ถ้าเอ่ยถึงนางเอกแถวหน้าของวงการบันเทิง หนึ่งคนที่เดินอยู่บนเส้นทางบันเทิงมากว่า 20 ปีแล้ว คือ "นุ่น - วรนุช ภิรมย์ภักดี" ที่ตอนนี้มีผลงานละครเรื่อง "พิษสวาท" ทางช่องวัน 31 ในบทของ "คุณอุบล" หรือ "สโรชินี" หญิงสาวที่ถูกจองจำด้วยความรัก จนนำมาสู่ความแค้น ประกบคู่กับพระเอกหนุ่ม "ป้อง - ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์" ที่สร้างปรากฏการณ์เรตติ้งแรงและได้รับการตอบรับจากแฟนละครมากมาย วันนี้ "ดาวต่างมุม" มีโอกาสได้นัดสาวนุ่นมาพูดคุยถึงความสำเร็จในฐานะนักแสดงของเธอในครั้งนี้เป็นอย่างไรบ้าง รวมถึงอัพเดทชีวิต งาน ความรักกับสามี "ต๊อด - ปิติ ภิรมย์ภักดี" ที่ดูแลกันและกันมาถึง 6 ปีแล้ว ติดตามบทสัมภาษณ์ของสาวเก่งคนนี้กันได้เลยจ้า
ที่มา: ดาวต่างมุม เดลินิวส์ / ภาพ: @nuneworanuch (IG)
กระแสตอบรับจากละคร "พิษสวาท" ดีมาก?
ใช่ค่ะ นุ่นดีใจมากนะคะ ทั้งคนทำเบื้องหน้า และเบื้องหลัง ก็ดีใจที่เขาชอบในสิ่งที่เราทำออกมา เมื่อมีผลตอบรับที่ดี ก็เหมือนได้รับโบนัส เราก็ตั้งใจทำงานมากก็มีกำลังใจ วันแรกที่ละครจะออนแอร์ก็ตื่นเต้นกัน นัดกันว่าจะไปดูตอนแรกที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ปรากฏว่านุ่นไม่อยู่เมืองไทยไปต่างประเทศ อย่างที่อัพรูปในไอจีว่าไปนั่งดูละครข้างหลังมีวิวเป็นหอไอเฟลนั่นแหละค่ะ (หัวเราะ) ซึ่งกระแสตอบรับที่ทุกคนพูดถึงนุ่นเห็นทุกอย่าง ทั้งชมโปรดักชั่น คอมพิวเตอร์กราฟิก ผู้กำกับเก่ง เสื้อผ้าสวย ตัวละครเหมาะสม เดี๋ยวนี้ทีวีมีหลายช่อง กว่าผู้ชมจะเลือกดูช่องใดช่องหนึ่งก็ยาก เราในฐานะนักแสดงก็ต้องพัฒนาตัวเอง เราเป็นนักแสดงอิสระถามว่าชื่อเสียงมันจะมีมากกว่าไหม ก็คงไม่มีแล้ว แต่ตั้งใจทำงานมากไม่ว่าจะยืนอยู่ในตำแหน่งไหนก็จะตั้งใจทำให้ดีที่สุดค่ะ
แต่ตอนแรกนุ่นไม่ได้ตั้งใจจะรับเล่นเรื่อง "พิษสวาท" ใช่ไหม?
ใช่ค่ะ นุ่นยังเหนื่อยกับการถ่ายละครเรื่อง "อีสา" อยู่เลย จนพี่ "สันต์ ศรีแก้วหล่อ" ผู้กำกับดึงนุ่นไปคุยเงียบ ๆ ในโบสถ์ตอนถ่ายละคร บอกเราว่าจะชวนเล่นละครอีกเรื่อง เราก็ถามว่าเรื่องอะไร เขาก็ไม่ยอมบอกนะ(ยิ้ม) พอพูดชื่อเรื่องมา เราก็ปฏิเสธไปเพราะเรื่องอีสายังถ่ายไม่จบ จนพี่สันต์ไปกำกับเรื่อง "บัลลังก์เมฆ" ก็มาถามนุ่นอีก ส่งทรีทเมนต์ละครมาให้อ่าน ตอนนั้นนุ่นก็รับละครเรื่องหนึ่งไปแล้ว แต่สุดท้ายอะไรหลาย ๆ อย่างทำให้รู้สึกอยากอ่านบทประพันธ์จัง พออ่านเสร็จรู้สึกชอบเลย นุ่นมีความรู้สึกว่าคุณอุบลเป็นตัวละครที่มีทั้งร้ายและดี มีหลายอารมณ์อยู่ในตัวเดียวกัน แต่ถึงจะร้ายแต่ตัวละครตัวนี้ยังมีความละมุนอยู่ คำนี้แหละที่ทำให้นุ่นรู้สึกว่านุ่นอยากเล่นเรื่องนี้จนตกลงรับค่ะ
ไม่ใช่ไม่รับเล่นครั้งแรก เพราะได้ยินเกี่ยวกับอาถรรพณ์ต่าง ๆ ใช่ไหม?
ไม่ใช่เลยค่ะ นุ่นไม่โฟกัสเรื่องนั้นเลย พี่สันต์พยายามติดต่อนุ่นไปเล่น นุ่นก็ไปเสิร์ชอินเทอร์เน็ตดูว่าละครเรื่องนี้เกี่ยวกับอะไร นุ่นไม่ได้กลัวเรื่องที่เขาพูดต่อ ๆ มา นุ่นเองมีโอกาสนั่งปฏิบัติธรรมและก็อยู่กับศาสนามาตั้งแต่เด็ก เราก็รู้ว่าสิ่งเหล่านี้จะอยู่รอบ ๆ ตัวเรา แต่ก็พิสูจน์ไม่ได้ เอาเป็นว่าในเรื่องของการทำงานเราไม่พูดถึงกันว่าจะอาถรรพณ์หรือไม่อาถรรพณ์ เพราะสุดท้ายเราก็ปรารถนาดี นำเสนอในแง่มุมที่ดี อย่างการรำในฉากเปิดละคร หลายคนบอกว่ารู้สึกว่ารักชาติมากยิ่งขึ้นด้วยค่ะ
หลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าบท "คุณอุบล" ต้องเป็นนุ่นเล่นเท่านั้น?
ขอบคุณมากค่ะ แต่บทบาทของนางรำหลวงชื่อก็บอกอยู่แล้ว คนที่รำไทยได้มีไม่เยอะ นี่คือความโชคดีของนุ่น อีกทั้งเรายังเป็นผู้หญิงตัวเล็ก หน้าไทย ๆ เวลาแต่งหน้า แต่งตัวเลยดูเหมาะ ซึ่งวันแรกที่ออกอากาศไปมีคนติดแฮชแท็กชื่อละครเต็มเลย บางคนก็วาดรูปคุณอุบลแล้วแท็กมาให้นุ่นในไอจีด้วย ทำให้เรารู้สึกได้ว่าคนชอบและติดตามเรื่องนี้กันเยอะจริง ๆ บางคนบอกด้วยว่าไม่ได้ดูละครไทยมานาน จนกระทั่งมาดูเรื่องนี้ดีใจมาก ๆ เลยค่ะ เพราะเราไม่คิดเหมือนกันว่าเล่นมาตั้งหลายบทบาท วันนึงได้รับโอกาสมาเล่นบทบาทคุณอุบลค่ะ
ในมุมมองของนุ่น ละคร "พิษสวาท" ให้อะไรกับคนดูบ้าง?
ในความคิดของนุ่น หลัก ๆ คือเรื่องของความรักชาติ รักแผ่นดิน และความรักของหนุ่มสาว ความรักของพระเอกนางเอกเริ่มต้นจากการรักแผ่นดิน พระเอกออกรบเพื่อแผ่นดิน ส่วนนางเอกก็เป็นนางรำหลวง ฉากแรกที่รำบวงสรวงขอพรให้ประเทศเราพ้นภัย เราเป็นคนเหมือนกัน ถึงแม้ว่าจะคนละตำแหน่งหน้าที่ แต่ก็อยู่บนพื้นฐานของการรักชาติ รักแผ่นดินได้ แต่เรื่องของความรักในสมัยก่อนกับสมัยปัจจุบันมีความแตกต่างกัน แต่ไม่ว่าจะยุคไหนเวลามีอะไรที่จะทำให้เข้าใจผิดกันแบบที่พระเอกนางเอกในเรื่องเป็น ก็ควรพูดคุย สื่อสารกันให้เข้าใจในปัญหา แม้ในเรื่องความรักจะเปลี่ยนเป็นความแค้น ก็ต้องรอดูจนจบว่าบทสรุปจะเป็นยังไงนะคะ
ในการตัดสินใจรับงานละครของนุ่น ต้องพิจารณาจากอะไรบ้าง?
นุ่นดูที่ชอบเป็นหลักเลยค่ะ เราไม่ใช่เด็ก ๆ แล้วที่รับละครหลาย ๆ เรื่องกัน เราอยากให้เป็นงานที่ใช้ความสามารถในฐานะที่เราเป็นนักแสดงให้ได้มากที่สุด นุ่นมองว่าการแสดงมันไม่ได้หยุดอยู่แค่นี้ แต่การเรียนรู้ในฐานะนักแสดงของเราไม่มีที่สิ้นสุดแน่นอน อายุเรามากขึ้นบทที่เราได้รับมันก็เปลี่ยนไป นุ่นทำงานมาก็นานแต่ไม่เคยได้รับบทแบบนี้มาก่อน ก็ขอบคุณที่ยังให้โอกาสได้รับบทที่ดีแบบนี้ค่ะ
ละครเรื่องต่อไปของนุ่นคือ "ระเริงไฟ" เป็นรีเมคอีกแล้ว?
เรื่อง "ระเริงไฟ" ที่พี่หน่อย - บุษกรเป็นผู้จัด ถ่ายไปได้ 10 กว่าคิวบทสนุกมากค่ะ คนจะมองว่าเรื่องนี้บทนุ่นต้องแซ่บ ซึ่งจริง ๆ ไม่ใช่นะคะ ระเริงไฟเหมือนเราไปเล่นกับไฟเป็นดราม่าเลย พระเอกจะกลับมาแก้แค้นครอบครัวเรา โดยที่เราไม่รู้เรื่อง อย่างที่ทราบเป็นละครรีเมค นุ่นเล่นละครรีเมคตั้งแต่ "แม่อายสะอื้น" แล้ว จนถึง "ทองเนื้อเก้า" บางทีโดนวิจารณ์ตั้งแต่ยังไม่เริ่มถ่ายทำด้วยซ้ำ แต่นุ่นมีภูมิต้านทานกับคำวิจารณ์พอค่ะ เราก็ทำงานของเรา ไม่ต้องมาเครียด คำวิจารณ์เกิดขึ้นได้เสมอ เพราะคนดูเดี๋ยวนี้มีโอกาสดูซีรีส์ต่างประเทศ ทำให้มีข้อเปรียบเทียบ แต่อย่างที่บอกงบประมาณในการถ่ายทำของไทยกับต่างประเทศนั้นต่างกันด้วย ฉะนั้นเราไม่คิดมาก ทำงานของเราเต็มที่ก็พอค่ะ
ปีนี้นุ่นอยู่ในวงการมา 20 ปี วงการนี้ให้อะไรกับเราบ้าง?
เวลาผ่านไปเร็วมากเลยค่ะ เราก็ยังมีพื้นที่ให้อยู่ตรงนี้ก็ดีใจนะคะ เราก็มีอาชีพนี้มาเกินครึ่งชีวิตเป็นอาชีพที่เรารัก เราอยากใช้คำว่านักแสดงมากกว่าคำว่าดารา ไม่ใช่แค่เล่น ๆ ไป ซึ่งการเข้ามาในวงการของนุ่นไม่ใช่ฝันมาตั้งแต่เริ่มต้น มันเป็นความบังเอิญ ตอนนั้นอยู่มัธยมปลายก็ไม่รู้เรื่องอะไรมากมาย มีงานมาก็ทำมาเรื่อย ๆ แต่สุดท้ายก็เป็นสิ่งที่เราชอบ และกลายมาเป็นอาชีพที่รักแล้ว เราไม่เคยรู้สึกท้อจนอยากจะเลิกทำเลย สิ่งที่เราได้จากงานคือการเรียนรู้โลกกว้างกว่าเพื่อนรุ่นเดียวกัน เพราะนุ่นจะทำงานกับผู้ใหญ่มุมมองเราไปไกล ยิ่งมีโอกาสได้มาทำพิธีกรรายการ "ที่นี่หมอชิต" จากแต่ก่อนไม่เคยสนใจอะไร เพราะในกองละครจะไม่ค่อยคุยกันเรื่องอื่นนอกจากท่องบท แต่ทำงานกับ พี่ดู๋ - สัญญา เขาสอนให้เราต้องอ่าน ต้องมีความรู้รอบตัวจะได้คุยกับใครก็ได้ค่ะ
การที่เราเป็นนางเอกมาตลอด เหมือนยิ่งสูงก็ยิ่งหนาวหรือเปล่า?
นุ่นไม่เคยคิดเรื่องนี้เลย คิดว่าทำงานของเราให้ดีที่สุดเท่านั้นเอง อีกอย่างนุ่นไม่มีเป้าหมายสูงสุดของการเป็นนักแสดงอะไรเลย อยากเล่นละครไปเรื่อย ๆ บอกไม่ได้ด้วยว่าจะหยุดเมื่อไหร่ แต่เราก็มีอย่างอื่นที่ลองทำอย่างธุรกิจ เพราะเรารู้ดีว่าอาชีพนักแสดงเป็นอาชีพที่ไม่ถาวร วันหนึ่งเราเป็นนางเอก อีกวันหนึ่งอาจจะเปลี่ยนก็ได้ด้วยเรื่องของอายุ ธุรกิจที่มีอยู่หลัก ๆ ตอนนี้ คือสถาบัน สอนนาฏศิลป์นาฏก, คอนโดเดอะพีช ลาดพร้าว, ร้านแสนแซ่บ, ร้านก๋วยเตี๋ยวเป่าปาก ฯลฯ ก็ไปได้ด้วยดีค่ะ แต่พอนุ่นทำธุรกิจเยอะ ก็มักจะมีข่าวแซวว่าเราแต่งงานแล้ว เป็นนางเอกไม่เห็นต้องทำอะไรให้เยอะใช่ไหมคะ จริง ๆ ใครบอกว่าแต่งงานแล้วต้องไม่ทำงาน เขาคิดไปเองหรือเปล่า ยิ่งเราทำงานมาตั้งแต่เด็ก ๆ แบบนี้ ไปอยู่เฉย ๆ ไม่ได้หรอกเนอะ
บางครั้งมีข่าวว่านุ่นเปลี่ยนไป หรือเรื่องความรักบั่นทอนเราบ้างไหม?
ข่าวแซวว่านุ่นเปลี่ยนไปโดนมาตั้งแต่เด็ก ๆ จนรู้สึกเฉย ๆ แล้วค่ะ อย่างที่บอกว่าภูมิต้านทานดารายุคนุ่นอย่าง อั้ม-พัชราภา หรือ ชมพู่-อารยา ก็เจอข่าวมาหลากหลาย ถ้าเราไม่ได้เป็นแบบนั้นก็ไม่รู้จะไปหงุดหงิดทำไม นุ่นเรียนจบนิเทศศาสตร์มาเหมือนกัน รู้ว่านักข่าวที่ดีต้องทำยังไง แต่นุ่นทำความเข้าใจว่าเดี๋ยวนี้การแข่งขันสูง อะไรที่ให้เป็นประเด็นได้ก็ทำหมด ถึงตัวนักข่าวจะไม่อยากทำ มันเป็นเรื่องของธุรกิจ เราก็ทำความเข้าใจเลยไม่ได้โกรธ ข่าวที่ออกคนพูดไป 2-3 วันก็หาย แล้วเดี๋ยวก็มีข่าวใหม่ นุ่นไม่เคยโดนข่าวหนักหนาอะไรขนาดนั้นมีแต่เรื่องครอบครัวอย่างที่ได้ยินกันมาตลอด ซึ่งเราไม่ได้คิดมาก ขอแค่คนในครอบครัวเราคุยกันเข้าใจก็พอ ข่าวอาจจะทำให้คนเข้าใจผิดคิดไปไกลเราก็ห้ามเขาไม่ได้ แต่ยังไงเรื่องในครอบครัวเราก็ไม่จำเป็นต้องพูดให้ใครฟังมากมายค่ะ
ทำทั้งงานในวงการ ดูแลธุรกิจ นุ่นแบ่งเวลาชีวิตยังไงบ้าง?
จันทร์ อังคาร พุธ นุ่นให้คิวละคร วันอื่น ๆ นุ่นก็อยู่บ้านไม่รับงาน นอกจากเป็นอีเวนต์ที่ไม่ได้หนักมาก ซึ่งถ้าว่างจริง ๆ ก็จะไปเที่ยวต่างประเทศ คนชอบบอกนุ่นเที่ยวเมืองนอกบ่อย เหตุผลเพราะนุ่นชอบ และฝันตั้งแต่เด็ก ๆ ว่าอยากไปเรียนเมืองนอก แต่เพราะทำงานมาตลอดเลยไม่ได้มีโอกาสนั้น และการไปเที่ยวต่างประเทศทำให้เรามีแรงบันดาลใจใหม่ ๆ เปิดหูเปิดตา เป็นการชาร์จพลังให้ชีวิต ซึ่งจะไม่ให้กระทบกับการถ่ายคิวละครเด็ดขาดด้วยค่ะ
เพื่อน ๆ ในวงการผันตัวเป็นผู้จัดละคร เราอยากทำบ้างไหม?
นุ่นว่านุ่นไม่เหมาะกับการเป็นผู้จัดละครเลยค่ะ(หัวเราะ) มีคนชวนเยอะ แต่ขอเราเป็นนักแสดงดีกว่า เราหาสิ่งที่เหมาะสมกับเรา อย่าไปดิ้นรนในสิ่งที่เราไม่ได้ถนัด เพราะการเป็นผู้จัดละครต้องมีประสบการณ์เยอะในระดับหนึ่ง ซึ่งอยู่แบบนี้เราก็สบายใจกว่าค่ะ
ปีนี้แต่งงานกับคุณต๊อดเข้าสู่ปีที่เท่าไหร่แล้ว?
ปีที่ 6 แล้วค่ะ(ยิ้ม) ความรักของนุ่นกับคุณต๊อด เราปล่อยให้เป็นธรรมชาติ ไม่เคยมองอนาคตยาว ๆ จะเป็นยังไง เราคุยกันมาตลอด ตั้งแต่เรารู้จักกัน จนตัดสินใจแต่งงานว่าจะไม่พูดถึงอนาคต เพราะเราไม่มีทางรู้ก่อนได้ ขอแค่ทำวันนี้และทุก ๆ วันให้มีความสุข เพื่อจะได้ไม่รู้สึกเสียใจดีที่สุดแล้วค่ะ
นุ่นคุยกับคุณต๊อดไหม เวลามีข่าวอะไรเกี่ยวกับครอบครัว?
ไม่ค่ะ คุณต๊อดเข้าใจ ไม่ทำให้มันมีผลอะไรในชีวิตของเราดีที่สุด ถ้าต้องคุยกันจริง ๆ ก็คุยขำ ๆ ถึงเราจะทำงานกันคนละสายงาน แต่ถ้ามีเวลาว่างก็อยู่ด้วยกันตลอด เดี๋ยวเดือนหน้านุ่นจะไปเชียร์คุณต๊อดแข่งรถที่เซียงไฮ้ แล้วที่คนบอกว่านุ่นกับคุณต๊อดไม่ค่อยมีรูปคู่ลงโซเชียล ง่าย ๆ เลยคือคุณต๊อดเขาจะเป็นคนไม่ค่อยชอบถ่ายรูป และเขารู้สึกว่าเขาไม่ใช่ดาราด้วย ข่าวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างนุ่นกับคุณต๊อดเราจะไม่ค่อยสนใจ ขอแค่คนในครอบครัว คุณพ่อคุณแม่ของเราเข้าใจพอแล้ว อย่างเรื่องมีน้องนุ่นก็ยังตอบไม่ได้ ตอบได้แค่วันนี้ ในสิ่งที่เราต้องรับผิดชอบก็ทำให้เต็มที่ ซึ่งเรายังมีความสุขดีทั้งเรื่องงานและเรื่องครอบครัวค่ะ
สุดท้ายนุ่นอยากฝากอะไรถึงแฟน ๆ ที่ติดตามผลงานมาตลอดหน่อย?
ขอบคุณจากใจจริง ๆ นุ่นก็จะตั้งใจทำงานทุก ๆ อย่างเต็มที่ ยิ่งถ้ายังมีแฟน ๆ ชื่นชอบ ก็อยากให้เขาได้ติดตามไปตลอดเพื่อจะได้เห็นพัฒนาการของเรา ขอบคุณที่คอยติดตามกันแล้วก็อย่าลืมติดตามชมละครเรื่อง “พิษสวาท” และเรื่องอื่น ๆ ที่กำลังถ่ายทำกันต่อไปด้วยนะคะ รับรองสนุกแน่นอนค่ะ