"บ้าน ฆนัท โรจนัย" ดารา-นักแสดงหนุ่มน้องใหม่ สังกัดโพลีพลัส มีชื่อเล่นน่าจะคนเดียวในโลก ที่ชื่อว่า "บ้าน" สร้างชื่อจากละครเรื่องเสน่หาสัญญาแค้น ที่แค่ปรากฎกายก็เข้าไปอยู่ในหัวใจของสาวๆ ทั้งประเทศ ด้วยหน้าตา ตี๋ น่ารัก บวกฝีมือการแสดงด้วยแล้ว และจากประสบการณ์ในการทำงานวงการบันเทิงมาทั้งงานละคร, งานโฆษณา, ถ่ายแบบ, เดินแบบ ก็ทำให้เขาคนนี้เข้าตา ผู้กำกับ จนก้าวเข้าสู่วงการภาพยนตร์กับบทพระเอกหนังเรื่องแรกในชีวิต "367 Him&Her"

ถามถึงการเป็นพระเอกหนังเรื่องแรกมีที่มาที่ไปยังไงครับ ถึงได้มาร่วมงานครั้งนี้?  

"ตอนแรกเลยนะครับ ผมเองรับงานพรีเซนเตอร์ของโค้กอยู่ ที่นี้พี่ไวท์ผู้กำกับเค้าเกิดมาเห็นเข้า เค้าก็เลยชอบทีมงานก็เลยติดต่อมาที่พี่ๆที่ดูแลบ้านครับผม พอได้พูดคุยกันกับสังกัดและให้บทเราลองมาอ่านดู พี่เค้าก็ถามเราว่าสนใจไหม อยากเล่นไหมอะไรประมาณนี้ครับ พอผมอ่านบทผมก็ชอบ ก็เลยบอกไปว่าบทน่ารักมากเลยพี่ แล้วตอนหลังก็เลยบอกโอเค และรับตกลงเล่นหนังเรื่องนี้ครับ"

เราต้องเตรียมตัวยังไงบ้าง หลังจากตกลงรับบท แล้วก็ได้อ่านบทเรียบร้อย?   

"ทำความเข้าใจกับ บทที่ผมได้รับ คาแร็คเตอร์ ตัวละคร หาเหตุผลว่าทำไมเค้าเป็นแบบนี้ จนให้เข้าใจ และรู้จักให้มากที่สุด  เหมือนเพื่อน เหมือนคนสนิท  แล้วพอบ้านได้อ่านบทปุ๊บ ก็รู้เลยว่ามันต้องมี ฉากร้องไห้ มีดราม่าเต็มไปหมดเลยครับ ทุกๆช่วง อุ้ย!!!!  เราไม่เคยเล่นละทำยังไง ไม่เคยได้ร้อง หรือเสียใจมากมายขนาดนั้น พอดีพี่ๆ เค้าก็มีเวลาให้เราได้ไปเข้าคลาส เพื่อเรียนแอคติ้งเพิ่ม  และก็ให้ครูเค้าแนะนำ  ว่าทำยังไง  อะไร  ยังไง กับบท กับฉากที่ต้องแสดงครับ"

ตอนแรกที่เรากังวลที่สุดเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้คือ?  

"น่าจะเป็นพวกฉากที่ต้องร้องไห้ หรือฉากดราม่าอะไรพวกนี้ครับ  เพราะตอนแรกผมรู้สึกว่าผมยังเล่นบทดราม่าได้ไม่ดีอะไรขนาดนั้น   แต่พอเข้าฉากจริงๆก็มีแอคติ้งโค้ชคอยช่วยอยู่ด้วย พี่ไวท์ ผู้กำกับ เพื่อนๆนักแสดง ที่เข้าฉาก รับ_ส่ง บทกัน  มันก็รู้สึกโล่งอกสบายใจขึ้นอะไรแบบนี้ ครับ  และก็ทำได้ ดีขึ้นเรื่อยๆ  ตอนแรกกลัวร้องไห้ไม่ได้   แต่พอผ่านฉากนั้นมาเริ่มร้องไห้เป็น และเข้าถึงอารมณ์ของตัวละครเราละครับ"  

คาแรคเตอร์ของบ้าน ในเรื่อง "367 Him&Her" เป็นคนยังไง?

เฮด  เป็นคนร่าเริงสดใสครับ  ขี้เล่น  สนุกสนาน ไม่เจ้าชู้รักเดียวใจเดียวเลย  แล้วก็เป็นคนเชื่อมั่นในเรื่องความรักครับ บอกเรื่องราวคราวๆนะครับ  เล่าเรื่องในวัยเด็กว่าเป็นยังไงมีแฟนอะไรยังไงก็เริ่มเรื่องว่า...มีแฟนแล้วมีเหตุทำให้ต้องเลิกกัน  เพราะนางเอกนั้นไปต่างประเทศแต่เราต้องอยู่ที่นี่ เค้าก็เลยต้องบอกเลิกเราพอเสร็จแล้วหลังจากเลิกกัน  ด้วยความที่เราเองก็ยังรักนางเอกอยู่ทำทุกอย่างเก็บโน้นนี่ทุกอย่างที่เกี่ยวกับนางเอกชอบ ยังรักไม่คลาย แต่อยู่มาวันหนึ่งเพื่อนเอาเบอร์มาให้ก็เหมือนแบบว่าสัญญาณไม่ค่อยดีนางเอกอยู่ต่างประเทศด้วยก็เหมือนคุยๆกันเสียงขาดหายบ้างว่ากันไป  ในมุมเราๆ เข้าใจไปว่าอยู่ดีๆ เค้าตัดสายทิ้งเราก็คิดแบบว่านางเอกไม่ได้รักเราแล้วแน่เลยก็เลยตัดใจทิ้ง แต่ความเป็นจริงเนี่ยคือเค้าโดนรถชนเลย เสียงหรือสัญญาณเลยหายครับ ก็เป็นเนื้อเรื่องแบบคร่าวๆ ครับ"  

ในพาร์ทเรื่องของเรามันมีอะไรที่ยากบ้าง?  

"ไม่มีอะไรที่ยาก หรือยากจนทำไม่ได้นะครับ เพราะจริงๆแล้ว ผมก็พยายามเอาความขี้เล่นของตัวเองเข้ามาช่วยครับ ผมยิ้มง่าย ตั้งใจ สนใจ คือบางฉากต้องมีแซวมีโน้นนี่ตอนสมัยอยู่กับกลุ่มเพื่อนวัยเด็ก ก็มีบ้าง คือต้องสนิทสนมกัน คุ้นเคยกันสุดๆ คือเราต้องแสดงออกมาให้ได้ครับ"

เป็นหนังเรื่องแรกเรากังวลเรื่องอะไรมากที่สุดครับ?  

"กังวลอะไรไหม เหรอครับ  ทุกๆ อย่างเลยพี่ หนังเรื่องนี้เป็นหนังเรื่องแรกของเราด้วย   ไม่ว่าจะเป็นการแอคติ้ง   ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทุกๆอย่างเพราะว่ามันเป็นหนังเรื่องแรก  บ้านอยากให้มันออกมาดีที่สุดครับ  เพราะมันเป็นผลงาน ที่มันก็จะคงอยู่กับเราไปอีกนานเลยครับผม"

มันยาก  มันต่างจาก ละคร ยังไงบ้างครับ?  

ละครมันมี3กล้อง มันถ่ายอะไรอย่างนี้เร็วมาก เก็บมุมโน้นเก็บมุมนี้ แต่ในหนังเก็บทุกเม็ดพี่ไม่ว่าจะเป็นภาพไกลภาพกลางภาพใกล้ มีกล้องเดียว  พอมาใกล้ปุ๊บเนี่ย ในโรงภาพยนตร์จอมันใหญ่มันก็เห็นหน้าเรา อารมณ์ การเล่น การแสดงที่ชัดๆเลย ยิ่งถ้าเราส่งอารมณ์ในฉากนั้นๆ ไม่ถึง คนก็ดูรู้เลย อ้าว นี่ไม่มีอารมณ์ นิ่งแข็งจังครับ อะไรทำนองนี้" 

เข้าฉากแรกดราม่า  เราบิ้วอารมณ์ยังไงครับ?  

"มันก็ร้องไห้แบบเศร้าๆอะไรอย่างนี้  ก็เหมือนแบบว่าแอคติ้งโค้ชเค้าก็มาบิ้วเรา พี่ผู้กำกับเล่า อธิบาย อะไรอย่างนี้ ตอนแรกๆเราก็คิดว่าไม่ได้ผลแน่ๆเลย แต่พอบิ้วๆ แล้วหลังๆ ก็พยายามแล้วผมก็เริ่มมีสมาธิมันก็ทำออกมาได้ครับ"  

ยกตัวอย่างฉากให้พี่ฟังหน่อยครับ ฉากแรกก็ได้หรือว่าฉากไหนที่เราคิดว่ามันยากที่สุด ?  

ฉากที่คิดว่ายากที่สุดแต่กลับกลายเป็นแบบว่าฉากที่ง่ายที่สุดเลยครับ   มันมีฉากที่ต้องวิ่งไปหานางเอกที่สนามบินนางเอกขึ้นเครื่องไปแล้ว ทีนี้บ้านต้องร้องไห้ร้องโฮ่ ฟูมฟายเลย   ตอนแรกเราก็คิดแย่ละร้องไห้ไม่ออกแน่ๆ เลย ต้องร้องหนักด้วย เพราะตอนแรกๆมันก็แบบเศร้าๆน้ำตาไหล มันก็ได้  แต่ถ้าเกิดต้องร้องไห้แบบหมดลุกส์หรือฟูมฟายอะไรแบบนี้ไม่ไหวแน่ๆ  เลย ปรากฏพอถ่ายฉากนั้นปุ๊บร้องได้เลย จากฉากที่เราคิดว่ายากกลับกลายเป็นฉากที่เกือบจะง่ายที่สุดในเรื่องเลยครับ  ด้วยอารมณ์ ด้วยที่เราให้ใจไปกับบทฉากนั้นแล้ว คงเป็นเพราะเราคิดว่าเพราะอะไรถึงฉากตรงนั้นแล้วทำให้เราต้อง เสียใจ ต้องร้องออกมา แล้วพี่แอ้คติ้งโค้ช ครูเค้าก็ตะโกนบอกกับบ้านว่า คิดยังไงเล่นออกมาอย่างนั้นเลย เล่นเลย เอามันออกมา ร้องออกมา  อย่ากังวลให้ตัดเรื่องกังวลออกไป  มันก็ร้องๆออกมาเลย  ผมว่าถ้ากังวลเราจะเล่นไม่ได้ทันที  ก็เลยคิดโน้นคิดนี้ คนโน้นแนะนำคนนี้แนะนำ เอาล่ะต้องทำให้ได้"       

แสดงว่าฉากตรงนั้นเราก็ต้องมีความประทับใจเล็กน้อยที่เค้าตั้งไว้ก็ทำได้ ?  

"มันคือ ที่สุดแล้วครับ มันทำได้ ทำได้อย่างที่เราตั้งใจ"

พูดถึงฉากกุ๊กกิ๊กบ้างคุยกับจูน จูนบอกว่ามีฉากกุ๊กกิ๊กแบบปากชนปากเหมือนกันใช่ไหมครับ?  

"ก็มีครับ ก็เหมือนกับว่าที่มาที่ไปก็เป็นแฟนกันอยู่แล้วอะไรอย่างนี้ มารู้ว่าเหลือเวลาอีกไม่กี่เดือนนางเอกต้องไปมันก็เลยกุ๊กกิ๊กกันนิดหนึ่งอะไรอย่างนี้ครับผม"

มันเป็นฉากประมาณไหนครับ เล่าให้ฟังหน่อย ?

"ก็เป็นแบบกุ๊กกิ๊กอ่ะพี่ ปากชนปากอะไรก็ว่าไป"

มันเป็นจังหวะหรือว่าตั้งใจหรือว่ายังไง? 

"มันไม่ได้เป็นจังหวะก็เหมือนกับจงใจอะไรแบบนี้ด้วยครับ คือด้วยฟิลของเรื่อง จ้องตา รู้สึก สถานการณ์  แบบทั้งคู่ต่าง ก็รู้สึกเหมือนกัน รู้สึกดี อะไรอย่างนี้ครับ"

ไปถ่ายที่เชียงใหม่เชียงรายเป็นไงบ้างเข้ากับบรรยากาศกุ๊กกิ๊กได้ดีไหม?

"ผมว่าวิวอะไรอย่างนี้สวยดีมากเลยครับ เสียดายเวลา9-10โมงแล้วอากาศร้อนทันที  มันค่อนข้างยากสำหรับผมเพราะว่าผมเป็นคนแบบเหงื่อแตกง่าย เหงื่อเยอะมากๆ อะไรแบบนี้  พี่ๆเค้าต้องซับเหงื่อบ่อยครับ"  

มันทำให้เราถ่ายฉากกุ๊กกิ๊กยากไหมด้วยอากาศที่นั่นสภาพแวดล้อม?  

"ผมว่าสภาพแวดล้อมก็มีส่วนที่ทำให้ฉากบางฉากออกมายากนะ มันจะมีฉากหนึ่งที่ต้องปรับและมาเก็บที่กรุงเทพนะ แบบว่าต้องมืดหมดเลย แล้วตอนนั้นเป็นกลางวันอ่ะห้องไม่มีแอร์ไม่มีอะไรเลย ต้องใช้ผ้าดำไม่มีอากาศถ่ายเทเลยมันก็แบบร้อน แต่สุดท้ายมันก็ต้องทำให้ดีที่สุดอ่ะครับ"  

มาพูดถึงมุมมองของบ้าน คิดว่าคนดูจะได้อะไรจากหนังเรื่องนี้บ้างครับ ?  

"ก็คติเลยเรื่องแรกว่าผู้ชายที่รักผู้หญิงคนเดียวที่เชื่อในเรื่องของความรักมัน ก็มีอยู่ในชีวิตจริงน่ะครับ  แล้วก็เหมือนหนังเรื่องนี้พยายามเล่าให้ครบทุกรส ตั้งแต่ดราม่าจนกระทั่งมีตลกบ้างนิดหนึ่ง มีแบบว่ากุ๊กกิ๊กกันอะไรอย่างนี้ครับ รักสามารถนำทางให้เราไปเจอกับคนดี ชีวิตที่ดี รักคือสิ่งสวยงามครับ"