“ERAGON” “กำเนิดนักรบมังกรกู้แผ่นดิน”

สวัสดีครับ เพื่อนที่รัก นักเสพย์ความเอนเตอร์เทนเม้นท์ ผ่านสื่อ อินเตอร์เน็ท กลับมาพบกันอีกครั้งนะครับ เมื่อมีภาพยนตร์ที่น่าสนใจ “ นัวฟิล์ม” ก็จะนำมาวิจารณ์ให้เหล่าเพื่อน ๆ ใน www.nangdee.comได้อ่านกันนะครับ


ERAGON เป็นภาพยนตร์ ที่ เล่าถึงเรื่องราวเกี่ยวกับมังกร ที่ถูกสร้างมาจากหนังสือขายดีอันเนื่องมาจากสร้างมาจากหนังสือขายดี เนื่องมาจากเป็นเรื่องของนักรบคู่มังกรและอันเนื่องมาจากเป็นภาพยนตร์ ที่จะทำเป็นไตรภาคหรือที่เราจะเรียกภาพยนตร์แนว ๆ นี้ว่าเป็น มหากาพย์อะไรประมาณนั้นอาจจะเป็นเพราะด้วยเนื้อเรื่องที่ยาวมีการกล่าวถึง บุคคล สถานที่ ในตำนานเยอะแยะมากมาย และที่สำคัญเราห่างหายภาพยนตร์ประเภทมังกรนี้ไปพอสมควร ครั้งสุดท้ายที่เราเห็นมังกรก็น่าจะเป็น แฮรี่ พ็อตเตอร์ แต่มันก็ไม่ได้เป็นตัวเอกอย่างเรื่องนี้ “ERAGON” “กำเนิดนักรบมังกรกู้แผ่นดิน”


ก็อย่างที่บอกภาพยนตร์ที่กล่าวถึงมังกรที่เป็นตัวเองของเรื่องเท่าที่ผมจำได้และเท่าที่ได้ดูมาก่อน ก็มี 1. DRAGON HEART 2. REIGN OF FIRE 3. DUNGEONS & DRAGONS ภาค 1 และ 2 ทั้งนี้ไม่รวม SHREK และ แฮรี่ พ็อตเตอร์ ภาคที่มีมังกรเป็นตัวประกอบเท่านั้นนะครับ เรื่อง ERAGON ก็เลยเป็นภาพยนตร์เรื่องที่ผมอยากดูเป็นที่สุดครับ ทั้งด้วยการได้ข่าวมาว่าสร้างจากบทประพันธ์ที่ขายดีมาก ๆ ในอเมริกาด้วยการประพันธ์ของเด็กอายุ 15 เท่านั้นเอง ทำให้อยากดูเป็นทวีคูณเลยครับก็เลยไปดูซะสองรอบ รอบแรกเป็นซาวด์แทรค รอบที่สองเป็นเสียงไทยซึ่งบังเอิญได้รับเชิญไปในงานเปิดตัว น้องแพนเค้ก และ ปอ ทฤษฎี ที่มาให้เสียงภาษาไทยเป็น ซาเฟียร่า มังกรสาว และ เอรากอน นักรบหนุ่มคู่มังกรก็เลยได้ไปดูอีกรอบครับ


ตัวภาพยนตร์
เป็นภาพยนตร์แนวมหากาพย์แฟนตาซีย้อนยุคว่าด้วยในยุคที่แผ่นดินลุกเป็นไฟ เนื่องจากนักรบคู่มังกรซึ่งเป็นนักรบชั้นบรรดาศักดิ์ เกิดกระด้างกระเดื่องต่อกษัตริย์เกิดการรบกันเองและโค่นล้มบัลลังก์ ก่อนที่จะยึดอำนาจขึ้นเป็นกษัตริย์ของนักรบคู่มังกรผู้ชั่วร้ายแต่ด้วยตำนาน แห่งคำทำนายได้กล่าวไว้ว่า จะมีนักรบคู่มังกรคนสุดท้ายจะกลับมากู้แผ่นดินเดือดให้กลับคืนสู่ความสุขสงบ ได้อีกครั้ง



กราฟฟิก
ก็เป็นตามปกติละครับ พล็อตเรื่องก็คงเป็นไปตามเนื้อเรื่องแนว ๆ ทั่ว ๆ ไปไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่นัก แต่ความน่าสนใจกลับไปตกอยู่ที่ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกกดดันเพราะได้นำเอา มาสร้างจากหนังสือขายดิบขายดีเสียมากกว่า ว่าจะทำออกมาได้ดีอย่างที่หนังสือเขียนไว้หรือเปล่าเท่านั้นเอง ครั้งแรกที่ผมไปดูต้องบอกว่าตัวภาพยนตร์ไม่สามารถทำอะไรให้ผมตื่นเต้นได้มาก นัก เรื่องดำเนินไปแบบพอคาดเดาได้ออกว่าอะไรจะเกิดขึ้นเป็นลำดับ ๆ ไป เรื่องมาสนุกสนานเข้าขั้นเอาก็ต่อเมื่อมังกรได้ฟักตัวเผยโฉมออกมา แล้วหลังจากนั้นก็เป็นเนื้อหาที่สนุกใช้ได้เลยครับบวกกับเทคนิคยุคใหม่ที่ดู อย่างไร ๆ ก็หาที่ติไม่ได้ อย่างเช่นกราฟิกคอมพิวเตอร์ที่สร้างมังกรขึ้นมาบวกกับการแสดงของนักแสดง สามารถทำได้อย่างเนียนมาก ๆ ไม่สะดุดเลยครับ ในเรื่องอื่นๆ ที่ผ่านมาอาจจะมีบ้างที่การสื่อสารหรือการแสดงของนักแสดงที่เค้าต้องเล่นกับ ความว่างเปล่า ก่อนที่จะไปแมทช์กับภาพกราฟฟิกนั้น บางทีดูขัดเขินบางที่ดูไม่ค่อยลงตัวในเรื่องนี้ไม่มีให้เห็นเลยครับ หรือขนาดของสเกล หมายถึงตัวมังกรเมื่อเทียบสัดส่วนกับคนแล้ว สามารถทำได้ดีมาก ๆ ไม่เห็นความแตกต่างของขนาดที่ผิดไปให้เห็นสัดส่วนจะเท่า ๆ กันตลอด อันนี้ลองไปชมภาพยนตร์ไทยเรื่องหนึ่งที่มีสัตว์ดึกดำบรรพ์คืนชีพมา ถูกพระเอกที่เป็นตำรวจตามล่าดูซิครับ จะเห็นได้เลยว่าสัดส่วนของคอมพิวเตอร์กราฟฟิกมันผิด สัตว์ดึกดำบรรพ์เดี๋ยวตัวใหญ่เดี๋ยวตัวเล็ก เมื่อเทียบสัดส่วนกับตัวคน (อันนี้ไม่ได้ค่อนแคะนะ อยากให้เค้าเอาในใส่ในเรื่องนี้สักหน่อย เพื่อพัฒนา ก็เท่านั้น)



บทภาพยนตร์
คงไม่ต้องพูดอะไรมากบทของภาพยนตร์ก็เป็นไปอย่างไม่ได้หวือหวาอะไร อาจจะเป็นเพราะเป็นเพียงภาคแรกของเค้าเท่านั้น (นี่คิดเอาใจตัวภาพยนตร์แล้วนะ) เป็นเพียงการกำเนิดหรือที่มาของเรื่องเท่านั้นเองเนื้อหายังคงอีกยาวไกล แต่ที่น่าชมเชยก็คือการเขียนบาทภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจากหนังสือแล้วเรื่อง นี้โดยส่วนตัวผม ผมถือว่าทำได้น่าพอใจไม่เยิ่นเย้ออืดอาด ทำได้กระชับดูแล้วแม้จะเรียบ ๆ (ในตอนต้น) แต่กลับไม่รู้สึกเบื่อแต่อย่างใดกลับติดตามชมได้อย่างสนุกเลยทีเดียว แต่ก็อีกนั่นแหล่ะเหล่าสาวกที่อ่านหนังสือมาก่อนอาจจะไม่ชอบในจุดนี้อย่าง ที่ผมเคยบอกไว้หลายครั้งว่า หากสร้างตามหนังสือทุกระเบียดความละเอียดทุกตัวอักษรก็คงต้องสร้างเป็นซีรี่ ล่ะครับ คอภาพยนตร์ก็คงจะด่าเอาอีกเช่นกันเค้าคงไม่สามารถทำเอาใจคอหนังสือได้หรอก ครับ เพราะเค้าได้ตังค์จากนักดูภาพยนตร์นี่หว่า ก็ต้องเอาในคนดูภาพยนตร์มากกว่า (ซึ่งผมอยู่ในประเภทนี้) ฉันใดก็ฉันนั้น


ภาพยนตร์เรื่องนี้
ถ้าโดยส่วนตัวผมชอบครับแต่ไม่ได้ชอบที่สุดนะครับ ภาพยนตร์เกี่ยวกับมังกรที่ชอบที่สุดของผมคือเรื่อง DRAGON HEART ครับ แต่โดยรวมถือว่าชอบทีเดียวเพราะด้วยมังกรที่ถูกสร้างขึ้นมาทำได้ดีเยี่ยม ต้องเรียกว่าดีเยี่ยมครับรายละเอียดดีไปหมดแต่ก็มีสิ่งให้ผมแปลกใจและจับผิด เหมือนกันครับ สิ่งที่แปลกใจก็คือปกติมังกรรบจะเป็นมังกรตัวผู้ซะส่วนมากแต่นี่เป็นตัวเมีย นะครับ อีกอย่างดูมังกรจากภาพยนตร์ทุกเรื่องมังกรจะมีปีกเป็นผังผืด เหมือนค้างคาว แต่เรื่องนี้ปีกของมังกรกลับเป็นขนเหมือนปีกนกครับดูแปลกดี แต่ผมว่าน่าจะเป็นเพราะทางทีมงานที่น่าจะออกแบบให้ดูเป็นเอกลักษณ์ที่ แปลกออกไปจากเดิม ๆ มากกว่า แต่ที่ผมคิดว่าน่าจะพลาดลองไปดูกันเองแล้วกันนะครับคือชุดเกราะที่เหล่ากอง ทัพที่ต่อต้านกษัตริย์สร้างให้ ซาเฟียร่า ตอน ที่พระเอกเดินมาดูหน้ากากเป็นแบบทึบเห็นแต่ตา แต่พอตอนใส่ออกรบกลับเป็นอีกแบบผมเลยรู้สึกว่าเค้าน่าจะพลาดไปครับ อื่น ๆ ไม่มีอะไรที่จับได้ครับเพราะมัวแต่สนุกอยู่กับตัวภาพยนตร์มากกว่า



การกำกับ
ก็อย่างที่บอกต้องใช้ฝีมือพอควรเพราะต้องกำกับนักแสดง แล้วต้องกำกับกราฟฟิกฯ อีกด้วยก็ถือว่าทำได้ดีถึงดีมากเลยครับ เพราะที่กล่าวไว้ตอนต้นว่าความผิดเพี้ยนในเรื่อง แมทช์ภาพ ขนาดของสเกลและ ฉากต่าง ๆ ทำได้เยี่ยมมาก ๆ ครับ



ดารา
สำหรับดาราที่ผมรู้จักดี ก็มีแค่ เจอเรมี ไอออนส์ และ จอห์น มัลโควิช เท่า นั้น แต่พระเอกนั้นคงไม่เคยรู้จักมาก่อนแน่เพราะเค้าแคสฯ มาเล่นเรื่องนี้โดยเฉพาะ ก็เป็นพระเอกใหม่ที่การแสดงก็ถือว่าผ่านไปได้ เพราะคาแรคเตอร์เค้าดูแล้วเป็นไอ้หนุ่มบ้านนอกลุกทุ่งก็ได้ แต่พอมาเป็นนักรบคู่มังกรราศีเค้าก็จับเป็นพระเอกหล่อขึ้นมาได้เช่นกันครับ แม้การแสดงจะยังแข็ง ๆ อยู่บ้าง อีกอย่างขาดความเซ็กซี่ไปนิดเพราะมีฉากเปลือยอกนิดหน่อยก็ดูยังผอม ๆ ยังไม่มีเนื้อหนังชัดเจนบรรดาสาว ๆ รวมถึง เกย์ ๆ แต๋ว ๆ อาจจะผิดหวังเล็กน้อยกับความเซ็กซี่ของพระเอกใหม่คนนี้ แต่ข้างผมเทใจให้ไปเลยครับ สำหรับนางเอก ซึ่งแม้จะดูแก่กว่าพระเอกก็ดูดีมีสง่าเหลือเกิน สมเป็นเจ้าหญิงดูแล้ว หลงใหลเธอมากครับขึ้น Top Chart (ท้อป 5 สาวในดวงใจ) ของผมไปเรียบบร้อยแล้วครับ และ ในส่วนของ เจอเรมี ไอออนส์ และ จอห์น มัลโควิช คงไม่ต้องพูดถึงนะครับ สองคนนี้ดาราคุณภาพอยู่แล้วที่ต้องชมอีกคนคือ ราเชล ไวส์ ซึ่งให้แค่เสียงของ ซาเฟียร่า มังกรสาวในภาพซาวด์แทร็ค แม้ไม่ได้แสดง แต่ให้แค่เสียงก็ทำได้ดีครับ



ภาพรวม
หากถามถึงความชอบ ผมชอบภาพยนตร์เรื่องนี้ครับมีภาคต่อผมก็คงติดตามดูครับ แต่ถามว่าประทับใจมั๊ยถือว่ายังครับความประทับใจน่าจะยังรอผมอยู่ในภาคต่อ ๆ ไปก็ต้องติดตามกันล่ะครับ หากเทียบกับ DUNGEONS & DRAGONS ผมชอบ DUNGEONS & DRAGONS มากกว่าครับ ( เจอเรมี ไอออนส์ นำ แสดงด้วยเหมือนกัน) แต่สิ่งที่น่าประทับใจก็ได้บอกไปแล้ว งานกราฟิกคอมพิวเตอร์ถือว่าเยี่ยมยอด เพราะทำได้ดีที่ช็อตและมีอย่างมากมายทุกฉากทุกตอนที่มีมังกร แม้ตัวภาพยนตร์จะไม่อลังการมากมายอย่างภาพยนตร์มหากาพย์เรื่องอื่น ๆ แต่ความกระชับฉับไวไม่อืดอาดไม่เกริ่นกล่าวถึงอะไรที่เลื่อนลอยให้ไปติดตาม ชมกันในภาคอื่น ๆ เรื่องนี้ก็ถือว่าสอบผ่าน ในความคิดของผมและที่ขาดไม่ได้ที่จะเอ่ยชม ที่เกริ่นไว้ตอนแรกว่าผมได้ไปดูเสียงไทยมาด้วย ต้องขอบอกครับว่า ปอ ทฤษฎี และ แพนเค้ก ก็ ทำได้ดีมาก ๆ เลยครับ ฟังแล้วเนียนไม่มีที่ติ (จริง ๆ ผมก็จะไปฟังแบบจับผิดอยู่เหมือนกัน) นำหนักเสียงเมื่อเปรียบเทียบกับนักพากย์อาชีพที่พากย์เป็น นางเอก ตัวโกง ตัวประกอบไม่ได้ แต่กับการลงเสียงครั้งแรกถือว่าเค้าทำได้ดีมีฝีมือเลยทีเดียว บวกกับการบันทึกเสียงลงไปกับซาวด์แทร็กแล้วทำได้ดีมาก ๆ ผมไม่ทราบว่าเรื่องนี้ ไปบันทึกเสียงไทยที่ต่างประเทศหรือเปล่า เพราะ หลัง ๆ ผมได้ข่าวว่าเราพากย์ แล้วเอาไปลงบันทึกที่ต่างประเทศอันนี้ถ้าเป็นคนไทยทำเองก็ถือว่า ยอดเยี่ยมครับ ต้องขอชม


สุดท้าย
แนะนำให้ไปชมกันนะครับ ผมว่าคุณ ๆ อาจจะเห็นอะไรที่แตกต่างออกไป แล้วนำกลับมาเล่าสู่กันฟังบ้างนะครับ อ้อ...มาบอกกันอีกครั้งนะครับ ว่า อย่าซื้อแผ่นผีมาดูเลยครับ ความอลังการของสีสันแห่งภาพและเสียงมันผิดกัน แนะนำให้ไปดูในโรงภาพยนตร์ครับ



ความคุ้มค่าและ ความชอบส่วนตัว
ผมให้ 8.5 คะแนน เต็ม 10 ครับ


แล้วคราวหน้า เมื่อมีภาพยนตร์เรื่องที่น่าสนใจ “ นัวฟิล์ม “ จะกลับมาเล่าให้ฟัง เช่นเคยครับ ขอบคุณที่ติดตามอ่านนะครับ เข้ามาอ่านแล้ว โพสท์เข้ามา บอกความคิดเห็นกันบ้างนะครับว่าชอบหรือไม่ชอบอย่างไร หรืออยากให้วิจารณ์ภาพยนตร์เรื่องอะไรก็บอกกันนะครับ สวัสดีครับ



"นัวฟิล์ม"