เกือบจะไม่รับเล่นหนังสั้น ที่สร้างมาจากเรื่องจริงของนักศึกษาจาก 3 ปัตตานีดินแดนของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย สำหรับ เบสท์ ภัทรารวีย์ เบ้าสุวรรณ นักแสดงสาววัย 19 ปีรองอันดับ 2 จากเวทีมิสทีนไทยแลนด์ 2013 ที่รับบทเด่นใน หนังสั้น กลัว The story ด้วยหน้าตาที่มีเชื้อแขกคิวตามคม เหมาะกับคาแรกเตอร์นางเอกจากแดนใต้ในเรื่องจึงทำให้เบสท์สอบผ่านคว้าบทนางเอกจากหนังสั้นเรื่องนี้เป็นครั้งแรกซึ่งเรียกได้ว่าเป็นการฉีกคาแร็กเตอร์บทบาทตัวเองไปอย่างสิ้นเชิง เพราะด้วยบุคลิกและบทบาทที่ผ่านมา ไม่ว่าละคร ครอบครัวตึ๋งหนึด ตึดขั้นเทพ และเรื่อง วุ่นรักพลพรรตั้งตัว เบสท์ได้รับเป็นบทสดใส่น่ารักสไตล์ละครคอมเวดี้ซิทคอม แต่สำหรังหนังสั้นเรื่องกลัว เป็นบทดราม่า ที่นำมา ประวัติชีวิตจริงของเด็กสาวมุสลิมจากปัตตานีซึ่งยังมีชีวิตอยู่ สารีนา หะยีเต๊ะ
โดย เบสท์ ภัทรารวีย์ เปิดใจว่า "ตอนแรกหลังจากที่อ่านพล็อตซึ่งเป็นเรื่องจริงสะท้อนชีวิตของนักเรียนคนหนึ่งที่ซุกซ่อนความกลัวไว้ในใจตลอดเวลา จนกระทั้งเรียนถึงระดับมหาวิทยาลัย เบสท์ได้ตอบรับเล่นเลย เพราะชอบในตัวบท แต่รู้สึกว่า บทสารีนาค่อนข้างจะแตกต่างจากตัวจริงของเบสท์มาก เพราะตัวจริงของเบสท์เป็นคนพูดจาฉะฉาน พูดเร็ว เป็นคนที่มีความมั่นใจกล้าแสดงออก แต่สารีนาในเรื่อง เป็นคนที่เก็บซ่อนความรู้สึกกลัวไว้ลึกๆทำให้เขาแอบกังวัลกับการดำเนินชีวิตหลายๆอย่าง ทั้งเรื่องรอบข้าง และแม้กระทั่งสังคมเพื่อนใหม่ที่มหาวิทยาลัย ที่เขาต้องเจอซึ่งเบสท์ต้องเข้าให้ถึงต้องถ่ายทอดออกมา ต้องทำการบ้านและทำความเข้าใจศึกษากับตัวละครที่เราจะเล่นพอสมควร"
อย่างไรก็ตาม เบสท์ ยังมีความวิตกกังวลอย่างมากเมื่อรู้ว่าจะต้องไปถ่ายทำที่สถานที่จริง จ.ปัตตานี ถึงกับต้องนอนคิดใหม่ 1 คืน "เบสท์ต้องเล่นเป็นเด็กสาวมุสลิม มาจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และพอรู้ต้องไปถ่ายที่ปัตตานี พูดถึงปัตตานีเอาจริงๆ เบสท์ก็ยังรู้สึกหวั่นกลัวในความไม่ปลอดภัยอยู่ คิดหนักมากเพราะคุณแม่เขาห่วงวิตกกลัวยิ่งกว่าเบสท์อีก แต่หลังศึกษาข้อมูลดีแล้วและจากที่เบสท์อ่านบท เบสท์เลยตัดสินใจรับเล่นไปถ่ายทำปัตตานีก็โอเคต้องไป คือต้องก้าวผ่านความกลัวให้ได้ เบสท์เลยรู้เลย ทำไมหนังสั้นเรื่องนี้ถึงชื่อ กลัว เพราะมันแอบกลัวจริงๆแหละค่ะโดยเฉพาะการไปถ่ายที่ปัตตานียิ่งคุณแม่เป็นกังวลมากกว่า เพราะห่วงเบสท์เพราะลูกสาวคนเดียวด้วย ขอตามไปด้วย แม่วิตกขนาดเขียนพินัยกรรมทิ้งไว้เลยว่าเกิดไรขึ้นมาจะยกทรัพย์สินให้ใครยังไงบ้าง"
แต่หลังจากที่มีโอกาส ได้ไปถ่ายทำ และสัมผัสชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนและบ้านเมืองที่ปัตตานี น้องเบสท์ บอกว่าต้องเปลี่ยนความคิดใหม่ "หลังจากที่เบสท์ได้เล่นไปถ่ายทำ ไปสัมผัสชีวิตความเป็นอยู่ทีปัตตานีแล้วกลับต้องเปลี่ยนความคิดใหม่เพราะว่ามันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่เราคิดเลย แถมมีธรรมชาติที่สวยงามมาก ท้องทะเลฟ้าใสมากอย่างที่หาดตาโล๊ะกาโปร์ หาดทรายสวยยังมีวิธีชีวิตแบบธรรมชาติของชาวเล แล้วมีความสวยงามของมัสยิดกลางในตัวเมือง และสะพานปลาที่สะพานเฉลิมพระเกียรติแม่น้ำปัตตานีที่เบสท์ไปถ่ายสวยมากที่ยืนบนสะพานแล้วมีเรือแล่นออกไปสวยคลาสสิกมาก หลายอย่างที่เบสท์เห็นแล้วชอบประทับใจมากในการที่ได้ถ่ายทำหนังสั้นเรื่องนี้ ทั้งมิตรภาพของเพื่อนๆพี่ๆจากคณะสาธารณสุขมหาวิทยาลัยเฉลิมกาญจนา ที่ช่วยดูแลเบสท์อย่างเวลาเราใส่ผ้าคลุมฮียาบแล้วมันหลุดมองเห็นเส้นผมเพราะมุสลิมจะให้เส้นผมหลุดออกมาไม่เรียบร้อยไม่ได้ซึ่งบางทีเราก็ไม่ได้รู้ระวังมาก พี่ๆ เขาก็มาช่วยจัดให้ตลอด สอนเรื่องการละหมาดให้เบสท์ช่วยแนะนำดูแลเบสท์ดีมากรู้สึกประทับใจมากค่ะ"
อย่างไรก็ตาม เบสท์ เล่าว่าชีวิต ความเป็นของของเด็กปัตตานี หลังจากที่ได้พูดคุยแลกเปลี่ยนกัน ทำให้เบสท์เข้าใจอะไรมากขึ้น "เบสท์ก็ถามเพื่อนที่ปัตตานีที่เล่นด้วยกันว่าเคยเจอระเบิดไหม เขาบอกว่าเคยเจอบางทีขับมอร์เตอร์ไซด์ มีระเบิดห่างจากเขาแค่ 50 เมตรเองแต่เขาก็ต้องรีบขับรถผ่านเลย ซึ่งเขาอาจจะชินและเข้าใจชีวิตที่เป็นแบบนั้นเหมือนกับในหนังสั้นที่เบสท์ต้องถ่ายทอดออกมาให้ได้ซึ่งหนังเรื่องนี้ได้ให้อะไรดีๆกับเบสท์เยอะอย่างน้อยเบสท์ก็รู้ว่าปัตตานีไม่ได้มีแต่ความน่ากลัวอย่างเดียว ยังมีความสวยงามซุกซ่อนอยู่ เพียงแต่ว่าข่าวที่มีออกมา มีแต่นำเสนอความรุนแรง ในมุมความสงบสวยงามไม่ค่อยได้นำเสนอ ซึ่งในหนังสั้นเรื่อง กลัว ก็พยายามสอดแทรก นำเสนอสถานที่สำคัญและสวยงามของปัตตานีออกมาให้เห็นอีกมุมหนึ่ง"
หนังสั้นเรื่องกลัว แม้จะนำเสนอเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับศาสนา ปัญหาความรุนแรงของดินแดนภาคใต้ที่เกิดขึ้น แต่ก็ไม่ลงไปในรานละเอียดถึงขนาดที่ทำให้ต้องโดนแบน แต่สาเหตที่มีการเลื่อนฉายนั้นเพราะอาจมีการขยายโอกาสให้คนได้ดูผ่านทางทีวี
"ตอนแรกทีมงานตั้งใจว่าจะทำ หนังสั้น กลัว The story เผยแพร่แค่ในยูทูปให้คนทั่วไปได้ดูกัน แต่หลังจากที่ปล่อยตัวอย่างออกมา และมิวสิคเพลง แง้มหัวใจที่ได้ พี่เกรซ กาญจน์เกล้า ด้วยเศียรเกล้า มาร้อง ซึ่งถ่ายทอดออกมาได้ไพเราะกินใจมากทั้งเนื้อหาเพลง เพราะได้ อาจายร์วสุ ห้าวหาญ มาเขียนเนื้อที่สะท้อนออกมาจากตัวเนื้อหาของหนังสั้นกลัวจริงๆเลยเป็นอะไรที่ลงตัว เบสทชอบและประทับใจมาก และหลายคนที่ได้ดูก็บอกแนะนำว่า น่าจะให้หนังเรื่องนี้ได้ฉายทางทีวีเป็นทางเลือกอีกอย่างหนึ่งให้คนดูบ้าง ทางทีมงานเลยเสนอเรื่องไปที่ทีวีช่องหนึ่งเพื่อเผยแพร่ จึงมีการเลื่อนฉายจากยูทูปออกไปก่อน แต่ตัวหนัง ความยาว 30 นาทีตัดต่อเสร็จเรียบร้อง ซึ่งเบสท์ได้ดูเบื้องต้นแล้วก็ชอบมาก หวังว่าคนดูก็จะชอบเหมือนกับที่เบสท์ได้ดู"
หลังจากที่ ดูหนังสั้นเรื่องนี้ อยากให้คนดูได้คิดเห็นอะไรบ้าง น้องเบสท์เผยว่า อยากให้ทุกคน ไม่ว่า ไทยพุทธ-มุสลิม เปิดใจและไม่มีกำแพงต่อกัน สร้างมิตรภาพที่ดีต่อกัน เพราะอย่างไรก็เป็นคนไทยเหมือนกัน "อยากให้ไทยพุทธ หรือมุสลิมแม้เราจะต่างศาสนาก็อยากให้ให้ทุกคนเปิดใจเข้าหากัน ไม่มีกำแพงความหวาดระแวง ยืนมิตรภาพและไมตรีที่ดีต่อกัน ปัญหา 3 ชายแดนภาคใต้ที่เป็นอยู่ก็คงจะดีขึ้นบ้าง ลึกๆก็อยากให้อยู่ร่วมกันได้อย่างสันติสุข เพราะอย่างไรเราก็เป็นคนไทยเหมือนกัน ยังไงเบสท์ก็ฝากติดตามหนังสั้นเรื่องกลัวของเบสท์ด้วยนะคะ อยากให้ทุกคนได้ดู เพราะหนังเรื่องนี้เป็นเป็นการเล่าอีกมุมหนึ่งของเด็กจาก 3 ชายแดนภาคใต้ซึ่งเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นจริง อยากให้ติดตามชมค่ะ"
สำหรับหนังสั้นเรื่องกลัว ดำเนินการสร้างโดย บริษัท นิวทัชเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ กำกับการแสดงโดย วรัญญ์ภัสร์ พิมพ์ทองและ ตุล บุญนวล สามารถติดตามได้ที่ https://www.facebook.com/afraidthestory/
ที่มา siamdara.com