Thailand International Film Destination Festival 2015 ที่จะจัดขึ้นในปีนี้จะมีการจัดฉายภาพยนตร์ทั้งหมด 10 เรื่องด้วยกัน โดยภาพยนตร์ทุกเรื่องเป็นภาพยนตร์ต่างประเทศที่เข้ามาถ่ายทำในประเทศไทย

เมื่อพูดถึงภาพยนตร์แล้วเป็นปกติที่คนจะนึกถึงภาพยนตร์จากฮอลลีวูด แต่ในความเป็นจริงในสายตาของผู้ผลิตภาพยนตร์จากทั่วโลก ประเทศไทยเป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับการถ่ายทำภาพยนตร์และวีดีทัศน์ ด้วยทัศนียภาพที่สวยงาม ทีมงานที่มีประสิทธิภาพ และอุปกรณ์การถ่ายทำที่ทันสมัย ที่สามารถตอบโจทย์ภาพยนตร์ได้ทุกสัญชาติและทุกประเทศ และความหลากหลายจากนานาประเทศนี้สามารถเห็นได้จากภาพยนตร์ที่นำมาฉายในปีนี้ ซึ่งมีทั้งภาพยนตร์จากประเทศญีปุ่น จีน สหรัฐอเมริกา อินเดีย สหราชอาณาจักร มาเลเซีย และฝรั่งเศส

"The Lost Medallion" และ "The Prince and Me: Elephant Adenture" ภาพยนตร์ผจญภัยแนวครอบครัวที่นำเสนอสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นฉากหลังในจังหวัดกระบี่หรือจังหวัดกาญจนบุรี ที่แสดงให้เห็นถึงความงดงามของสถานที่แต่ก็ยังมีความสะดวกสบายในด้านของที่พักและสิ่งอำนวยความสะดวก

"The Railway Man" และ "Pale Moon" ภาพยนตร์แนวดราม่าที่พิสูจน์ให้เห็นว่าประเทศไทยไม่ได้เป็นแค่ที่หลงไหลของผู้ผลิตภาพยนตร์แนวแอ็คชั่นเท่านั้น แต่สามารถตอบโจทย์ภาพยนตร์ได้ทุกประเภท มีความคุ้มค่าในการลงทุนเข้ามาถ่ายทำ และสามารถเทียบเท่าสตูดิโอยักษ์ใหญ่จากนานาประเทศ

"Last Flight" และ "Pernicious" ภาพยนตร์สองเรื่องที่จะนำความสยองขวัญสั่นประสาทมาสู่ผู้ชม โดยฉากส่วนใหญ่ของเรื่องถ่ายทำในเครื่องบิน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสามารถของทีมงานชาวไทยที่สามารถจำลองภายในเครื่องบินโบอิ้ง 747 ได้อย่างละเอียดสมบูรณ์

ส่วนภาพยนตร์ "Stretch" และ "Angel" ที่ถ่ายทำในกรุงเทพมหานครก็แสดงให้เห็นถึงแสงสีและเอกลักษณ์ของเมืองที่ไม่เคยหลับไหลแห่งนี้ เฉกเช่นนิวยอร์กและลอนดอนสองมหานครศิวิไลซ์

"Biker Kental" ภาพยนตร์จากประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซียก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่าแม้แต่ประเทศเพื่อนบ้านก็ยังให้ความสนใจในการเช้ามาถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศไทย และตอกย้ำความร่วมมือในภูมิภาคเอเชียที่คาดการว่าจะมีการเข้ามาถ่ายทำในประเทศไทยมากขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ ซึ่งภาพยนตร์รักโรแมนติกเรื่องนี้จะติดตามการผจญภัยของแก๊งมอเตอร์ไซค์ชาวมาเลยเซียที่ขี่มอเตอร์ไซค์ท่องเที่ยวในประเทศไทย

นอกจากนั้นประเทศไทยยังเป็นสถานที่ที่ภาพยนตร์อินเดียนิยมเข้ามาถ่ายทำอีกด้วย และในปีนี้เราก็มีภาพยนตร์อินเดียชื่อดังอย่าง "It's Entertainment" ที่นำแสดงโดยดาราบอลลีวู้ดชื่อดัง Akshay Kumar อีกด้วย

โปรแกรมภาพยนตร์ในปีนี้แสดงให้เห็นถึงความหลากหลายของภาพยนตร์ที่มาจากนานาประเทศ ซึ่งสามารถตอบสนองผู้ชมได้ทุกเพศทุกวัย