หนังเล่าความเป็นมนุษย์แตกฉาน สนุก เดือดดาล ชวนติดตามตลอด 3.26 ชม. คุ้มค่า สมราคา มาร์ติน สกอร์เซซี่
Killers of the Flower Moon ภาพยนตร์ลำดับที่ 29 ของชายผู้สร้างตำนานให้กับวงการฮอลลีวู้ด อย่าง ลุงมาร์ติน สกอร์เซซี่ ที่ครั้งนี้เขาได้ทำมาตรฐานหนังของตัวเองได้สูงกว่าเดิม โดยการบอกเล่าเรื่องราวของการฆาตกรรมหมู่ของชาวโอเสจ ผ่านตัวละครอย่าง เออร์เนสต์ เบิร์คฮาร์ท ชายผู้นำพาความรัก และ การทรยศหักหลังมาสู่คนรักอย่าง มอลลี่ ไคล์
Killers of the Flower Moon เป็นการนำเอาเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ที่สะเทือนอารมณ์ของชาวอเมริกาอินเดียนและชาวเผ่าโอเสจมาเล่าผ่านมุมมองความรักอันแสนหวานอมขมกลืนได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งการทรยศหักหลัง วัฒนธรรมอันแสนน่าหลงไหลของชาวอเมริกันอินเดียน การเคารพธรรมชาติดุจพ่อแแม่ผู้ให้กำเนิด ผสมผสานกับเล่ห์เหลี่ยมของคนขาวที่หวังจะกลืนกินและช่วงชิงสิ่งที่เป็นของชนพื้นเมืองเอามาไว้แต่เพียงผู้เดียวได้อย่างกลมกล่อม
การถ่ายทอดของ ลุงมาร์ติน สกอร์เซซี่ ในครั้งนี้เขาได้ทำการไปสำรวจพื้นที่จริงและลงไปคุยกับหัวหน้าเผ่าโอเสจด้วยตัวเอง เลยทำให้มีความละเมียดละไมและใส่ใจในรายละเอียดทุกกระเบียดนิ้ว ไม่ว่าจะเป็นพิธีกรรมทางความเชื่อ ภาษา วัฒนธรรมประเพณีของชาวเผ่าโอเสจและชาวอเมริกันอินเดียนได้อย่างน่าหลงไหลและงดงาม พร้อมกับบอกเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ผ่านความละโมบโลภมากได้อย่างแยบยล พร้อมบอกความน่ากลัวที่ถ้ากำหนดเรทแบบจริงๆ จังๆ อาจจะติดเรท R เลยก็ว่าได้ในบางฉากทำให้เราตระหนักถึงความน่ากลัว และการถูกล่วงละเมิดสิทธิ์ต่างๆ ทั้งทางการประพฤติและกฏหมายที่ชาวเผ่าโอเสจและชาวอเมกิกันอินเดียนต้องพบเจอ
อีกหนึ่งความดีงามของนักแสดงนำทั้งสามไม่ว่าจะเป็น ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ แสดงเป็น เออร์เนสต์ เบิร์คฮาร์ท , ลิลี่ แกลดสโตน แสดงเป็น มอลลี่ ไคล์ และ โรเบิร์ต เดอ นิโร แสดงเป็น วิลเลี่ยม เฮล ที่เข้าฟาดฟันกันด้วยการแสดงระดับพระกาฬ โดยเฉพาะ มอลลี่ ไคล์ เธอสามารถแสดงผ่าน สีหน้า และดวงตาได้หนักแน่นราวกับหินผาผ่านฉากที่หนักอึ้งด้วยความเงียบที่ดังที่สุดและทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยดูมาเลยก็ว่าได้
สำหรับเรานี่ไม่ใช่หนังประวัติศาสตร์ที่ถูกเล่าออกมาอย่างดาษดื่น แต่มันคือหนังที่เล่าถึงศักศรีดิ์และความเป็นมนุษย์ได้อย่างแตกฉานผ่านสายตาของ ลุงมาร์ติน สกอร์เซซี่ ที่ทั้งสนุก เดือดดาล และชวนติดตามตลอดกว่า 3 ชั่วโมง 26 นาที เลยทีเดียว หนังดีขอการันตีคะแนนที่ 9 / 10