ข่าว > ข่าวสัพเพเหระทั้งหมด > Webmaster Talk

เปิดใจ 11 สิ่งจากผู้กำกับเจมส์ แมนโกล์ด พูดถึงตัวอย่างแรก Logan

25 ต.ค. 2559 15:51 น. | เปิดอ่าน 1526 | แสดงความคิดเห็น
แชร์หน้านี้ แชร์หน้านี้
 

 

หลาย ๆ คนคงได้ชมกันไปแล้วสำหรับตัวอย่างแรกจาก Logan หรือ Wolverine ภาค 3 ผลงานการกำกับของเจมส์ แมนโกล์ด (James Mangold) นี่คือการกลับมาสวมบทวูล์ฟเวอรีนครั้งสุดท้ายของ ฮิวจ์ แจ็คแมน (Hugh Jackman) ซึ่งทางสตูดิโอเคยออกมาให้สัญญาแล้วว่าการกลับมาครั้งนี้มันจะแตกต่างจากที่เคยอย่างสุดขั้ว และล่าสุดสื่อ Empire ก็ได้ต่อสายตรงหาผู้กำกับเจมส์ แมนโกล์ดเพื่อสอบถามถึงการวางแผนและการทำงานส่วนต่าง ๆ ในโปรเจ็คนี้

 

 

1. เพลง Hurt

ในตอนเริ่มต้นของตัวอย่างที่ปล่อยออกมาให้ชมกัน คุณจะได้ยินซาวน์ประกอบที่ชวนตึงเครียดในเพลง Hurt ของวง Nine Inch Nails ที่ Johnny Cash นำเอามาโคฟเวอร์ใหม่ ถ้าใครเคยติดตามผลงานของแมนโกล์ดมาคุณน่าจะพอทราบว่าเขาเคยกำกับหนังชีวประวัติของ Cash เรื่อง Walk The Line (2005) มาก่อน ซึ่งเขาก็น่าจะได้รู้จักเพลงนี้ตั้งแต่ตอนนั้น แต่ประเด็นคือทำไมเขาถึงนำมันมาใช้ในหนังเรื่อง Logan ล่ะ? “แน่นอนว่าผมมีความสัมพันธ์แล้วก็ชื่นชอบผลงานของ Johnny Cash ทั้งโทนของเขา ข้อความที่เขาต้องการสื่อ แล้วก็เพลงของเขา แต่สิ่งที่เป็นแรงขับเคลื่อนในการตัดสินใจทั้งหมดนี้ก็คือความพยายามที่ต้องการทำให้ตัวงานของพวกเราแตกต่างออกไปจากหนังซุปเปอร์ฮีโร่เรื่องอื่น ๆ ในแนวทางที่แม่นยำ พวกเราคิดว่าพวกเรากำลังจะนำเสนอบางสิ่งที่มันแตกต่างออกไปนิดหน่อย พวกเราต้องการจะมั่นใจว่าพวกเรากำลังขายสิ่งที่มันแตกต่างให้กับผู้ชม บางทีเมื่อหนังเรื่องหนึ่งมันมีความแตกต่างออกไปนิดหน่อย ทางสตูดิโอก็ต้องพยายามตีตลาดของหนังเรื่องนั้นเหมือน ๆ กับเรื่องอื่น ๆ นั่นแหละ เพลงของ Cash มันทำให้เราผิดแปลกออกไปจากมาตรฐานของมัน มันทั้งดูโอ้อวด ดูลึกลับเศร้าสร้อยในแบบของออเคสตร้า มันให้ความรู้สึกเหมือนโดนฟาดอย่างแรง มันเหมือนการเปิดประตูออกแล้วก็ปิดระแทกมันกลับมา มันเป็นการระเบิดหลักการแนวทางของหนังประเภทนี้”

 

 

2. ความหวังใหม่

ฮิวจ์กับผมเคยหารือกันเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเราควรจะทำนับตั้งแต่ที่พวกเรากำลังทำงานร่วมกันในภาคสุดท้าย สำหรับเราทั้งคู่นี่มันคือสิ่งจำเป็น เพื่อให้มันน่าสนใจกว่าที่เคยในการทำหนัง พวกเราต้องปล่อยตัวเองให้เป็นอิสระจากข้อสันนิษฐานที่มันเคยมีอยู่ในอดีต แล้วก็ปรับให้มันเหมาะกับการเปลี่ยนแปลงโทนเล็กน้อย ไม่เพียงเท่านี้เพื่อการเปลี่ยนแปลงเป้าหมายที่เปลี่ยนไปด้วย แล้วก็เพื่อทำบางสิ่งซึ่งมันเป็นการพูดถึงวัฒนธรรมในปัจจุบัน ซึ่งมันก็ไม่ใช่สไตล์เดิม ๆ  มันต้องใช้เวลานานเท่าไหร่ที่พวกเขาจะสามารถปกป้องโลกเอาไว้ได้ด้วยหนทางใดหนทางหนึ่งหรืออื่น ๆ? พวกเราควรจะผูกเรื่องราวยังไงดีให้ตัวละครมันเป็นรูปเป็นร่างแล้วก็มีประเด็นมากขึ้น ถ้าทำให้มันเกือบจะไม่ได้เป็นหนังซุปเปอร์ฮีโร่ แต่มันยังมีเรื่องราวเกี่ยวกับพลัง การต่อสู้ แล้วก็ธีมของพวกเขารวมอยู่?”

 

 

3. ความตายในหลุมฝังศพ

แมนโกล์ดไม่ได้บอกว่าใครกันที่อยู่ในหลุมฝังศพนี้ การที่โลแกนซุกหน้าลงพิงต้นไม้และกำลังดื่มมันทำให้นึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในการ์ตูนเล็กน้อย ที่ซึ่งมีตัวละครกลุ่มหนึ่งกำลังยืนอย่างตระหง่านในจุดที่ห่างออกไปจากพิธีฝังศพ “ผมไม่ได้คิดอะไรมากเกี่ยวกับการวางกรอบของการ์ตูน แต่ผมคิดเกี่ยวกับการวางกรอบหนังให้มืดมน แล้วก็เป็นการสร้างหนังฮอลลีวู้ดในสไตล์ที่คลาสสิค การสร้างหนังในสไตล์งานศิลป์ของเยอรมันในช่วงต้นของปลายศตวรรษ มันมีหลาย ๆ อย่างที่คล้ายในการ์ตูน ความโดเด่นอันแข็งแกร่งก็คือการเล่นกับสิ่งที่มันลึกซึ้ง คุณลองจินตนการถึงการบอกเล่าเรื่องราวมากมายในภาพ ๆ เดียวดูสิ การทำหนังในปัจจุบันหลาย ๆ อย่างมันอยู่ใกล้ตัว ดังนั้นทุก ๆ ฉากมันต้องถ่ายกว่า 150 คัทเพื่อรักษาร่องรอยของสิ่งที่เกิดขึ้นในทุก ๆ องค์ประกอบ ผมพยายามวางกรอบต่าง ๆ ของหนังเรื่องนี้ในแนวทางของการบรรยาย ใช่แล้วล่ะมันทำให้นึกถึงองค์ประกอบหลาย ๆ อย่างในการ์ตูน และสำหรับผมมันก็เป็นการทำหนังที่คลาสสิคด้วย”  

 

 

4. รอยแผลเป็น
    
กว่าจะมาเป็นโลแกน... เขาต้องผ่านการรักษาละฟื้นฟูพละกำลังมหาโหด เบื้องหลังของมันถูกบดบังไว้ด้วยรอยแผลเป็น? และนี่ก็คือหนทางที่แมนโกล์ดต้องการจะทำ “หนึ่งในสิ่งที่พวกเราทุกคนคิดว่าหนังเรื่องนี้มันควรจะทำออกมาเป็นยังไง ใช่แล้ว พวกเราไม่ได้ต้องการทำให้ทุกอย่างกลับมาเป็นเหมือนเดิม พวกเราต้องการให้มันเกิดคำถามบางอย่าง เพื่อที่จะทำให้ Logan มันแตกต่างออกไป แล้วก็ทำให้หนัง Wolverine มันมีโทนที่ต่างออกไปด้วย พวกเรารู้สึกเหมือนว่าพวกเราไม่สามารถยึดเอาธรรมเนียมดั้งเดิมทุกอย่างมาใส่ไว้ในหนังทั้งหมดของเราได้อย่างเคร่งครัดหรอก หรือพวกเราควรจะวางกลอุบายเอาไว้โดยการตัดสินใจทำมันซะก่อน ดังนั้นเราเลยเกิดคำถามขึ้นมาว่าการเยียวยารักษาของโลแกนมันก็ไม่น่าจะมีเหตุปัจจัยอะไรที่ทำให้เขาสามารถเยียวยามันได้โดยปราศจากรอยแผลเป็นหรอกจริงมั้ยล่ะ พวกเราเคยลองจินตนาการว่ารอยแผลเป็นเหล่านั้นมันอาจจะเกิดขึ้นมาตั้งแต่ตอนที่เขายังเด็ก แต่ด้วยอายุ เขาเริ่มแก่ขึ้นเรื่อย ๆ และร่างกายเขามันก็ค่อย ๆ ทรุดโทรมลง บางทีการรักษาเยียวยาของเขามันก็ไม่สามารถทำให้ผิวพรรณบอบบางเหมือนเด็ก ๆ มันทนได้คงกระพันตลอดไปหรอกนะ เราก็เลยจินตนาการกันว่าเขาพยายามรักษามันอย่างรวดเร็ว ซึ่งก็ยังรักษาอยู่จนถึงตอนนี้ แต่มันก็ทิ้งรอยแผลเป็นเอาไว้ คิดง่าย ๆ เลยก็คือร่างกายของเขามันเริ่มถูกทำลายมากขึ้นทีละน้อย เหมือนเป็นรอยสักจากการต่อสู้ในอดีต รอยบาดแผลเหล่านั้นมันทำให้หวนระลึกถึงการต่อสู้ที่ผ่านมา”

 

 

5. รอยด่างดำบนใบหน้าของโปรเฟสเซอร์ เอ็กซ์

“พวกเราอยู่ในอนาคต พวกเราผ่านชะตากรรมใน Days Of Future Past มาแล้ว” นี่คือสิ่งที่แมนโกล์ดยอมรับเกี่ยวกับช่วงเวลาของหนังเรื่องนี้ พิสูจน์ได้ชัดเจนจากริ้วรอยบนใบหน้าของตัวละครโปรเฟสเซอร์ เอ็กซ์ของแพทริค สจ๊วต (Patrick Stewart) จากช่วงเวลา 20 ปีที่ผ่านมา “พวกเราค้นหาทุก ๆ อย่างของตัวละครเหล่านี้ในการสร้างและควบคุมสถานการณ์ให้มันสมจริง ทั้งประเด็นเรื่องอายุ ความเปล่าเปลี่ยว ความเป็นอยู่ แล้วคำถามที่ว่าผมยังมีประโยชน์ต่อโลกอยู่อีกมั้ย?  ผมมองมันเทียบกับโอกาสที่จะเกิดขึ้น พวกเราเคยได้เห็นฉากแอ็คชั่นและการปกป้องจักรวาลของตัวละครเหล่านี้ แต่มันจะเกิดอะไรขึ้นล่ะเมื่อคุณปลดเกษียณ แล้วก็สิ้นสุดอาชีพที่เป็นอยู่? สิ่งที่น่าสนใจจริง ๆ สำหรับผมหรือการแทนที่เพื่อขุดในสิ่งที่มันยังไม่ได้ถูกขุดลงไปลึกที่สุด ไอเดียของเหล่ามิวแทนส์เมื่อพวกเขาไม่มีประโยชน์กับโลกอีกต่อไป หรือเพื่อความมั่นใจว่าหากพวกเขายังสามารถทำได้อะไรคือสิ่งที่พวกเขาควรจะทำ พลังของพวกเขามันถดถอยลงเหมือนกับพวกเราทุกคนเมื่อมีอายุมากขึ้นนั่นแหละ”   

 


6. เด็กสาวปริศนา

สำหรับภาพนี้แมนโกล์ดเผยว่า “ผมคิดว่าผมต้องไตร่ตรองอย่างรุนแรงเลยเกี่ยวกับสิ่งนั้น ผมคิดว่าสิ่งที่หนังเรื่องนี้เป็นในหลาย ๆ แนวทางมันคือเรื่องของครอบครัว จากสิ่งที่ปล่อยออกมาผมอยากให้ทุกคนลองหาสาเหตุดูว่าสิ่งที่พวกเราเจตนาจะทำคืออะไร อย่างน้อยก็ในช่วงเริ่มแรก” เรารู้ว่าเด็กสาวคนนั้นคือ Dafne Keane แต่ประเด็นคือเธอมารับบทเป็นใครกัน? จะใช่ Laura/X23 ตามข่าวลือหรือไม่ “ผมไม่ได้มาอยู่ที่นี่วันนี้เพื่อยืนยันหรือปฏิเสธอะไร ผมคิดว่ามันยอดเยี่ยมเลยนะที่ทุกคนคาดเดากันไปต่าง ๆ นา ๆ แล้วผมก็คิดว่ามันเป็นการแสดงให้เห็นว่าผู้ชมฉลาดขนาดไหน ในสิ่งที่แฟน ๆ คิดเกี่ยวกับตัวละครเหล่านี้ ผมไม่คิดว่าพวกเขาได้อยู่บนเส้นทางที่ผิดหรอก”

 

7. เบื้องลึกของหัวใจ

เช่นดียวกันแมนโกล์ดไม่ได้ยืนยันว่า บอยด์ โฮลบรู๊ก (Boyd Holbrook) นั้นรับบทเป็นไซบอร์ก Donald Pierce ตามข่าวลือหรือไม่ แต่อะไรคือสิ่งที่ทำให้เขาเลือก Holbrook เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในหนังเรื่องนี้? “เขาเป็นนักแสดงที่น่าเหลือเชื่อ และสำหรับผมเขาก็เหมาะจะมารับบทเป็นตัวร้าย แถมเขายังมีอารมณ์ขันอีกด้วย”

 

 

8. ชายผู้ไม่มีชื่อ?

เราได้เห็นตัวละครคาลิบันของ Stephen Merchant ที่ผู้กำกับแมนโกล์ดปล่อยออกมาให้ชมทางทวิตเตอร์กันไปแล้ว จากภาพจะเห็นว่าตัวละครนี้มีหัวโล้น ผิวขาวซีด ซึ่งตัวละครนี้เติบโตมาใต้ดินแล้วก็ไม่ค่อยถูกกับแสงแดดสักเท่าไหร่ “ผมมักจะสนใจค้นหาสิ่งที่มันดูน่าสนใจที่สุดของเหล่านักแสดงเสมอ Stephen เขาเป็นคนที่ตัวใหญ่ หนึ่งในหลาย ๆ สิ่งที่มันยอดเยี่ยมในการถ่ายทำกับเขาสำหรับตัวละครแบบนี้ก็คือเขาสูงกว่าโลแกนถึง 15 เซนติเมตร แล้วก็ใหญ่กว่า Patrick ด้วย เด็กน้อยในหนังเรื่องนี้อยู่แค่หัวเข่าเขาเท่านั้น ดังนั้นขนาดมันมีผลต่อความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมจริง ๆ แต่เขาก็มีหัวใจด้วย ดังนั้นนั่นมันเลยเป็นพลังงานที่ยอดเยี่ยมที่ใส่เข้ามาในหนังเรื่องนี้ และเขาก็เป็นคนที่เข้ามาแทนที่ในสิ่งที่เปลี่ยนแปลงเพื่อเติมเต็มพลังงานของพวกเรา”

 

 

9. ล้มตัวลงนอนบนรถ

นี่ไม่ใช่ภาพที่จะเห็นได้บ่อยนัก ซึ่งผู้กำกับแมนโกล์ดได้พูดถึงฉากนี้ว่า... “ผมคิดว่าหนังเรื่องนี้มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับครอบครัว การสานความสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน แล้วก็เกี่ยวกับการทำให้มันเชื่อมโยงไปยังโลกที่ซึ่งตัวละครเหล่านี้อาจจะรู้สึกโดดเดี่ยวมาก ๆ” 

 

 

10. เสียบทะลุคาง

นี่คือช่วงเวลาสุดสะพรึงของความรุนแรงในหนังเรื่องนี้ ซึ่งมันมีโทนที่ต่างออกไปจากที่เราเคยได้เห็น ๆ กันมาก่อน “สิ่งนี้สำหรับผมมันแสดงให้เห็นถึงความก้าวร้าว ฉากแอ็คชั่นคลาสสิคของ Wolverine ซึ่งพวกเราต้องการให้มันอยู่ในหนังเรื่องนี้  มากกว่าสิ่งที่แฟน ๆ เคยเรียกร้องกันมายาวนาน พวกเราเคยถูกจำกัดเอาไว้ด้วยทางใดทางหนึ่งหรืออื่น ๆ ในการนำเสนอพวกมัน แต่ผมคิดว่าพวกเราต้องเดินหน้าอย่างจริงจังเพื่อนำเสนอมันในหนังเรื่องนี้ ดังนั้นพวกเราก็เลยพยายามนำเสนอสิ่งพื้น ๆ บ้าน ๆ ที่พวกเรามักจะจินตนาการว่าการต่อสู้มันควรจะเป็นยังไง มันมีฉากแอ็คชั่นมหาโหดมากมายในหนังเรื่องนี้ พวกเราแค่พยายามทำให้มันแตกต่างอย่างชัดเจน แล้วก็ออกมาตามสัญชาตญาณจริง ๆ

 

11.ชายผู้เศร้าหมอง
    
สุดท้ายอีกหนึ่งฉากที่น่าสนใจคือฉากที่โลแกนจับมือกับสหายตัวน้อย ขณะที่ใบหน้าของทั้งสองดูเศร้าหมองอย่างมาก แถมในมือของโลแกนยังกุมวัตถุชิ้นหนึ่งอยู่ด้วย นี่เขากำลังขุดหลุมศพอยู่รึป่าว? “ผมก็ไม่รู้ว่าอะไรอยู่ในมือของเขา มันอาจจะเป็นไม้เท้าก็ได้” แมนโกล์ดอ้าง แต่จากภาพก็เห็นได้ชัดว่าสิ่งนั้นไม่ใช่ไม่เท้าแน่ ๆ 

 

ที่มา : Empireonline.com

 

 

: เกร็ดหนังดี, Logan

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • เกร็ดหนังดี ล้วงลึกก่อนดูภาพยนตร์ หม่อม
  • Deadpool 3 เตรียมท่องเวลา ฮิวจ์ แจ็คแมน ให้สัญญาไม่ทับซ้อนไทม์ไลน์ Logan
  • เกร็ดหนังน่ารู้ ก่อนดู Black Adam 20 ตุลาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์เท่านั้น!
  • เกร็ดภาพยนตร์ Vesper ฝ่าโลกเหนือโลก 6 ตุลาคม ในโรงภาพยนตร์
  • 6 เกร็ดหนังทวนความจำก่อนดู Fantastic Beasts: The Secrets Of The Dumbledore
  •  
     
     
    ร่วมแสดงความคิดเห็น
     
    ชื่อ :
     
    ความคิดเห็น :