมอยากจะนั่งตรงนี้ และเล่าให้พวกคุณฟังว่าจริง ๆ แล้วผมเก่งศิลปะการต่อสู้มาก่อนนะ” หลิว ซือมู่ เผย “ผมอาจจะเคยทำงานเป็นสตันต์ไม่กี่วันที่โตรอนโต แต่จริง ๆ แล้วประสบการณ์ศิลปะการต่อสู้ของผม มันก็เหมือนกับการตีลังกากลับหลังในสนามหลังบ้านของผมตอนที่ผมเป็นวัยรุ่น และการฝึกปาร์กัวร์กับเพื่อน ๆ ของผมแหละครับ”  
 
แม้ภาพยนตร์เรื่องนี้จะมีฉากแอ็คชั่นกังฟูสุดอลังการ แต่ เครททัน ก็ยังอยากจะให้ Shang-Chi คงไว้ซึ่งพื้นฐานของความจริง เพื่อสร้างหนังซูเปอร์ฮีโร่ที่ตัวเขาเองตอนหนุ่มกว่านี้จะรักมัน “เราอยากจะแน่ใจว่า ชาง-ชี ก็เหมือนกับเราทุกคน” เครททัน อธิบาย “ผมอยากจะดูหนังเรื่องนี้แล้วพูดได้ว่า ‘ใช่เลย นั่นมันคือสิ่งที่ผมรู้สึก บางครั้งผมก็รู้สึกว่าผมอยู่ผิดที่ผิดทาง แต่ผมก็ปกปิดมันเอาไว้ด้วยอารมณ์ขัน’ เขาเป็นเด็กน้อยที่รู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเอง และก็รู้สึกประหม่าตอนอยู่ที่อเมริกา แต่เขาก็ปกปิดความรู้สึกเอาไว้ด้วยเสน่ห์ของเขา ซึ่งผมคิดว่ามันคล้ายกันมาก ๆ เลยครับ” 
 

 
Shang-Chi and the Legend of the Ten Rings มีกำหนดเข้าฉายในบ้านเราวันที่ 2 กันยายนนี้ ในโรงภาพยนตร์

 

 
ที่มา: [1]
 
 
: เควิน ไฟกี, เหลียงเฉาเหว่ย, อควาฟิน่า, หลิว ซือมู่, Shang-Chi and the Legend of the Ten Rings, Marvel Studios, MCU, เดสติน แดเนียล เครททัน, ชาง-ชี กับตำนานลับเท็นริงส์, โจนาธาน ชวาร์ทซ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • จอช โบรลิน เผยถึงความเป็นไปได้ที่จะโผล่ไปร่วมแจมใน Deadpool 3
  • เหลียงเฉาเว่ย ปะทะ หลิวเต๋อหัว อีกครั้งในรอบ 20 ปี กับ "โคตรพยัคฆ์ชน คนมือทอง The Goldfinger"
  • Deadpool 3 ปิดกล้องแล้ว! ไรอัน เรย์โนลด์ส อวดภาพแปลก ฮิวจ์ แจ็คแมน โกนหนวดฉลอง
  • พัคซอจุน ประทับใจกองถ่าย The Marvels ยอมรับไม่ง่าย แต่เป็นประสบการณ์ที่มีค่า
  • ดีเลย์เป็นเหตุ! สตีเว่น ยอน ถอนตัวจากบทวายร้าย เซ็นทรี ในภาพยนตร์ Thunderbolts แล้ว
  •  
     
     
    ร่วมแสดงความคิดเห็น
     
    ชื่อ :
     
    ความคิดเห็น :