มีหลายฉากในภาพยนตร์แอ็กชันโคตรมันส์แห่งปีเรื่อง "เสือ" ที่ผู้ชมต่างส่งเสียงเชียร์ ปรบมือ และเฮกันลั่นโรง รวมถึงอีกหนึ่งฉากสำคัญของเรื่องที่สื่อมวลชนและผู้ชมส่วนใหญ่ล้วนชื่นชมและยกให้เป็น MVP คิวบู๊ที่ยอดเยี่ยมขึ้นแท่น "โคตรแอ็กชันแห่งยุค" นั่นคือ "ฉากงานฤดูหนาว – วันถล่มรังจอมพล" ที่นอกจากจะได้เห็นการต่อสู้ของ "4 เสือ" ที่ต้องห้ำหั่นกันเองและพยายามต่อต้านอาคมของ "เสือฝ้าย" ผู้เข้ามาเป็นตัวขัดขวางที่เก่งกาจยากจะต่อกรแล้ว งานนี้ยังต้องปะทะเดือดกับชุมเสืออีกทั้งภูมิภาคที่บุกเข้ามาหวังล่าค่าหัวเสือด้วยกันอีก จนเกิดเป็น "ศึกตะลุมบอนเสือ" ที่ทั้งชุลมุนไม่มีถอย อึ้งทึ่งมันส์ไม่มีหยุด ระเบิดศึกลากยาวตั้งแต่ภายนอกบริเวณงานฤดูหนาวอันยิ่งใหญ่ (เทียบเท่างานกาชาดสวนอัมพร) จนมาถึงโถงอาคารด้านในที่เป็นไฮไลต์

ทำให้ฉากนี้มีคิวแอ็กชันยาวต่อเนื่องโคตรมันส์หยดถาโถมมาแบบไม่มีวันหมด โดยก๊วนเสือที่เข้ามาต่อสู้ตะลุมบอนสี่เสืออย่างไม่ลดละนั้นล้วนเป็นสตันต์แมนมืออาชีพของไทยที่ถูกเกณฑ์มาร่วมเข้าฉากเกือบหมดทั้งวงการ เรียกว่าคิวเป็นร้อยในฉากเดียว ทั้งวิ่ง สลิง ยิง หมัด ทุบ กระแทก แตกกันทุกส่วน สู้กันต่อเนื่องจนแทบลืมหายใจ และยังเป็นฉากไฮไลต์ที่ถูกออกแบบมาให้โชว์ทีเด็ดอาคมประจำตัวของทั้ง "เสือฝ้าย", "เสือมเหศวร", "เสือใบ" และ "เสือดำ" แบบไม่มีกั๊กกันอีกด้วย

ถือเป็นฉากเดียวที่รวมทุกตัวละครไว้ที่นี่เพื่อภารกิจลอบสังหารลับ เซตถนนตลอดแนวเพื่อความสมจริง ก่อนกดชนวนเปิดศึกปล่อยเสือออกล่าไขว้สร้างความโกลาหลที่ต่างอุดมการณ์และช่วงชิงความหอมหวนในราคางานล่าหัว ทั้งโหดทั้งหินกับการถ่ายทำที่มีกล้องซ่อนอยู่ในทุกมุม รวมไปถึงงานโดรนที่เก็บรายละเอียดทุกเม็ดงานชนิดห้ามพลาดสักจุด และคิวบู๊นับร้อยของเสือในตัวหลักและนักแสดงสมทบ เอฟเฟกต์ระเบิด กระสุนรัวอีกนับไม่ถ้วน ยิ่งใหญ่เกินบรรยายทั้งงานเซต เสื้อผ้า แอ็กชัน และงานภาพ ซีนเดียวถ่ายเช้าจรดเย็น เพื่อสัมผัสบรรยากาศสุดสมจริงของยุคนั้น และตื่นตะลึงกับความอลังการด้านงานโปรดักชันของมหากาพย์แอ็กชันไทยเรื่องเยี่ยม

"เหตุการณ์คือเป็นวันที่ 'เสือ' จะมาลอบสังหาร 'จอมพล' เพื่อชิงเงินค่าหัวใน 'งานฤดูหนาว' เซตงานใหญ่เหมือนงานกาชาดสวนอัมพร จะมีเปิดร้านขายของ คนเดินเที่ยว แล้วเกิดเหตุการณ์ระเบิดคนวิ่งหนีตายกัน มีกลุ่มก้อนแก๊งที่มีภารกิจแฝงอยู่อีกหลายมิชชันในฉากเดียว ซึ่งในการถ่ายทำมีกล้องหลายตัว มีโดรนรอมุมกว้างอีก มันก็มีเหตุการณ์บรรยากาศก่อนที่จะเริ่มแอ็กชันในฉากนี้กัน คิวทุกอย่างเลยเยอะจนลากยาวมาก

ไล่ซีนนี้กันมาตั้งแต่เหตุการณ์ภายนอก เข้ามาสู้ต่อกันด้านในอาคาร เป็นฉากที่ซ้อมแล้วซ้อมอีก ทั้งคิวกล้อง คิวเอฟเฟกต์ คิวมันเยอะและซับซ้อนมาก เรามีการซ้อมคิวบู๊มาตั้งแต่เตรียมงานหลายครั้ง ซีนนี้มันใหญ่เพราะคน คิว เอฟเฟกต์ ซีจี วันนั้นน่าจะมีคนมาร่วมฉากประมาณ 500-600 คนได้ รวมทีมงานด้วย วงโยธวาทิตรุ่นน้องจากโรงเรียนผมที่ ภ.ป.ร. ทีมสตันต์ ชาวบ้าน ทหารตำรวจที่ต้องมายิงกับพวกโจร กลุ่มเสือ อั้งยี่ แป๊ะยิ้ม วงดนตรี ฉากนี้ฉากเดียวใช้เวลาถ่ายไป 2-3 วันได้ ถือว่าเป็นฉากที่มีคนมาร่วมงานนี้กันมากที่สุดของเรื่องแล้ว และรวมสตันต์เกือบทั้งประเทศอยู่ในฉากนี้ฉากเดียว"

ซึ่งคิวบู๊ซีนนี้ได้รับการออกแบบโดยผู้กำกับฉากแอ็กชันฝีมือพระกาฬยืนหนึ่งของวงการ "ท็อป-วีระพล ภูมาตย์ฝน" ที่เคยร่วมสร้างคิวแอ็กชันบันลือโลกมามากมายตั้งแต่ "องค์บาก", "ต้มยำกุ้ง", "ตำนานสมเด็จพระนเรศวรฯ" และอีกหลายเรื่อง เขาได้พูดถึงความแม่นยำในคิวบู๊ของ "เวียร์ ศุกลวัฒน์", "มาริโอ้ เมาเร่อ", "เป้ อารักษ์" และ "โตโน่ ภาคิน" ที่ได้มีการเตรียมพร้อมทำการฝึกซ้อมล่วงหน้าร่วมกับทีมสตันต์ก่อนการถ่ายทำจริง เพราะมีแอ็กชันที่หวาดเสียวจนอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้หลายจุด แถมคิวกล้องที่ต้องรอจังหวะเพื่อความต่อเนื่องลื่นไหลอีกมากมาย จนทั้ง 4 เสือสามารถโชว์คิวแอ็กชันได้ไม่แพ้สตันต์ตัวจริงเลยทีเดียว เรียกว่าทุ่มเทกันทุกภาคส่วนกว่าจะได้ผลงานอันสมบูรณ์แบบให้ได้ชมกันบนจอภาพยนตร์

"เป็นฉากที่ยากมาก แม้แต่สตันต์อย่างพวกเรายังบอกว่ายาก เพราะคิวต่อสู้มันเยอะมาก และต้องทำต่อเนื่องกันรอบห้องที่แคบเมื่อเทียบกับจำนวนคน ยิ่งโดยเฉพาะกับนักแสดงยิ่งยากใหญ่ เพราะทุกท่วงท่าคือพระเอกต้องเท่ ต้องมันส์ ดูสมจริง และแน่นอนว่าการผิดคิวเป็นสิ่งที่ต้องระวังเป็นพิเศษ เพราะในฉากนี้มีทั้งอาวุธ เอฟเฟกต์ เยอะไปหมด มีทั้งกล้อง ทั้งโดรนที่ต้องรอจังหวะอีกมากมายในซีนเดียว เราต้องดูความต่อเนื่องครบสูตร คู่นี้จบแล้วคู่ต่อไปทำอะไร ที่สำคัญคือทั้ง '4 เสือ' ต้องได้โชว์เอกลักษณ์ของตัวเอง ทั้งหลบหลีกของ 'มเหศวร' อัดไม่ยั้งแบบ 'เสือดำ' ความแพรวพราวของ 'เสือใบ' และนิ่งแต่หนักของ 'เสือฝ้าย' และอาคมที่ซ้อนอยู่ในคาแร็กเตอร์อีก และมันมีหลายคู่มาก บางทีมาเป็นกลุ่ม อาวุธมาแบบนี้จะตั้งรับแบบไหน ทุกอย่างถูกคิดคำนึงถึงความสนุก สมจริง และปลอดภัยพอ ความยาวทั้งหมดซีนนี้ซีนเดียวเป็นสิบนาที ต้องมีสติที่จะจำอย่างมากเลยครับ

แต่สำหรับนักแสดงในเรื่องนี้ ผ่านการฝึกฝนเวิร์กชอป ผ่านการถ่ายทำในฉากอื่นมา จนผมมองว่าตอนนี้ทั้ง 4 คนสามารถต่อสู้ด้วยตัวเองเหมือนนักสตันต์ตัวจริง เล่นแอ็กชันจริง นักแสดงทำได้ 100% เลย สตันต์แมน ดับเบิล หรือนักแสดงแทนแทบไม่ได้ใช้เลย เขาเล่นเองกันหมด พอทุกคนเต็มที่กับงาน ฉากนี้เลยออกมาดีตามเป้า"

ปิดท้ายที่ตัวแทนทีมนักแสดง "มาริโอ้ เมาเร่อ" ได้เผยถึงเบื้องหลังของอภิมหาฉากแอ็กชันนี้ว่า

"เป็นฉากที่คนเยอะมากครับทั้งตัวหลักและสมทบ วันนั้นมี ‘เสือ’ หลากหลายทิศมาเจอกัน ตะลุมบอนยิงกันกลางงาน เอฟเฟกต์ระเบิดเต็มไปหมด คนเยอะ คิวเยอะ และมีโดรนเก็บภาพกว้างของบรรยากาศงานอีกจนไม่รู้ว่าจะหลบตรงไหน ต้องเล่นให้เต็มทุกพื้นที่ เดือดกันแบบนี้อยู่ 2 วันเต็มๆ ต้องปรบมือให้ทีมงานทุกคนเลยที่สามารถช่วยทำให้เกิดคิวนี้ได้

ในส่วนของคิวแอ็กชันก็ยาก ต้องจำคิวเยอะมากครับ เพราะเป็นซีนที่กล้องลากยาวหลายนาทีในซีนเดียว ถึงเราจะไปซ้อมกันมาแล้วหลายรอบ แต่คิวเยอะขนาดนี้ก็ยังมีผิดคิวได้แผลแตกกันบ้าง 'โอ้' หันไปเห็นเลือดสาดนึกว่าเอฟเฟกต์ ที่ไหนได้แตกจริงก็มีครับ แต่ทุกคนก็พยายามเซฟตี้กันให้ดีที่สุดตลอดการทำงานอยู่แล้วครับ ใครที่ชอบคิวบู๊เดือดๆ อันลิมิต ต้องห้ามพลาดเลยครับ"

สนุก อึ้ง ทึ่ง ว้าว กับโคตรฉากแอ็กชันมันส์เกินต้านของ "เสือ" ได้แล้ว วันนี้ ในโรงภาพยนตร์