ดารา เซเลบ รวมถึงคนดังทั่วโลก พร้อมใจถือป้าย Bring Back Our Girls กลายเป็นกระแสดังทั่วโลกอินเทอร์เน็ต จุดประสงค์แสดงจุดยืนต่อต้าน และกระตุ้นให้ผู้นำนานาชาติยื่นมือเข้าช่วยเหลือ จากเหตุการณ์นักเรียนหญิงในไนจีเรียกว่า 200 คน ถูกลักพาตัวไปจากโรงเรียน  

          ป้าย Bring Back Our Girls กลายเป็นคำฮิตอย่างมากในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากคนดังหลาย ๆ ราย ไม่ว่าจะเป็นนางมิเชล โอบามา, เอมม่า วัตสัน, คารา เดเลวีญ, แอนน์ แฮธาเวย์, เอมี โพห์เลอร์ ฯลฯ ร่วมถ่ายรูปตนเองพร้อมถือป้ายระบุใจความนำเด็กหญิงของเราคืนมา และยังมีอีกหนึ่งคำฮิต Real Men Don't Buy Girls ที่ทั้งแอชตัน คุชเชอร์, จัสติน ทิมเบอร์เลก, เจอร์ราด บัทเลอร์ ฯลฯ ก็เข้าร่วมแคมเปญนี้ด้วย  

          ที่มาของประโยคทั้งสองนี้มาจาก เหตุการณ์กลุ่มกบฏอิสลามโบโก ฮาราม บุกเข้าจับตัวเด็กหญิงจำนวน 276 จากโรงเรียนมัธยมศึกษาแห่งหนึ่งในเมืองจิบอค (Chibok) รัฐบอร์โน ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศไนจีเรีย เมื่อวันที่ 14 เมษายน 2557 ที่ผ่านมา โดยตามรายงานจาก เว็บไซต์มิเรอร์ เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม ระบุว่า โรงเรียนที่ปิดไปเพราะสถานการณ์รุนแรงในพื้นที่ได้กลับมาเปิดอีกครั้ง เพื่อให้นักเรียนได้มาสอบปลายภาค แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น พ่อแม่ของเด็กหญิงทั้งหลายต่างหวั่นเกรงว่าลูกสาวของตนจะถูกนำไปขายเป็นแรงงานเด็ก หรือภรรยาให้ผู้ชาย หลังนายอะบูบาการ์ เชกัว ผู้นำกลุ่มโบโก ฮาราม ซึ่งเป็นอิสลามหัวรุนแรงที่เชื่อว่าผู้หญิงไม่ควรได้รับการศึกษา ได้เอ่ยไว้ว่าจะนำเด็กเหล่านี้ไปขายในราคาคนละ 350 บาท 

          แท็กฮิตดังกล่าวเริ่มต้นขึ้นโดยทนายความชาวไนจีเรีย อิบราฮัม อับดุลลาฮี ที่ได้ทวีตข้อความนี้เมื่อวันที่ 23 เมษายน และกลายเป็นข้อความที่ได้รับการส่งต่อกันไปเรื่อย ๆ จนกลายเป็น ประโยคสำคัญ ในการเรียกร้องให้ผู้นำจากทั่วโลก โดยเฉพาะรัฐบาลไนจีเรีย ให้ความช่วยเหลือเด็กหญิงเหล่านี้โดยเร็วที่สุด ส่วนอีกหนึ่งคำฮิต Real Men Don't Buy Girls เป็นแคมเปญที่เกิดขึ้นก่อนหน้ามาตั้งแต่ปี 2553 โดยมูลนิธิดีเอ็นเอ (DNA Foundation) ที่ก่อตั้งโดยเดมี่ มัวร์ และ แอชตัน คุชเชอร์ เพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ และกลับมาเป็นประโยคฮิตในตอนนี้อีกครั้ง เนื่องจากเข้ากับสถานการณ์ในไนจีเรียได้เป็นอย่างดี 
 
          นอกจากจากนี้ยังมีการร่วมลงชื่อใน เว็บไซต์ change.org เพื่อให้คนทั่วโลกร่วมแสดงจุดยืน เป็นอีกหนึ่งพลังในการกระเพื่อมให้ตระหนักถึงความร้ายแรงของปัญหานี้ ซึ่งต้องได้รับความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน 

          ด้านผู้นำสหรัฐฯ นายบารัค โอบามา แสดงเจตจำนงพร้อมร่วมมือให้ความช่วยเหลือเต็มที่ทันทีเมื่อได้รับการร้องขอ

ขอบคุณข่าวจาก :: http://kapook.com