
ก่อนที่จะไปชมภาพยนตร์ Jason Bourne - เจสัน บอร์น ยอดจารชนคนอันตราย เรามาทราบรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ กันก่อนดีกว่า ว่ากว่าจะมาเป็นภาพยนตร์ภาคที่ 5 กับเรื่องราวของ เจสัน บอร์น มีอะไรทีเราต้องรู้กันบ้างเอ่ย
1. บอร์น (Bourne) เป็นภาพยนตร์ชุดแนวแอ็คชั่นสายลับ ดัดแปลงจากนวนิยายชุดที่ใช้ชื่อเดียวกันของรอเบิร์ต ลัดลัม ปัจจุบันมีทั้งสิ้น 5 ภาค โดยภาคที่ 1-3 และภาค 5 เป็นเรื่องราวของเจสัน บอร์น (รับบทโดย แมตต์ เดมอน) มือสังหารที่ความจำเสื่อมและต้องหนีจากการตามล่า ส่วนในภาคที่ 4 เป็นเรื่องราวของแอรอน ครอส (รับบทโดย เจเรมี เรนเนอร์) สายลับที่ถูกตามล่าหลังโครงการที่เขาสังกัดอยู่ถูกสั่งปิด

2. The Bourne Identity - ล่าจารชน ยอดคนอันตราย (2002 กำกับโดย ดั๊ก ลีแมน)
The Bourne Supremacy - สุดยอดเกมล่าจารชน (2004 กำกับโดย พอล กรีนกราส)
The Bourne Ultimatum - ปิดเกมล่าจารชน คนอันตราย (2007 กำกับโดย พอล กรีนกราส)
The Bourne Legacy - พลิกแผนล่า ยอดจารชน (2012 กำกับโดย โทนี กิลรอย)
Jason Bourne - เจสัน บอร์น ยอดจารชนคนอันตราย (2016 กำกับโดย พอล กรีนกราส)
![]()
เบื้องหลังที่ ถนนในเมืองวูลวิช ของกรุงลอนดอน
3. อีกปัจจัยหนึ่งในความสำเร็จของ Bourne ก็คือการทำงานตามโลเกชั่นทั่วโลก สำหรับภาพยนตร์ภาคนี้ใช้โลเกชั่นทั้งในเตเนรีเฟ (เกาะใหญ่ที่สุดของหมู่เกาะคานารี่ นอกชายฝั่งโมร็อคโค) ลอนดอน เบอร์ลิน วอชิงตัน ดีซี และลาสเวกัส การถ่ายทำในโรงถ่ายก็ต้องมีเช่นกัน
4. กำหนดการถ่ายทำของภาพยนตร์ Jason Bourne ใช้เวลาถ่ายทำในกองถ่ายหลักนาน 85 วัน ควบคู่ไปกับการถ่ายทำของกองถ่ายย่อยที่ 2 อีก 30 วัน กุญแจสำคัญของการทำงานก็คือความตั้งใจที่จะถ่ายทำตามลำดับในบทภาพยนตร์ สำหรับการออกแบบงานถ่ายทำภาพยนตร์ของกรีนกราสส์ พวกเขาได้สัมผัสกับการเปลี่ยนแปลงตามแบบวิถีของชีวิตประจำวัน ฉากต่างๆ ถูกรีไรต์ มีการออกแบบฉากต่อสู้ใหม่ การเปลี่ยนแปลงมากมายถือเป็นเรื่องจำเป็นเพื่อคงความรู้สึกของภาพยนตร์เอาไว้ในเวลานั้นๆ ความสะดวกการยืดหยุ่นได้รับการตอบแทบเกือบจะเสมอ
![]()
5. สิ่งสำคัญที่สุดก็คือการรักษาให้กองถ่ายปลอดภัย ไม่ว่าเมื่อใดที่เป็นไปได้ พอล กรีนกราส จะใช้กล้องระยะไกล พวกมันจะถูกติดตั้งเอาไว้ที่ถนนหรือบนรถ และควบคุมการใช้จากเจ้าหน้าที่ เราต้องทำงานด้วยความเร็วสูง หลายสิ่งหลายอย่างอาจผิดพลาดได้ และเราก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อมถ้ามีเหตุร้ายใดๆ เกิดขึ้น เรายังใช้อุปกรณ์พิเศษ มีเครนที่ติดตั้งอยู่บนหลังคารถ พอล กรีนกราส มักเลือกใช้กล้องที่มีขนาดเล็กที่สุด ซึ่งบางครั้งอาจถูกนำไปติดตั้งเอาไว้ในจุดเสี่ยง เราใช้กล้อง 15 ถึง 16 ตัวในการถ่ายทำฉากพิเศษๆ เหล่านี้ โดยที่เราไม่ได้ทำกล้องหายไปเลยสักตัว
6. หนึ่งในองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดในภาพยนตร์ชุด Bourne ก็คือเรามีคนมากมายที่ไม่ไว้วางใจกัน และความไว้ใจเดียวที่มีก็คือความไว้วางใจระหว่างบอร์นและนิคกี้ ในอีกด้านหนึ่ง ซึ่งเป็นด้านของซีไอเอ ไม่มีใครไว้ใจคนอื่นเลย ซึ่งมันช่วยเพิ่มมิติให้กับความลึกลับตื่นเต้นของเรื่องให้มากขึ้นไปอีกหนึ่งขั้น
![]()
7. ในภาพยนตร์ Jason Bourne ผู้กำกับ พอล กรีนกราส ได้สร้างสมาชิกคนสำคัญในทีมของดิวอี้ขึ้นมา ได้แก่ เฮ็ทเธอร์ ลี รับบทโดยนักแสดงสาวเจ้าของรางวัลออสการ์ อลิเซีย วิกันเดอร์ เฮ็ทเธอร์คือมือแฮ็คเกอร์ ความสามารถของเธออยู่ที่การวิเคราะห์และคาดการณ์ถึงความขัดแย้งที่เป็นไปได้ในส่วนต่างๆ ของโลกผ่านโซเชี่ยลมีเดีย จากนั้นก็ใส่อิทธิพลหรือแม้กระทั่งควบคุมพวกเขาได้
8. หนึ่งบทความประทับใจที่ วินเซนต์ แคสเซล นักแสดงผู้รับบท ดิแอสเซ็ท กล่าวไว้ “ภาพยนตร์แฟรนไชส์ทุกเรื่องต่างมีสไตล์เป็นของตนเอง และแน่นอนว่ามันมีสไตล์แบบ เจสัน บอร์น ถึงแม้จำนวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเวลาอันสั้นอาจท้าทาย แต่ก็มีสไตล์ที่สมจริงที่เรื่องนี้ถูกเล่าออกมา และนั่นก็เกิดมาจากพอล ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนภาพที่ถูกขโมยมาจากความเป็นจริง”
![]()
9. ก่อนเริ่มต้นถ่ายทำภาพยนตร์ปี 2002 อย่าง The Bourne Identity มีคนแนะนำเดม่อนว่าการชกมวยจะส่งอิทธิพลต่อทั้งการเดินและท่าทางของ เจสัน บอร์น ดังนั้นเดม่อนจึงฝึกต่อยมวยทุกวันนานถึงหกเดือน โดยเริ่มต้นด้วยการฝึกพื้นฐานและฟุตเวิร์ก นับแต่นั้นมา เขาก็ชกมวยมาตลอด “ตอนนั้นผมอายุ 29 ตอนนี้ผมอายุ 45 แล้ว และตลอด 16 ปีมานี้ ผมยังคงชกมวยอยู่ครับ เพราะผมหลงรักกีฬาชนิดนี้ไปแล้ว ผมว่ามันช่วยได้มากกับตัวละครตัวนี้ โดยเฉพาะมันเป็นบทที่ต้องใช้ร่างกายเยอะ ผมพบว่าการทำให้แน่ใจว่าผมยังคงชกมวยอยู่เพื่อภาพยนตร์เหล่านี้ มันคือหนึ่งในรูปแบบการเตรียมตัวที่ดีที่สุดสำหรับผู้ชายคนนี้ครับ” เดม่อน กล่าว
![]()
10. เพื่อสร้างฉากสตั๊นต์ฉากนี้ ทีมงานเลือกใช้รถโมโตครอส 450 Husqvarna ที่มีการปรับแต่ง และขับขี่โดย พอล เอ๊ดมอนด์สัน แชมป์โลก World Enduro 4 สมัย กับ เคที่ บูลล็อค แชมเปี้ยนไทออลส์ชาวอังกฤษ นั่งซ้อนท้ายอยู่ ขณะที่ ร็อบ เฮอร์ริ่ง นักแข่งโมโตครอส Ex-GP เป็นคนขับมอเตอร์ไซค์ติดกล้อง ขณะที่ มาร์ติน อิวานอฟ นักแข่งรถและเป็นสตั๊นต์แมนที่เคยร่วมงานกับภาพยนตร์เรื่อง The Bourne Supremacy มาแล้ว เป็นคนขับรถโฟล์กสวาเก้นไล่ตาม ขณะที่ภาพของเดม่อนขณะขับมอเตอร์ไซค์นั้นถูกเพิ่มเข้าไปในขั้นตอนการลำดับภาพ
เดม่อนยอมรับว่าเขารู้สึกประหลาดใจกับผลงานของทีมงานมาก “เจสันต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญในทุกเรื่อง ดังนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ ผมจะต้องอยู่ท่ามกลางผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้ และพวกเขาก็จะช่วยให้ผมทำทุกอย่างเท่าที่ผมจะทำได้ และเมื่อผมทำไม่ได้ พวกเขาก็จะก้าวเข้ามาทำแทน ตอนนี้ พวกเขาสามารถที่จะใส่หน้าผมเข้าไปบนตัวของพอล ผมก็ต้องทำให้ผมตั้งขึ้นและนั่งอยู่บนมอเตอร์ไซค์”