ข่าว > ข่าวสัพเพเหระทั้งหมด > ข่าวสัพเพเหระ

"Paradise" ซีรีส์ดราม่าสุดฮอตเดินทางสู่ตอนจบสุดระทึก สตรีมแบบรวดเดียวจบได้เลยบน Disney+ Hotstar เท่านั้น

4 มี.ค. 2568 17:09 น. | เปิดอ่าน 28 | แสดงความคิดเห็น
แชร์หน้านี้ แชร์หน้านี้
 

 

"Paradise" ซีรีส์ดราม่าออริจินัลสุดเข้มข้นจาก Disney+ Hotstar ที่ถูกพูดถึงมากที่สุดแห่งปีเดินทางมาถึงตอนสุดท้ายที่ทุกคนรอคอย ด้วยเสียงชื่นชมจากนักวิจารณ์ภาพยนตร์และผู้ชมด้วยคะแนน IMDb 8/10 และ 82% บน Rotten Tomatoes (คะแนนเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2568) การันตีถึงความร้อนแรงและความเฉียบคมของเรื่องราวสุดเข้มข้นที่บอกเล่าผ่านซีรีส์เรื่องนี้ ตอนจบที่หลายคนกำลังตั้งหน้าตั้งตารอคอยมาแล้ว พร้อมสตรีมให้ทุกคนได้มาดำดิ่งไปกับความจริงที่อาจเปลี่ยนทุกอย่างไปตลอดกาล รับชมแบบมาราธอนครบ 8 ตอนแล้ววันนี้บน Disney+ Hotstar เท่านั้น

 

Paradise ถ่ายทอดเรื่องราวของ เซเวียร์ คอลลินส์ (รับบทโดย Sterling K. Brown) หัวหน้าทีมอารักขาประธานาธิบดี คาล แบรดฟอร์ด (รับบทโดย James Marsden) ซึ่งถูกลอบสังหารอย่างปริศนา พร้อมกับกล่องเก็บความลับของชาติที่หายไป ท่ามกลางแรงกดดันจากรัฐบาลและสื่อ เซเวียร์กลับกลายเป็นผู้ต้องสงสัยหมายเลขหนึ่ง ทำให้เขาต้องออกตามหาความจริง ในขณะที่เผชิญหน้ากับอำนาจมืดที่อาจควบคุมทุกอย่างในเมืองนี้ กลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการเปิดเผยความจริงอันน่าตกตะลึงที่อาจเปลี่ยนแปลงชีวิตของผู้คนในเมืองไปตลอดกาล

 

Paradise เป็นซีรีส์ที่สอดแทรกประเด็นทางสังคมและการเมืองไว้อย่างแยบยล ทั้งเรื่องของอำนาจ การควบคุมข้อมูล และเสรีภาพของประชาชน และสิ่งที่ทำให้ Paradise แตกต่างจากซีรีส์ดราม่าทริลเลอร์ทั่วไป คือวิธีการเล่าเรื่องที่คาดเดาไม่ได้ ทุกตอนเต็มไปด้วยปมปริศนา จุดหักมุม และเบาะแสที่ซ่อนอยู่ในรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ทำให้ผู้ชมต้องคอยสังเกตและวิเคราะห์ไปพร้อมกับตัวละคร จึงเป็นสาเหตุที่ได้รับเสียงชื่นชมจากนักวิจารณ์ภาพยนตร์และผู้ชมด้วยคะแนนล้นหลามจากหลายแพลตฟอร์มทั้ง IMDb 8/10 และ 82% บน Rotten Tomatoes (คะแนนเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2568)

 

นักแสดงนำ Sterling K. Brown ผู้เคยเข้าชิงรางวัลอันทรงเกียรติระดับโลกอย่างออสการ์ ประกบคู่กับ James Marsden ด้วยเคมีที่เข้ากันอย่างลงตัว พวกเขาถ่ายทอดตัวละครได้อย่างสมจริงและทรงพลัง คาลกับเซเวียร์นั้นไม่มีอะไรที่เหมือนกันเลย แต่ความต่างขั้วของพวกเขานำมาซึ่งบทสนทนาที่มีไหวพริบ ทำให้ทุกฉากเต็มไปด้วยความเข้มข้นและอารมณ์ที่ซับซ้อน

 

นอกจากเส้นเรื่องที่เฉียบคม ผู้สร้าง Dan Fogelman (เจ้าของผลงานชื่อดัง This Is Us) หยิบยกเพลงจากยุค 80-90 อย่าง Another Day in Paradise, We Built This City และ Eye of the Tiger มาใช้ในซีรีส์ได้อย่างเหมาะเจาะ เพิ่มความลึกและพลังให้กับฉากสำคัญของเรื่อง รวมถึงรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ถูกซ่อนอยู่ในแต่ละฉาก เช่น เมืองที่ไร้สัตว์เลี้ยง ป้ายแจ้งเตือนว่าพระอาทิตย์จะตกช้ากว่าปกติ และอุปกรณ์เทคโนโลยีที่ควบคุมทุกอย่าง ล้วนเป็นกุญแจสำคัญที่นำไปสู่ความจริงเบื้องหลังโลกใบนี้

 

พิเศษสุด ๆ สำหรับใครที่กำลังอยากลองสตรีมหลากคอนเทนต์คุณภาพบน Disney+ Hotstar เพราะเพิ่งเปิดตัวแคมเปญเอาใจทุกคนให้มาร่วมกันหา Perfect Match คอนเทนต์ที่ใช่ในแบบของคุณกับแคมเปญ “Valentry เทศกาลลองรัก” ที่ให้ทุกคนทดลองชมคอนเทนต์เอเชียหลากหลายแนวแบบไม่มีค่าใช้จ่าย โดยรับชมได้เฉพาะตอน สูงสุดถึง 7 ตอน ตั้งแต่วันที่ 10 กุมภาพันธ์ – 31 มีนาคม 2568 เท่านั้น

 

: Disney+, Disney+ Hotstar, Paradise

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • "Daredevil: Born Again" กลับมาทวงบัลลังก์ พร้อมนิยามใหม่ของการต่อสู้เพื่อนครนิวยอร์ก วันนี้ บน Disney+ Hotstar
  • "Andor" ซีซัน 2 เผยโปสเตอร์และตัวอย่างใหม่อย่างเป็นทางการ เตรียมสตรีม 23 เมษายนนี้ บน Disney+ Hotstar
  • มาแรง! Win or Lose ซีรีส์ออริจินัลเรื่องแรกจากพิกซาร์ ชวนสะท้อนมุมมองที่แตกต่าง ที่มีมากกว่าการแข่งขันกีฬา
  • เตรียมพบเรื่องราว 8 มุมมองชวนให้มองมุมที่แตกต่าง ซีรีส์ออริจินัลเรื่องแรกจากพิกซาร์ "Win or Lose"
  • Disney+ Hotstar ไลฟ์ส่งตรงจากกสหรัฐฯ งานประกาศรางวัล Oscar® ครั้งที่ 97 ปักหมุดรอชมพร้อมกัน 3 มีนาคมนี้!
  •  
     
     
    ร่วมแสดงความคิดเห็น
     
    ชื่อ :
     
    ความคิดเห็น :