หลังจากที่ได้อัพเดทรายได้ของภาพยนตร์ไทยกันไปแล้ว วันนี้ทางเว็บไซต์ Nangdee จึงมาสรุปภาพยนตร์ที่ดีมีคุณภาพ และโด่งดังเป็นที่พูดถึงกันในช่วงปี 2014 ที่ผ่านมามี 20 อันดับจะมีภาพยนตร์อะไรบ้างไปดูกันเลยครับ

20 อันดับหนังดัง หนังดี ประจำปี 2014
 

 

20. Transformers: Age of Extinction  

ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ที่มีจุดแข็งอยู่ที่ภาพ CG  ที่ทำออกมาได้อย่างอลังการสมการรอคอย ถึงแม้ว่าตัวบทภาพยนตร์จะมีความยืดเยื้ออยู่บ้าง แต่พอถึงฉากแอ็คชั่น ต่อสู้ก็ไม่ได้ทำให้แฟนๆ ผิดหวัง
 

 

19. คิดถึงวิทยา

เป็นภาพยนตร์ Feel Good  ที่มีการดำเนินเรื่องอย่างเรียบๆ ไม่ได้มีอะไรตื่นเต้น แต่บทภาพยนตร์กลับสร้างความประทับใจให้กับคนชมได้ ทำให้เราเห็นมุมมองการใช้ชีวิตที่แตกต่าง พร้อมกับมีความโรแมนติคจากความรักที่เกิดขึ้นผ่านไดอารี่ที่ใครก็คาดไม่ถึง ผสมกับความน่ารักของเด็กๆในภาพยนตร์ ทำให้ภาพยนตร์คิดถึงวิทยาเป็นภาพยนตร์ไทยที่มีคุณภาพอีกเรื่องหนึ่ง 
 

 

18. Divergent

ภาพยนตร์สร้างจากวรรณกรรมเยาวชนขายดี ที่มีนักแสดงหญิงเป็นนักแสดงนำของเรื่อง ที่น่าจับตามองอีกเรื่องหนึ่ง  บทภาพยนตร์มีทั้งแอ็คชั่น ความรัก มีการปูเรื่องที่กระชับ แสดงให้เห็นถึงความเป็นตัวตนของนางเอกได้ดี รวมถึงที่มาที่ไปของจุดเริ่มต้นของภาพยนตร์นี้
 

 

17. The Amazing Spider-Man 2

เรียกได้ว่าเป็นภาพยนตร์ซุปเปอร์ฮีโร่อีกตัวหนึ่งที่เป็นที่ชื่นชอบของใครหลายๆคน ซึ่งในภาคนี้มีงานด้านภาพ และเสียงที่ช่วยสร้างความตื่นเต้น ความสนุก รวมถึงฉากแอ็คชั่นที่สดใหม่ ตื่นตาตื่นใจ พร้อมกับมุมกล้องที่ทำออกมาได้ลื่นไหล ดูสนุก และ มันส์ แอบมีดราม่าเล็กๆ ในบทภาพยนตร์ 
 

 

16. Lucy

เป็นภาพยนตร์ที่มีข้อดีในการเล่าเรื่องโดยใช้แนวคิดที่น่าสนใจ  ไม่เน้นฉากแอ็คชั่นมากแต่กลับเน้นไปที่ปรัชญาและทฤษฎีทางความคิดแนววิทยาศาสตร์  พร้อมกับอธิบายแนวคิดนั้นด้วยฉากที่เสริมเข้ามาทำให้เข้าใจง่ายมากยิ่งขึ้น  
 

 

15. Dawn of the Planet of the Apes

เป็นภาพยนตร์ภาคต่ออีกเรื่องที่กลับมาสร้างความประทับใจอีกครั้งหนึ่ง โดยในภาคนี้มีความเข้มข้นของเนื้อหาในการดำเนินเรื่อง ความดราม่า ความกดดัน  เข้มข้นมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังแฝงแง่คิดให้เราอีกด้วย นอกจากนั้นฉากต่อสู้ แอ็คชั่นทำออกมาได้อย่างแนบเนียน เรียกได้ว่า CG  ของภาพยนตร์เรื่องนี้เทพสุดๆ
 

 

14. Edge of tomorrow

เรียกได้ว่าเป็นภาพยนตร์ไซไฟแนวใหม่ ที่มีจุดเด่นอยู่ที่ตัวบทหนังอย่างแท้จริงด้วยประเด็นที่ว่าพระเอกสามารถรีสตาร์ทตัวเองใหม่ทุกครั้งที่ตาย มันจึงทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้น่าติดตามตลอดทั้งเรื่อง รวมถึงมุมมองภาพ การตัดต่อ ที่ถึงแม้จะเป็นการย้อนเวลามาจุดๆเดิม แต่ไม่ได้ทำให้เราเบื่อ รวมถึงฉากแอ็คชั่นที่ทำได้มันส์ถึงใจ 
 

 

13. The Hunger Games: Mockingjay - Part 1

เป็นภาพยนตร์อีกหนึ่งเรื่องที่มีกระแสดีทั้งการพูดถึง รวมถึงรายได้ที่ถล่มทลายทั่วโลก แต่ภาพยนตร์ในภาคนี้ที่หลายคนต่างรอคอยก็ไม่ได้ทำให้เสียใจแต่อย่างใด ถึงแม้ว่าจะมีบทที่ยืดเยื้ออยู่บ้าง แต่ถือเป็นการปูเรื่องเพื่อนำไปสู่ภาคต่อไป ฉากแอ็คชั่นในภาคนี้ถือว่าน้อย แต่ทำออกมาได้อลังการสมกับเป็นภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์แห่งปี
 

 

12. Captain America: The Winter Soldier

การกลับมาอีกครั้งของภาพยนตร์กัปตันอเมริกาที่มาสร้างความประทับใจให้คุณอีกครั้ง ด้วยบทภาพยนตร์ที่มีน้ำหนัก คาดเดายาก น่าติดตาม รวมถึงฉากต่อสู้ที่ดุเดือดสมจริง ทรงพลัง ฉากแอ็คชั่นต่อสู้แบบไร้เอฟเฟ็กต์ จึงเป็นส่วนประกอบสำคัญที่ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นที่ชื่นชอบของใครหลายๆคน 
 

 

11. Maleficent

เป็นการนำตัวละครในเทพนิยายมาสร้างเป็นภาพยนตร์ ซึ่งตัวบทภาพยนตร์ มีเนื้อหาที่น่าติดตาม มีการเล่าเรื่องตามแบบฉบับของเทพนิยายที่ทำให้เข้าใจง่าย มีความน่ารัก ความอบอุ่นที่เราสามารถพบได้ในภาพยนตร์เรื่องนี้ นอกจากนั้นก็มีฉากแอ็คชั่นที่ตื่นตาตื่นใจ ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้มีความกลมกล่อม ครบรส พร้อมกับเราจะได้เห็นฉากสวยๆ ในภาพยนตร์เรื่องนี้อีกด้วยครับ
 

 

10. How to Train Your Dragon 2

ถือเป็นการกลับมาอีกครั้งของแอนิเมชั่นที่หลายๆคนคิดถึง กับเจ้าเขี้ยวกุด มังกรเพลิงนิลแสนซุกซนกับฮิคอัพเด็กผู้ขี้แพ้ที่ผันตัวเองกลายมาเป็นฮีโร่ โดยในภาคนี้  โดยในภาคนี้จะมีเนื้อหาที่เข้มข้น ดราม่าหนักกว่าภาคแรก แต่ก็ไม่ได้ทำให้ภาพยนตร์นั้นมีความสนุกน้อยลง อีกทั้งยังมีฉากแอ๊คชั่นที่ตระการตา สนุกสนาน มีฉากสงครามยิ่งใหญ่
 

 

9. The Maze Runner

เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์ที่ถูกดัดแปลงมาจากนิยายขายดี เป็นภาพยนตร์วัยรุ่นที่มีนักแสดงนำไม่ได้มีชื่อเสียงโด่งดังมากมาย แต่กลับเป็นที่น่าสนใจ เพราะมีการนำเสนอเรื่องราวที่น่าติดตาม  ถึงแม้ว่าการดำเนินเรื่องจะไม่ได้รวดเร็ว ความสนุกของภาพยนตร์เรื่องนี้เกิดจากความสงสัย ว่าในเขาวงกตมีอะไร ทำไมถึงมาอยู่ที่นี้ จะหาทางออกกันอย่างไร โดยที่มีแอ็คชั่นให้ตื่นเต้นอยู่พอประมาณ 
 

 

8. The Lego Movie

เรียกได้ว่าเป็นภาพยนตร์แอนิเมชั่นที่มีจุดขายเป็นตัวเลโก้ที่มีลักษณะแข็งทื่อ แต่ไม่ได้เป็นอุปสรรคของภาพยนตร์เรื่องนี้เลย  ถือเป็นการนำจินตนาการในวัยเด็กมาโลดแล่นบทจอภาพยนตร์ได้อย่างเพอร์เฟค ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่เพียงแต่จะสร้างความสุขให้กับเด็กๆ กับผู้ใหญ่ที่ได้มาชมก็จะได้ความประทับใจกลับไปด้วยครับ เพราะด้วยตัวบทที่สอดแทรกมุขตลก มุขฮา อยู่ตลอดทั้งเรื่อง
 

 

7. Big hero 6

เป็นภาพยนตร์แอนิเมชันสามมิติ ที่เรียกได้ว่ากลมกล่อม มีทั้งความตลก ผจญภัย รวมถึงการเป็นซูเปอร์ฮีโร่ โดยในภาพยนตร์เรื่องนอกจากจะมีเจ้าเบย์แม๊กซ์คาเรคเตอร์สุดน่ารักที่ทำให้เราหลงรักได้อย่างง่ายๆ ตัวบทภาพยนตร์ก็ส่งผลทำให้ภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่องนี้ มีความสนุก ครบรส สร้างรอยยิ้ม และปาดน้ำตาได้พร้อมๆกัน
 

 

6. Begin Again

เรียกได้ว่าเป็นภาพยนตร์รักที่มีเพลงเพราะแห่งปี ภาพยนตร์เรื่องนี้จะทำให้คุณรู้สึกอบอุ่นหัวใจไปกับบทเพลงที่ไพเราะ จนทำให้คุณลืมเวลาในการชมภาพยนตร์ไปอย่างสิ้นเชิง เป็นภาพยนตร์รักที่ไม่ดราม่า แต่โรแมนติค คอมเมดี้ ที่จะทำให้คุณยิ้มได้โดยไม่รู้ตัว
 

 

5. X-Men: Days of Future Past

เป็นการย้อนอดีตเพื่อกลับไปแก้ไขอนาคตที่เลวร้าย ในภาคนี้เหล่า X Men อาจจะมีการบู้แอ็คชั่นที่น้อยกว่าภาคอื่นๆที่ผ่านมา แต่มันถือเป็นจุดที่กลับไปแก้ไขข้อผิดพลาดในอดีตเพื่อให้จักรวาล X Men  มีชีวิตอีกครั้งหนึ่ง  ในภาคนี้มีทั้งความดราม่า แอ็คชั่นที่ทำออกมาได้อย่างลงตัว มีความตราตรึงใจ ประทับใจ กับการผสมผสานพลังความสามารถของแต่ละคนเพื่อช่วยเหลือและเกื้อหนุนในการต่อสู้
 

 

4. Guardians of the Galaxy

ภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่แนวสงครามอวกาศ   ที่เป็นมหากาพย์ภาพยนตร์แอ็คชั่นผจญภัยสุดมัน มีการดำเนินเรื่องได้อย่างลื่นไหล บทเข้าใจได้ง่าย และมีความสนุก มีมุขตลกสอดแทรกอยู่ตลอด เรียกได้ว่าเป็นภาพยนตร์แอ็คชั่นผสมคอมเมดี้ได้อย่างลงตัว อีกทั้งยังมีตัวละครเอกที่มีคาเรคเตอร์ที่โดดเด่น มีเสน่ห์ ภาพยนตร์เรื่องนี้จะทำให้คุณสามารถเศร้าจนเสียน้ำตา และ มีความสุขจนหัวเราะออกมาได้ 
 

 

3. The Hobbit: The Battle of the Five Armies

ภาพยนตร์แนวผจญภัย แฟนตาซี ที่ถือเป็นบทสรุปหนังไตรภาคที่สมการรอคอย โดยในภาคนี้เรียกได้ว่า การกำกับภาพทำออกมาได้ดี CG มีความอลังการ โดยเนื้อเรื่องในภาคนี้เน้นฉากแอ๊คชั่นที่จัดเต็มยาวถึง 45 นาที นอกจากความสนุก ความมันส์ ที่คุณจะได้รับจากหนังเรื่องนี้ คุณยังได้เห็นถึงความรักของเพื่อน ครอบครัว รวมถึงความสามัคคี เรียกได้ว่าเป็นการปิดฉากจบได้อย่างสวยงาม และปูเรื่องราวไปสู่ The Lord of  The Ring
 

 

2. Gone Girl

ภาพยนตร์แนวทริลเลอร์ ระทึกขวัญที่สามารถสร้างความอึดอัดให้กับคนดู ซึ่งคุณไม่สามารถคาดเดาอะไรได้เลย แถมยังสร้างความสับสนสับขาหลอกจนคนดูสับสน  ภาพยนตร์เรื่องนี้ทำให้เราลุ้น ตื่นเต้นได้โดยที่ไม่มีบทบู้ ยิงระห่ำ แต่กลับทำให้การชมภาพยนตร์ที่มีความยาวเกือบสามชั่วโมงนั่งไม่ติดเบาะกันเลยทีเดียว นอกจากบทภาพยนตร์ที่ดี เฉียบคม แล้วการถ่ายทำด้านภาพก็ทำออกมาได้อย่างดีมากเลยทีเดียว ภาพยนตร์เรื่องนี้จึงเป็นอีกเรื่องที่ใครยังไม่ได้ชม ควรรีบหามาชมกันนะครับ
 

 

1. Interstellar

ภาพยนตร์แนววิทยาศาสตร์ Sci-fi อวกาศ ที่มีเนื้อหาจริงจัง กำกับโดยผู้กำกับฝีมือดีหาตัวจับยากอย่าง คริสโตเฟอร์ โนแลน ภาพยนตร์เรื่องนี้มีการนำหลักทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์มานำเสนอทำให้เป็นประเด็นโต้เถียงกันอยู่มาก แต่ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีที่ทำให้คนชมภาพยนตร์ได้ออกมาคิดต่อจากที่ได้ชมภาพยนตร์จบแล้ว ถึงแม้ว่าบทภาพยนตร์จะมีเนื้อหาที่จริงจังแต่ตัวบทภาพยนตร์ได้สอดแทรกเรื่องราวความรักระหว่างครอบครัว ความดราม่า เรียกได้ว่าเป็นภาพยนตร์ที่มีดีทั้งบทภาพยนตร์ ภาพ CG ที่เพียบพร้อม จึงทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้พุ่งทยานขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งได้อย่างสบาย
 

และนี้คือ 20 อันดับหนังดี หนังดัง ประจำปี 2014 ของเว็บไซต์ Nangdee ส่วนในปี 2015 ภาพยนตร์เรื่องไหนที่ที่ดัง ดีมีคุณภาพทางเว็บไซต์ Nangdee จะนำมาอัพเดทให้ทราบกันอย่างแน่นอน