
![]()
ฉายแสง แอด.เวนเจอร์ นำเสนอ The Ugly หน้าเกลียด ผลงานภาพยนตร์แนวสืบสวน-ดราม่าล่าสุดจากผู้กำกับระดับตำนาน ยอนซังโฮ (Yeon Sang-ho) เจ้าของผลงานระดับโลก Train to Busan และ Peninsula ที่ครั้งนี้กลับมาสร้างปรากฏการณ์อีกครั้ง ด้วยการดัดแปลงเรื่องราวจากเว็บตูนต้นฉบับที่เขาเขียนเอง ถ่ายทอดประเด็นลึกซึ้งเรื่อง "ใบหน้า" และการตีตราทางสังคมท่ามกลางยุคเฟื่องฟูทางเศรษฐกิจของเกาหลีใต้
ผลงานเรื่องนี้ถูกคัดเลือกเข้าฉายในสาย Special Presentations ของเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติ Toronto ประจำปี 2025 และขายสิทธิ์เผยแพร่ล่วงหน้าไปแล้วกว่า 157 ประเทศ และยังถูกเสนอชื่อเข้าชิง รางวัล Blue Dragon Film Awards ครั้งที่ 46 ในหลากหลายสาขา ทั้ง ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, ผู้กำกับยอดเยี่ยม (Yeon Sang-ho), นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม (Park Jeong-min), นักแสดงสมทบชาย (Kwon Hae-hyo) และ นักแสดงสมทบหญิง (Shin Hyun-bin) รวมถึงรางวัลด้านเทคนิคภาพและศิลป์อีกหลายสาขา สะท้อนความสำเร็จทั้งด้านเนื้อหาและศิลปะการถ่ายทำ
![]()
หนึ่งในไฮไลต์ของภาพยนตร์คือการแสดงอันทรงพลังของ พัคจองมิน Park Jeong-min (Harbin) ที่รับ 2 บทบาท เป็นทั้งพ่อและลูกในเวลาเดียวกัน ร่วมด้วย ควอนแฮฮโย Kwon Hae-hyo (Peninsula), ชินฮยอนบิน Shin Hyun-been (Revelations) และ ฮันจีฮยอน Han Ji-hyeon (Face Me) เขาเปิดเผยว่าเป็นผู้เสนอให้ผู้กำกับให้เขารับบททั้งสอง "เพื่อสะท้อนสายสัมพันธ์ทางสายเลือดอย่างแท้จริง" โดยต้องเรียนรู้การใช้ชีวิตของผู้พิการทางสายตา ฝึกทำตราประทับจริง รวมถึงใส่วิกและคอนแทกต์เลนส์ขุ่นเพื่อถ่ายทอดความเป็น "ช่างจารึกตาบอด" ได้อย่างสมจริง ผู้กำกับ Yeon Sang-ho กล่าวชื่นชมว่า "เขาอ่านทางเดินของเรื่องได้แม่นยำยิ่งกว่าผู้กำกับเอง"
พัค จองมิน เผยว่า การแสดงบทบาทคนตาบอดในเรื่องนี้เป็น "ประสบการณ์ที่สะเทือนใจที่สุดในชีวิตการแสดง"
"ผมเตรียมตัวอย่างหนักเพื่อเข้าใจโลกของคนที่มองไม่เห็น และมันทำให้ผมหวนคิดถึงคุณพ่อของตัวเอง ซึ่งเคยสูญเสียการมองเห็นจากอุบัติเหตุ บทนี้ไม่ใช่แค่การแสดง แต่มันคือของขวัญที่ทำให้ผมเข้าใจความรักและความสูญเสียมากขึ้น"
![]()
ขณะที่ ผู้กำกับ ยอนซังโฮ (Yeon Sang-ho) กล่าวถึงแนวทางการทำงานว่า "ผมอยากเล่าเรื่องนี้ผ่านสายตาของคนธรรมดา แทนที่จะใช้ฉากใหญ่หรือเทคนิคอลังการ The Ugly คือหนังที่ค่อย ๆ เย็บบาดแผลของสังคม และตั้งคำถามกับคำว่า 'ความสำเร็จ' ว่ามันแลกมาด้วยอะไร"
สำหรับแนวคิดสำคัญของภาพยนตร์ ยอนได้ใช้ "ความน่าเกลียด" เป็นอุปมาแทนสิ่งที่สังคมพยายามกดทับและซ่อนเร้นไว้ เพื่อแลกกับการเติบโตและความสำเร็จในโลกยุคใหม่ แนวคิดที่ทั้งสะท้อนและตั้งคำถามต่อค่านิยมของผู้คนร่วมสมัยอย่างแหลมคม
นอกจากนี้ ผู้กำกับยังเปิดเผยว่าเขาได้รับแรงบันดาลใจจากงานภาพยนตร์อินดี้เอเชียที่สร้างด้วยงบประมาณจำกัด ซึ่งเต็มไปด้วยพลังงานสร้างสรรค์และมุมมองที่แตกต่างอย่างมีเอกลักษณ์
เมื่อความทรงจำที่ถูกฝังไว้กว่า 40 ปี ถูกปลุกขึ้นมาอีกครั้ง… "The Ugly หน้าเกลียด" จะทำให้คุณไม่กล้ามองใบหน้าเดิมในกระจกเหมือนเดิมอีกต่อไป 20 พฤศจิกายน ในโรงภาพยนตร์

ติดตามข่าวสาร "The Ugly หน้าเกลียด" ผ่านช่องทาง ดังต่อไปนี้
Facebook : www.facebook.com/shinesaengad.venture
Youtube : www.youtube.com/@shinesaengad.venture
Instagram : www.instagram.com/shinesaengad.venture
Tiktok : www.tiktok.com/@shinesaengadventure
X : https://x.com/ShinesaengAd