THE FOG "หมอกมรณะ"

สวัสดีครับ เพื่อนที่รัก นักเสพย์ความเอนเตอร์เทนเม้นท์ ผ่านสื่อ อินเตอร์เน็ท กลับมาพบกันอีกครั้งนะครับ เมื่อมีภาพยนตร์ที่น่าสนใจ “ นัวฟิล์ม ” ก็จะนำมาวิจารณ์ให้ เหล่าเพื่อน ๆ ในNangdee.com ได้อ่านกันนะครับ

THE FOG หมอกมรณะ

เรื่องนี้ เป็นภาพยนตร์ ที่ผม ติดตามมาตั้งแต่เริ่มโปรโมทใน เวบไซท์แล้วครับ น้องที่ทำงานเอามาเล่าให้ฟัง บอกว่าน่าดู และ อยากดูเหลือเกิน เลยสร้างความสนใจให้ผมเป็นอย่างมาก ว่ามันจะเป็น ภาพยนตร์ประเภทสยองขวัญแบบใดกันแน่ (จริง ๆ คิดว่าเป็น มนุษย์ต่างดาวด้วยซ้ำ) พอเข้าแล้วก็เลยต้องตามไปดูมาเล่าสู่กันฟังครับ


ตัวภาพยนตร์
เป็นภาพยนตร์ผีเกรดประมาณ B บวก ครับ แต่มันจะเป็นแนว ๆ กึ่ง ๆ สยอง ๆ หลอน ๆ โหด ๆ คละเคล้ากันไป บางคนอาจมองว่า ภาพยนตร์อาจจะไม่มีจุดยืนที่แน่นอน เพราะ บางฉากก็สยองขวัญ แบบ ภาพยนตร์ ฆาตกรรม บางฉากก็หลอน แบบหนังผี บางฉากก็ออกแนว ค่อนข้างโหด แต่ก็ไม่ถึงกับสุด ๆ อะไรประมาณนั้น แต่ส่วนตัวผมว่า รวม ๆ แล้ว ทำให้ ภาพยนตร์เรื่องนี้ กลับ เป็นภาพยนตร์ ที่น่าสนใจ และ สนุกได้ใจพอสมควรเลยทีเดียว


ภาพยนตร์
เริ่มจาก ปูเรื่องด้วย ภาพในอดีต ที่เกิดขึ้น ณ เกาะแห่งหนึ่งก่อน แล้ว ค่อย ตัดภาพมาเป็นปัจจุบัน (เอ๊ะ ทำไมเหมือนกันแทบทุกเรื่องเลยครับ ภาพยนตร์แนวนี้ ใครรู้บอกทีนะครับ) แต่นั่นไม่สำคัญ ภาพยนตร์ ดำเนินเรื่อง อย่างเป็นปมปริศนาให้เราติดตาม ได้อย่างน่าสนใจ แม้ว่าแรก ๆ อาจจะดูยืดเยื้อไปสักนิด และอาจจะไม่ค่อยเข้าใจนัก แต่นั่นก็เป็นการ ค่อย ๆ เปิดปมเรื่อง ออกทีละน้อย ๆ จนกระทั่ง เจ้าของฉายา หมอกมรณะ ออกสำแดงเดช เราจึงค่อย ๆ เข้าใจเรื่องมากขึ้น ๆ จนท้ายสุดเราจึงจะรู้ถึงที่มาของเหตุการณ์ทั้งหมด โดยไม่ต้องนำเอามาขบคิดให้เมื่อยร่องสมอง ตอนภาพยนตร์จบ

ดารา
ผมไม่แน่ใจ ว่าคุ้นหน้าคุ้นตา พระเอก มาจากภาพยนตร์เรื่องอะไร ใครรู้บอกทีนะ คิดไม่ออกจริง ๆ ครับ แต่ส่วนใหญ่ จะเป็นดาราแบบไม่ค่อยดังสักเท่าไหร่ (นี่ก็เป็นสูตรสำเร็จอีกเหมือนกัน เพราะ ภาพยนตร์ประเภทนี้ หากประสบความสำเร็จ ก็มักจะสร้าง ดารา ใหม่ ๆ ขึ้นมา พร้อม ๆ กันเสมอ) แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้ จะมี ตัวละครหลัก และ ตัวประกอบ ค่อนข้างเยอะ และทำให้ เฉลี่ยแบ่ง ๆ บทกันไป แต่ที่รับบทบาททีเด่นชัดที่สุดก็น่าจะเป็น พระเอก นางเอก นั่นเอง ที่เป็นตัวเดินเรื่อง ตั้งแต่ต้นจนจบ ซึ่งก็สามารถทำได้ดี ทุกตัวละคร ไม่โดดเด่น แต่ก็ไม่ได้อ่อนด้อยอะไร
 

การกำกับ
ผมว่า เป็นความตั้งใจมากเกินไปหรือเปล่าของผู้กำกับ ที่พยายามเล่าเรื่อง แบบ ตัดกลับไปมา พร้อม ๆ กับแทรกหตุการณ์ สยอง ๆ เพื่อไม่ให้กลิ่นของภาพยนตร์ถูก กลบไปเพราะระยะเวลาที่สิ้นเปลืองเล็กน้อย ระหว่างการ แฟลชแบ็ค จาก ปัจจุบันไปอดีต และ จากอดีตมาสู่ปัจจุบันบ่อยครั้ง ทำให้คนดูเริ่มงง และ ประติดประต่อ เรื่อง ไม่ค่อยเข้าใจ แต่ไม่ต้องห่วง เพราะผมบอกแล้วว่า สุดท้ายจะเข้าใจทั้งหมดครับ แต่โดยรวมผมว่า เค้าทำได้ดีครับ เพียงแต่ว่า อาจจะตั้งใจมากเกินไป มากกว่าที่จะบอกว่าเค้า กำกับได้ไม่ดี อันนี้เป็นความเห็นของผมคนเดียวนะ แต่ในส่วนอื่น ๆ ผมว่า ใช้ได้ครับ ทำได้ดีทีเดียว เพราะหากจะดูให้ดี ภาพยนตร์เรื่องนี้ค่อนข้างละเอียด มีการตัดต่อละเอียด สลับฉากไปมาบ่อยมาก มีซีนที่แช่กล้องนานน้อยมาก ดังนั้น การกำกับภาพ การลำดับภาพ และ การ ตัดต่อ ก็ถือว่า ทีมงาน ขยันมาก ๆ ทีเดียว ถือเป็นจุดเด่นครับ
 

สเปเชี่ยลเอฟเฟ็ค
มี ให้เห็นมากมายหลายซีน จนไม่อาจจะถือได้ว่าเป็นภาพยนตร์ต้นทุนต่ำ ต้องถือว่าเป็นความตั้งใจสุด ๆ และ สามารถทำได้ดีมาก ๆ อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น ซีน หมอกเคลื่อนไหว ซีนที่เป็นเหล่าปิศาจ และ อีกหลาย ๆ ซีน ต้องไปชมเองนะครับ โดยส่วนตัวผมชื่นชอบในส่วนนี้เป็นพิเศษครับ และ หลาย ๆ ซีน ก็ทำได้เนียน สยอง จริง ๆ ครับ ยกนิ้วให้เลยครับ


การถ่ายภาพ
อันนี้ คงเป็นธรรมเนียมของภาพยนตร์ แนวนี้ เพราะเค้าจะใช้สีของแสงเป็นสิ่งเร้าอารมณ์ได้อย่างเหมาะสม เช่น ซีนที่เป็น หมอก เค้าจะไม่ใช่สีขาวเพลน ๆ เค้าจะใช้สีฟ้าหม่น ๆ เพื่อกดอารมณ์คนดูให้รูสึก ลึกลับ น่ากลัว เพราะหากใช้ ขาวธรรมชาติ คนดูจะรู้สึกสบายมากกว่าที่จะรู้สึกกลัว หรือ ซีนที่เป็น สุสาน หรือ สถานที่ที่น่ากลัว เค้าใช้สีเขียวหม่น เพื่อเร้าอารมณ์วังเวงน่ากลัว อันนี้เป็นการสังเกต และ ความรู้สึก ของผมเองนะครับ และอีกหลาย ๆ ซีนต้องไปชมกันนะครับ แต่ในเรื่องของการถ่ายทำในที่มืดก็ทำได้ดี มีรายละเอียดดีครับ และ หลาย ๆ ฉากก็ถ่ายได้สวยงามครับ โดยเฉพาะ มีฉาก เลิฟซีน เล็ก ๆ แต่ก็ถ่ายได้สวยงาม ใช้การ โคลสอัพ ระยะไกล้ แสงสวยไม่แพ้ภาพยนตร์ดี ๆ หลาย ๆ เรื่องเลยครับ สีของฟิลม์ ม้วนต่อม้วน ไม่โดดกันมาก ค่อนข้างแนบเนียน ( อันนี้ แนะนำให้ไปสังเกตุ นะครับ ภาพยนตร์ต่างประเทศ โดยมากจะมี 6 - 8 รีลส์ แต่ละรีลส์ สีมักไม่เหมือนกัน แต่เวลาเราดู เราเพลินกับภาพยนตร์เลยมาได้สังเกตุ มากน้อยก็แล้วแต่คุณภาพของภาพยนตร์ และ การทำสำเนาฟิลม์ จาก บริษัทพิมพ์ฟิล์มในบ้านเรา แต่ ต้นฉบับ ที่มาจากเมืองนอก มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งครับ บางเรื่อง สีโดด แบบรับไม่ได้เลยครับ)


ภาพรวม
เป็นภาพยนตร์ที่ดูได้อย่างสนุก ตื่นเต้น สยอง และน่ากลัว ระคนกันไป แต่ก็ไม่ถึงกับสุดยอด แค่เป็นภาพยนตร์ที่ค่อนข้างสมบุรณ์ในสายตาผม พล๊อตเรื่องแปลกออกไป เป็นการกลับมาล่าแบบสยองขวัญ แต่ไม่ใช่ฆาตกรโรคจิต แต่เป็น ปิศาจ ที่กลับมาล่าเพื่อล้างแค้นพร้อมทั้งทวงบางสิ่งบางอย่างที่เป็นของเค้า ที่ถูกเอาไป อย่างเหี้ยมโหด ไร้ความยุติธรรม และ มนุษยธรรม ในอดีต เพื่อนำความถูกต้อง กลับคืนมา



ความคุ้มค่า
ผมให้ 8.5 เต็ม 10 ครับ


สุดท้าย
ก็ขอจบคำวิจารณ์ ไว้เพียงเท่านี้นะครับ ก็เหมือนเดิมนะครับ ชอบ ไม่ชอบ ติชมกันได้ หรือ โพสท์ มาพูดคุยกันได้นะครับ หรือ ไปดูมาแล้ว เห็น มุมมอง ต่างออกไปอย่างไร มาบอกกันบ้าน ผมชอบศึกษา จากคนคอเดียวกัน (คนเสียตังค์ดู) ไม่ได้ชอบศึกษาจาก พวก กูรู ทั้งหลาย ที่บางคนก็ถูกจ้างมาเขียนชม หรือ ถูกจ้างมาทำลาย ภาพยนตร์ ผมเขียนจากความรู้สึกของตนเอง อย่างที่คนเสียเงินดูแล้วเอามาเล่าให้เพื่อฝูงฟัง เป็นหลัก ขอยืนยัน แล้วเรื่องหน้าเป็นอะไร ติดตามกันนะครับ ตีตั๋วไปดู แล้วจะกลับมาเล่าให้ฟังอีก ถ้ามีคนชอบอ่านเยอะ ๆ ผมก็มีกำลังใจครับ อยากให้ติดตามกัน และ มาแชร์ความคิดเห็นกันครับ ขอบคุณครับ สวัสดีครับ



"นัวฟิล์ม"