สวัสดีครับเพื่อนๆ ชาวหนังดีดอทคอม ช่วงนี้อากาศหนาวเริ่มมาแล้วนะครับ (รึเปล่า) แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้หลายจังหวัดอาจร้อนระอุเป็นหย่อมๆ จะเลือกอยู่ข้างใคร รักสีไหน ไม่เป็นใจ แค่ภักดีต่อในหลวง คิดดี ทำดี ต่อประเทศชาติ เป็นพอ ยึดหลักทำดีได้ดี ทำชั่วก็ต้องได้รับกรรม จริงมั๊ยครับ
วันนี้เรามาพูดถึงหนังฟอร์มยักษ์ของเดอืนนี้กันดีกว่า ที่ไม่พูดถึงไม่ได้แล้ว กับภาพยนตร์เรื่อง Thor: The Dark World - เทพเจ้าสายฟ้าโลกาทมิฬ ที่จะเข้าฉายวันที่ 7 พฤศจิกายนนี้ ในโรงภาพยนตร์เท่านั้น หลายคนคงติดใจบทบู๊ ความมันส์ในการต่อสู้ แต่วันนี้ ผนจะมาเสนอเกร็ดน่ารู้เล็กๆ น้อยๆ เพื่อให้ได้ทราบกัน ก่อนที่จะชมภาพยนตร์เรื่องนี้กันดีกว่าครับ
** ใน “Thor: The Dark World” มีการพูดถึงดินแดนต่างๆ อีกเก้าแห่ง เพื่อให้เราได้เข้าใจถึงประวัติศาสตร์และความซับซ้อนในจักรวาลของธอร์ได้ดียิ่งขึ้น ดินแดนทั้งเก้านั้นถูกนำมาจากเทพปกรณัมนอร์สและอ้างถึงโลกทั้งเก้าที่ได้รับการค้ำจุนจาก อิกดราซิล ต้นแอชขนาดมหึมา ซึ่งเป็นศูนย์กลางของจักรวาลนอร์ส แอสการ์ดถูกพูดถึงว่าอยู่บนสุด และโลก หรือมิดการ์ด จะอยู่ตรงกลาง ใน "Thor" ภาคแรก อิกดราซิลถูกพูดถึงว่าเป็นโครงสร้างที่ถูกสร้างขึ้นจากรูหนอน ที่เชื่อมโยงโลก (ดินแดน) ทั้งเก้าเข้าไว้ด้วยกัน
** ดินแดนทั้งเก้านั้นถูกนำมาจากเทพปกรณัมนอร์สและอ้างถึงโลกทั้งเก้าที่ได้รับการค้ำจุนจาก อิกดราซิล ต้นแอชขนาดมหึมา ซึ่งเป็นศูนย์กลางของจักรวาลนอร์ส แอสการ์ดถูกพูดถึงว่าอยู่บนสุด และโลก หรือมิดการ์ด จะอยู่ตรงกลาง ดินแดนทั้งเก้าคือ: แอสการ์ด – ดินแดนของเหล่าทวยเทพ , วานาเฮม – ดินแดนของวาเนียร์ เผ่าพันธุ์พี่น้องกับแอสการ์ด , อัลฟ์เฮม – ดินแดนของไลท์เอลฟ์ , นีดาเวลเลียร์ – ดินแดนของคนแคระ , มิดการ์ด – โลก , โจทันเฮม – ดินแดนของยักษ์น้ำแข็ง , สวาร์ทัลฟ์เฮม – ดินแดนของดาร์คเอลฟ์ , นิลฟ์เฮม – ดินแดนของผู้ล่วงลับ , มัสเปลเฮม – ดินแดนของปีศาจไฟและเซิร์ท
** ฉากเมดินา/ท้องถนนของดินแดนแอสการ์ดเป็นฉากที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีการสร้างขึ้นสำหรับภาพยนตร์มาร์เวล เราสามารถเดินตามท้องถนนของดินแดนแอสการ์ดและเห็นร้านค้า ผับและสนามฝึกได้
** ทีมงานกล้องจากอากาศบินไปน้ำตกเด็ตติฟอสในไอซ์แลนด์ (น้ำตกที่มีความแรงที่สุดในยุโรป) เพื่อถ่ายทำภาพน้ำที่ไหลลงมาจากทุกมุม เพื่อที่จะสามารถเรนเดอร์ภาพน้ำตกที่โอบล้อมแอสการ์ดได้อย่างสมจริง โดยให้คอมพิวเตอร์จำลองโลกใบนั้นขึ้นมา
** การถ่ายทำในไอซ์แลนด์รวมถึงโลเกชันห่างไกล ที่ทีมงานจะต้องขับรถจากสนามบินนานหลายชั่วโมงกว่าจะถึงโรงแรมที่พัก จากนั้น เพื่อให้ได้ฉากของทุ่งขี้เถ้าภูเขาไฟ ที่ถูกใช้แทนเดอะ ดาร์ค เวิลด์ พวกเขาก็ต้องขับรถออกไปอีกสองชั่วโมง
** หากมองใกล้ๆ ไปที่ของประดับตกแต่งฉากอพาร์ทเมนต์ที่ลอนดอนของเจน ฟอสเตอร์ เราจะเห็นโน้ตดนตรีบนเปียโนที่เขียนว่า “ธอร์ เทพเจ้าสายฟ้า”
** ภาพของเจน ฟอสเตอร์ตอนเด็กๆ ในฉากอพาร์ทเมนต์ได้มาจากแม่ของนาตาลี พอร์ตแมน ผู้เก็บรวบรวมแฟ้มที่เต็มไปด้วยภาพของนาตาลีในวัยต่างๆ สำหรับโอกาสแบบนี้
** มีการสร้างค้อนที่มีน้ำหนักหลากหลายขึ้นมา 30 อันเพื่อให้ธอร์ใช้ในวัตถุประสงค์ต่างๆ กัน ค้อนหลักจะสร้างขึ้นจากอลูมิเนียม แต่มันก็จะถูกจำลองออกมาด้วยวัตถุดิบและน้ำหนักที่แตกต่างกัน ซึ่งรวมถึง เวอร์ชันสตันท์ “นุ่มๆ” ด้วย
** แบบดีไซน์ของโยเนียร์ ค้อนของธอร์ ถูกเปลี่ยนแปลงจากเวอร์ชันที่ธอร์ถือใน “Marvel’s The Avengers” โดยค้อนอันใหม่จะให้ความรู้สึกของประวัติศาสตร์เก่าแก่มากกว่า และด้ามจับก็จะใกล้เคียงกับค้อนที่ธอร์ใช้ใน “Thor” มากกว่า
** ถ้อยคำที่สลักบนค้อนของธอร์ ซึ่งเป็นอัขระนอร์ส แปลได้ความว่า “ใครก็ตามที่ถือครองค้อนนี้ หากเขาผู้นั้นคู่ควร จะได้ครองพลังแห่งธอร์”
** แบร์รี กิ๊บส์ หัวหน้าฝ่ายอุปกรณ์ประกอบฉากและทีมงานช่างเทคนิค 18 ชีวิตของเขาได้ออกแบบ/สร้างอาวุธ 140 ชิ้นขึ้นภายใน 10 สัปดาห์ แล้วก็ต้องสร้างอาวุธแต่ละแบบขึ้นมาอีกสี่ชิ้น เพื่อให้ผู้รุกรานได้มีอาวุธใช้ทั้งหมด 516 ชิ้นในฉากสงคราม ซึ่งหลังจากนั้น เขาก็ต้องไปทำอาวุธหลักให้กับทั้งธอร์, โอดิน, โวลสแต็กก์, เฮมดัลล์, ซิฟ และ ฯลฯ อีก
** ธอร์และโอดินต่างก็มีชุดอยู่แบบเดียว แต่ธอร์ก็ต้องใช้ชุดทั้งหมด 15 ชุดเพราะเขาแสดงฉากแอ็กชันและสตันท์มากมายหลายฉาก
** เดวิด ไวท์ ผู้ออกแบบดาร์คเอลฟ์และเอฟเฟ็กต์ชิ้นส่วนเทียมใน “Thor: The Dark World” ได้ออกแบบและสร้างชุด 40 ชุดให้กับดาร์คเอลฟ์ โดยอาศัยช่างเทคนิค 100 ชีวิตตลอดระยะเวลากว่า 3 เดือน ลุคที่แปลกประหลาดของพวกเขาได้มจากชาติพันธุ์ที่หลากหลายและองค์ประกอบจากชนเผ่าต่างๆ
** ทีมสตันท์และตัวประกอบที่รับบทดาร์คเอลฟ์จะต้องผ่านช่วงเวลาฝึกที่พวกเขาจะต้องฝึกยืนตัวตรงอย่างสง่าผ่าเผยเพราะพวกดาร์คเอลฟ์ถูกวาดภาพเอาไว้ว่าจะต้องเป็นเผ่าพันธุ์ที่ทรงเกียรติ เดวิด ไวท์ ผู้ออกแบบชิ้นส่วนเทียม ได้มีส่วนช่วยด้วยการออกแบบหมวกเกราะเพื่อที่จะได้มีการดึงระดับสายตาลงเล็กน้อย ทำให้นักแสดงจะต้องเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ซึ่งก็ทำให้พวกเขาให้ความรู้สึกของความหยิ่งทะนง และแข็งแกร่ง
** ทั้งคริสโตเฟอร์ เอคเคิลสตันและอเดวาลเล แอคคินอย-อัคบาเจ ผู้รับบทดาร์คเอลฟ์ มาเลคิธและอัลกริม ตามลำดับ ต้องจดจำบทพูดของพวกเขาที่เขียนเป็นภาษาเอลฟ์ ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อภาพยนตร์เรื่องนี้โดยเฉพาะ
** ภาพยนตร์เรื่องนี้ถ่ายทำระหว่างเดือนตุลาคมและเดือนธันวาคม ปี 2012 ที่เชพเพอร์ตัน สตูดิโอส์ในประเทศอังกฤษ โดยมีโลเกชันหลักอยู่ในลอนดอน ทั้งกรีนนิช, เวมบ์ลีย์, วิหารเซนต์ปอล, ตลาดโบโรห์และเฮย์ส รวมถึงป่าบอร์นในเซอร์รีย์และสโตนเฮนจ์ในวิทช์ไชร์ สำหรับลุคของ สวาร์ทาล์ฟเฮม โลกของดาร์คเอลฟ์ ทีมผู้สร้างได้เลือกใช้ไอซ์แลนด์เนื่องด้วยภูมิประเทศแบบภูเขาไฟที่ดำทะมึนของมัน
** ก่อนหน้าที่จะส่งเฮลิคอปเตอร์ไปถ่ายทำกรีนนิชที่เก่าแก่ ในประเทศอังกฤษ ในเช้าวันอาทิตย์ที่เงียบสงบ ทีมงานฝ่ายโลเกชันได้หย่อนจดหมาย 4,000 ฉบับลงในบริเวณดังกล่าว โดย 2,000 ฉบับถูกหย่อนลงที่ฟากหนึ่งของแม่น้ำ และอีก 2,000 ฉบับที่อีกฟากหนึ่งของแม่น้ำ เพื่ออธิบายให้ชาวบ้านเข้าใจถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น
** การถ่ายทำที่สโตนเฮนจ์ สถานที่โด่งดังทางประวัติศาสตร์ กลายเป็นเรื่องท้าทาย หลังจากได้รับอนุญาตจากอิงลิช แฮริเทจ ในท้ายที่สุด ทีมผู้สร้างก็พบว่าการถ่ายทำที่นั่นต้องมีกฎ ข้อบังคับมากมาย พวกเขาจะไปอยู่ใจกลางของเสาหินได้นอกเวลาท่องเที่ยวตามปกติเท่านั้น ดังนั้น การถ่ายทำก็จะต้องเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เช้าก่อนหน้าที่เจ้าหน้าที่จะเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยว ซึ่งทำให้ทีมงานมีเวลาเพียงสามชั่วโมงก่อนที่พวกเขาจะต้องถอยห่างเพื่อถ่ายทำช็อตในมุมกว้าง เมื่อสถานที่แห่งนี้เปิดกว้างต้อนรับผู้มาเยือน ด้วยความที่มันเป็นสถานที่อนุรักษ์ ก็เลยไม่มีใครได้รับอนุญาตให้แตะต้องหินหรือเดินบนหินเหล่านั้น ดังนั้น จะต้องมีการใช้เรื่องของโลจิสติกมากมายเข้ามาช่วยในการถ่ายทำที่นั่น
“Thor: The Dark World - ธอร์ เทพเจ้าสายฟ้าโลกาทมิฬ” สานต่อเรื่องราวการผจญภัยบนจอใหญ่ของธอร์ อเวนเจอร์ผู้ยิ่งใหญ่ ผู้ที่ต่อสู้เพื่อปกป้องโลกและดินแดนทั้ง 9 จากศัตรูลึกลับที่หมายจะครอบครองจักรวาล ในการต่อสู้จาก “ธอร์ ภาค 1” และ “มาร์เวลส์ ดิ อเวนเจอร์ส” ธอร์ ต่อสู้เพื่อนำความสงบกลับมาสู่จักรวาล...แต่ชนเผ่าโบราณที่นำโดย มาเลคิธ ผู้เคียดแค้น ได้กลับมาเพื่อทำให้จักรวาลกลับเข้าสู่ความมืดมิดอีกครั้ง การเผชิญหน้ากับศัตรูที่แม้แต่ โอดิน และ แอสการ์ด ไม่สามารถรับมือได้ ธอร์ต้องมุ่งหน้าสู่การเดินทางที่เต็มไปด้วยอันตรายและเป็นส่วนตัว เมื่อการเดินทางครั้งนี้ได้นำเขากลับมาพบกับเจน ฟอสเตอร์ และบังคับให้เขาต้องเสียสละทุกสิ่งอย่างเพื่อปกป้องพวกเราทั้งหมด
นำแสดงโดย คริส เฮมส์เวิร์ธ, นาตาลี พอร์ตแมน, ทอม ฮิดเดิลสตัน, สเตลแลน แซกการ์ด, ไอดริส เอลบา, คริสโตเฟอร์ เอคเคิลสตัน, อเดวาลเล แอคคินอย-อัคบาเจ, แคท เดนนิงส์, เรย์ สตีเวนสัน, แซคคารี ลีวาย, อาซาโน ทาดาโนบุ, เจมี่ เอล็กซานเดอร์ ร่วมด้วยเรนเน่ รุสโซ และแอนโธนี ฮอปกินส์ ในบท โอดิน “ธอร์ เทพเจ้าสายฟ้าโลกาทมิฬ” กำกับโดย อลัน เทย์เลอร์ อำนวยการสร้างโดย เควิน ไฟกี บทภาพยนตร์โดย คริสโตเฟอร์ โยสท์ และ คริสโตเฟอร์ มาคัส กับ สตีเฟ่น แมคฟีลีย์ และสร้างจากซูเปอร์ฮี่โร่สุดคลาสสิคจากมาร์เวล “ธอร์” ที่ปรากฎตัวครั้งแรกในหนังสือการ์ตูน “เจอร์นีย์ อินทู มิสทรีย์” เล่มที่ 83 ในเดือนสิงหาคม ปี 1962
“Thor: The Dark World - ธอร์ เทพเจ้าสายฟ้าโลกาทมิฬ” สร้างโดย มาร์เวล สตูดิโอส์ อำนวยการสร้างบริหารโดย หลุยส์ เดอเอสโพซิโต้, อลัน ไฟน์, แสตน ลี, วิคตอเรีย อลอนโซ, เครก ไคล์, และ ไนเจล กอสเทโลว์ จัดจำหน่ายโดย วอลท์ ดิสนีย์ สตูดิโอส์ โมชั่น พิคเจอร์ส
Thor: The Dark World - เทพเจ้าสายฟ้าโลกาทมิฬ
เทพเจ้าสายฟ้าจะกลับมา
7 พฤศจิกายน 2556