"ในยุคที่เราตื่นมาก็เช็คอินสตาแกรม กดไลค์เฟสบุ๊คแบบนี้ คงไม่มีทางรู้หรอกว่า สมัยก่อนที่ปราศจากเทคโนโลยี เวลาเราจีบกันน่ะ มันสนุกขนาดไหน แถมยังไม่ได้ง่ายดายอย่างที่ใครๆคิด" จากไอเดียแรกของผู้กำกับรุ่นใหม่ไฟแรงอย่าง เสือ - ยรรยง คุรุอังกูร ที่ต้องการนำเรื่องราวเกี่ยวกับการสื่อสารในยุคปัจจุบันที่ทุกคนใช้โซเชียลเน็ตเวิร์กติดต่อสื่อสารกันอย่างรวดเร็ว ซึ่งได้ส่งผลไปยังเรื่องความรักของคนยุคนี้ที่ทุกอย่างรวดเร็วไปหมด “ตอนแรกเราอยากทำภาพยนตร์ที่เกี่ยวข้องกับการสื่อสารของคนยุคนี้ มันคือการที่เราก้มหน้าคุยกัน สื่อสารกัน รักใครก็แอดกัน เลิกกับใครก็ดีลีตทิ้งไป เริ่มด้วยไอเดียง่ายๆ แต่ก็ถูกขยายไปอีกว่า แล้วการสื่อสารเก่าๆ ยุคไหนมันน่าสนใจ”
แต่สิ่งเหล่านี้ยังไม่น่าสนใจเท่ากับความน่าสนใจของการสื่อสารในอดีต ในยุคที่หนุ่มสาวยังส่งข้อความจีบกันผ่านทางเพจเจอร์ ยังโทรหากันผ่านตู้โทรศัพท์สาธาณะและโทรศัพท์บ้าน “ตัวเราก็เติบโตมากับยุคดนตรีอัลเทอร์เนทีฟ ในปี 2538 ซึ่งกระแสตอนนั้นดังมาก ก็เลยมาคิดว่า การสื่อสารในตอนนั้นมีอะไรบ้าง มีเพจเจอร์ มีการหยอดเหรียญตู้โทรศัพท์คุยกัน หรืออย่างโทรศัพท์บ้านก็ฮิต เขียนกลอนส่งกัน มีบัตรจีบ อัดเพลงให้สาว เราเลยเอายุคนี้กับยุคปัจจุบันมาเปรียบเทียบกันว่า อะไรที่มันคล้ายกัน และมันถูกเปลี่ยนรูปแบบไปอย่างไร”
เรื่องการสื่อสารของหนุ่มสาวในปี 2538 จึงเป็นที่มาของภาพยนตร์ที่ผู้กำกับได้นำบรรยากาศของดนตรีในยุคอัลเทอร์เนทีฟรุ่งเรือง วัยรุ่นทุกคนยังกระโดดโยกหัวไปกับวงอัลเนอร์เนทีฟในตำนานอย่างวงพราว อรอรีย์ หรือสไมล์บัฟฟาโล่ให้หวนกลับมาในจอภาพยนตร์อีกครั้ง “อัลเทอร์เนทีฟจริงๆ มันคือบรรยากาศของหนังเรื่องนี้ ซึ่งเรากำลังจะบอกว่า การสื่อสารในยุคนั้นมันอบอวลไปด้วยบรรยากาศแบบนี้แหละ แฟชั่น เสื้อผ้า หน้าผม การฟังเทปหรือการสื่อสารหรือการใช้เพลงจีบผู้หญิง ยุคนั้นจะเป็นอัลเทอร์เนทีฟหมด”
และแน่นอนว่าบทเพลงอัลเทอร์เนทีฟที่เคยโดนใจหรืออยู่ในความทรงจำของใครหลายคน จะหวนกลับมาประกอบภาพยนตร์ให้ได้ฟังกัน ไม่ว่าจะเป็น แล้วเธอ– อรอรีย์ และ องศาที่ต่างกัน–The Must “ในยุคนั้น เวลาเราฟังเพลงไหน เคยได้ยินคำว่า ฟังเพลงไหนก็โดนไหม มันเหมือนกับว่า พอเราอยู่ในห้วงอารมณ์อารมณ์หนึ่ง แล้วเราฟังเพลงนี้เข้าไป มันก็โดนขึ้นมา เพลงแต่ละเพลงจึงทำหน้าที่ของมันในแต่ละฉาก หรืออย่างเวลาฟังเพลงเก่าๆ แล้วเรานึกถึงเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นซึ่งสิ่งนี้แหละที่เราพยายามทำให้เป็นแบบนั้นในหนัง”
มาร่วมอินไปกับเพลงยุคอัลเทอร์เนทีฟและความรักสองยุคสมัยในภาพยนตร์รักย้อนวัย แต่ทันสมัยในความรู้สึก 2538 อัลเทอร์มาจีบ 19 มีนาคม ในโรงภาพยนตร์