ด้วยผลงานภาพยนตร์ที่ได้รับการยกย่องและมีความหลากหลายอย่าง Platoon, JFK, Natural Born Killers และ Wall Street โอลิเวอร์ สโตน ได้สำรวจช่วงเวลาสำคัญในวัฒนธรรมอเมริกันมาตลอดการทำงานในอาชีพนี้ นับตั้งแต่สงครามเวียดนามมาจนถึงโศกนาฏกรรม 9-11 เขาหาญกล้าหยิบยกประเด็นซึ่งเป็นที่ถกเถียงกันในสังคมมานำเสนอผ่านภาพยนตร์ซึ่งเจาะลึกเรื่องราวส่วนตัวแต่ก็มีความเป็นสากล เรื่องราวของเอ็ดเวิร์ด สโนว์เดนจึงเหมาะอย่างยิ่งที่จะได้รับการถ่ายทอดด้วยฝีมือของสโตน ผ่านสายตาอันคมกริบ ตลอดจนความถนัดในการเปิดโปงพฤติกรรมหน้าไหว้หลังหลอกในหมู่เจ้าหน้าที่ระดับสูง
ก่อนเขาจะเปิดเผยเรื่องราวที่ทำให้โลกตะลึง เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน สนับสนุนรัฐบาลอเมริกันอย่างสุดตัว หลังจากเติบโตมาในครอบครัวที่ทำงานอยู่ในภาครัฐ เขาก็สมัครเข้าร่วมกองทัพโดยมุ่งมั่นที่จะเป็นสมาชิกกองกำลังพิเศษเพื่อร่วมต่อสู้ในสงครามอิรัก แต่อุบัติเหตุร้ายแรงระหว่างการฝึกทำให้สโนว์เดนต้องออกจากกองทัพ เขาไปทำงานใน CIA แล้วต่อมาก็เป็น NSA
สโตนตั้งคำถามว่าเขาสามารถนำเสนอเรื่องไหนได้บ้างที่สาธารณชนยังไม่เคยรับรู้มาก่อน มีหนังสารคดีรางวัลออสการ์ซึ่งเล่าเรื่องราวการเดินทางของสโนว์เดนอยู่แล้ว รวมถึงหนังสืออีกหลายเล่มที่นำเสนอเรื่องนี้ "ผมตัดสินใจว่าอยากสำรวจสิ่งที่เกิดขึ้นในความคิดของเอ็ด" เขากล่าว "อะไรทำให้เขาออกมาประกาศแก่สาธารณชน เขาตระหนักถึงสิ่งที่จะต้องสูญเสียไปก่อนลงมือทำหรือเปล่า"
ผู้อำนวยการสร้างที่ร่วมงานกับสโตนมานานอย่างมอริตซ์ บอร์แมน ได้รับการติดต่อจากอนาโตลี คุเชเรนา ทนายความชาวรัสเซียของเอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน คุเชเรนาเขียนเรื่องนี้ไว้ในรูปแบบนวนิยาย และต้องการพบกับสโตนเพื่อพูดคุยถึงการดัดแปลงนิยายเล่มนี้ให้เป็นภาพยนตร์ หลังจากการพูดคุยเบื้องต้นกับทนายความคนดังกล่าว สโตนก็บินไปยังมอสโคว์และสุดท้ายเขาก็ได้พบกับสโนว์เดน "ตอนแรกผมไม่แน่ใจว่าเราจะนำเสนอชีวิตของเขาในรูปแบบเรื่องแต่งดีหรือไม่" สโตนอธิบาย "เรายังมองหาโครงสร้างโดยรวมอยู่ แต่หลังจากได้พูดคุยกับเขาและทราบข้อมูลเพิ่มมากขึ้น ผมก็เริ่มเห็นรูปแบบและแนวทางในการทำหนังเรื่องนี้"
ทีมผู้สร้างตัดสินใจเลือกทั้งหนังสือของคุเชเรนา และหนังสือชื่อ The Snowden Files ซึ่งเป็นมุมมองจากลุค ฮาร์ดิง ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ Guardian เกี่ยวกับประสบการณ์ในการตีพิมพ์ข้อมูลที่สโนว์เดนเผยแพร่ออกมา ด้วยความร่วมมือจากสโนว์เดน สโตนได้เริ่มต้นเขียนบทร่วมกับเคียรัน ฟิตซ์เจอรัลด์ นักเขียนหนุ่มผู้มีความสามารถจากหนังของ ทอมมี ลี โจนส์ เรื่อง The Homesman ซึ่งก่อนหน้านี้เคยทำงานร่วมกับสโตนในการดัดแปลงนวนิยายของสจ๊วร์ต โคเฮน เรื่อง The Army of the Republic
อันที่จริงแล้วฟิตซ์เจอรัลด์อยู่ในเบอร์ลินเพื่อทำงานในซีรีส์ตอนแรกสำหรับฉายทางช่อง HBO เกี่ยวกับโลกของการแฮ็คข้อมูล เขาจึงได้พบนักทำสารคดี ลอรา พอยทราส นักข่าว เจค็อบ แอพเพลบอม และคนอื่น ๆ ที่เคยช่วยเหลือสโนว์เดน "นับเป็นนิมิตหมายอันดีมาก ๆ ครับ" มือเขียนบทรายนี้กล่าว "ผมมองว่านี่อาจเป็นเรื่องราวที่สำคัญที่สุดที่ผมมีโอกาสได้เขียน ดังนั้นผมจึงตอบตกลงทันที หนึ่งสัปดาห์ต่อมาผมก็อยู่ในมอสโคว์เพื่อนั่งคุยกับเอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน"
อาจไม่น่าแปลกใจนักที่ในตอนแรกสโนว์เดนค่อนข้างระวังตัวกับทีมผู้สร้างหนัง "เขาไม่ได้อยากได้สัญญาทำหนังหรืออะไรแบบนั้น" สโตนกล่าว "ทนายของเขาอยากให้มีการทำหนังออกมาเพื่อสนับสนุนประเด็นนี้มากกว่า และเขาก็มองว่าผมน่าจะเหมาะ การทำงานครั้งนี้กินเวลายาวนานและยืดเยื้อ ค่อนข้างตึงเครียดด้วยเพราะคนที่เราชื่นชมอย่าง เกล็นน์ กรีนวาลด์ ก็เขียนหนังสือออกมาเหมือนกัน แต่มันเป็นข้อเขียนทางกฎหมายมากกว่า ขณะที่เราสนใจเรื่องราวที่เป็นดรามา"
สโตนกับฟิตซ์เจอรัลด์ตั้งใจให้หนังเรื่องนี้แสดงกระบวนการทำงานภายใน NSA ได้อย่างถูกต้องแม่นยำมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา ทั้งสองจึงได้ปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญและที่ปรึกษาทางเทคนิค รวมถึงนักเปิดโปง NSA ชื่อดังอย่างวิลเลียมบินนีย์และโธมัส เดรค "ผมและโอลิเวอร์มองว่าเราจะต้องไม่ลดทอนคำพูดของสโนว์เดนให้ฟังดูง่ายเกินความเป็นจริง" ฟิตซ์เจอรัลด์กล่าว "เราต้องการให้ผู้ชมเชื่อในบทสนทนาระหว่างเอ็ดกับเพื่อนร่วมงานรวมถึงผู้บังคับบัญชา"
ฟิตซ์เจอรัลด์ศึกษาข้อมูลทุกอย่างเกี่ยวกับโครงการของ NSA เท่าที่ทำได้และให้สโนว์เดนช่วยตรวจสอบว่าสิ่งที่พวกเขาเข้าใจนั้นถูกต้อง เขายอมรับว่าการเขียนเรื่ององค์กรที่ปกปิดทุกอย่างเป็นความลับอย่าง NSA ทำให้ยากที่จะตรวจสอบข้อเท็จจริงในบางครั้ง "ก็ใครจะไปบันทึกสิ่งที่เกิดขึ้นใน NSA ได้ล่ะ แต่เราก็มีข้อมูลจากวงในมากมาย ซึ่งถ้าเจ้าหน้าที่ NSA ได้ดู ก็คงแอบหัวเราะหึ ๆ อยู่เหมือนกัน" สำหรับฟิตซ์เจอรัลด์ เรื่องราวของสโนว์เดนมีแก่นสำคัญอยู่ที่การเปลี่ยนแปลงจากลูกชายผู้รับผิดชอบต่อหน้าที่และเจริญรอยตามครอบครัวในแวดวงทหาร กลายมาเป็นผู้กระทำสิ่งที่มีคนเรียกว่าการกบฏครั้งร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐ อะไรผลักดันให้เขาละทิ้งอาชีพการงานที่สู้อุตส่าห์ฝ่าฟันมาและแสดงตัวเป็นปฏิปักษ์ต่อสถาบันต่างๆ ที่เขาเคยสาบานไว้ว่าจะปกป้อง "เหมือนละครโศกนาฏกรรมกรีกเลยครับ” ฟิตซ์เจอรัลด์กล่าว “เราทุกคนรู้ว่าเขาทำอะไร คำถามคือเขาทำอย่างไรและทำไปทำไม"
"Snowden - อัจฉริยะจารกรรมเขย่ามหาอำนาจ" เข้าฉาย 6 ตุลาคมนี้ในโรงภาพยนตร์ นำแสดงโดย โจเซฟ กอร์ดอน-เลวิตต์, ไชลีน วูดลีย์, แซกคารี ควินโต, เมลิสซา ลีโอ, ทอม วิลคินสัน, รีส อิแฟนส์, ทิโมธี โอลีแฟนต์, นิโคลาส เคจ, สก็อตต์ อีสต์วูด และ โจลี ริชาร์ดสัน กำกับการแสดงโดย โอลิเวอร์ สโตน
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ IG : snowdenmovieth,
https://www.facebook.com/SnowdenTheMovieThailand,
https://twitter.com/snowdenmovieth