หากใครที่เป็น คอภาพยนตร์ที่เข้าโรงภาพยนตร์เป็นประจำก็คงจะได้ผ่านตากันไปแล้วสำหรับ ตัวอย่างที่เรียกกันว่า Trailer ที่มาเรียกน้ำย่อยสร้างความกระสัน ทำให้อยากดูเหลือเกิน สำหรับ ภาพยนตร์ย้อนยุค ที่ดู ดิบ เถื่อน สะใจ แต่กลับแปลกไปด้วยความสวยงามของภาพและ สีสันที่ถูกย้อมเปลี่ยนไปตามอารมณ์ เอาล่ะ 300 ขุนศึกพันธุ์สะท้านโลก เรื่อง นี้ หลาย ๆ คนที่ผมรู้จักได้ดูตัวอย่างแล้วก็ถามกันมากเลยว่าเป็นภาพยนตร์อะไร เนื้อหาเป็นอย่างไร ผมเองก็เป็นคนหนึ่งในจำนวนนั้นเหมือนกันครับเมื่อไปชมมาแล้วก็อดที่จะมาโอ้ อวดไม่ได้เช่นกันเดี๋ยวจะเล่าให้ฟังถึงความชอบ ไม่ชอบให้ฟังกันนะครับ
ทีนี้มาเล่าปูเรื่องราวกันสักนิด อันภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องราวของสงครามในยุค เปอร์เซียเรืองอำนาจ ได้ยกทัพสร้างสงคราม กวาดล้างผู้คนไปเป็นทาสและเชลยศึกจำนวนมาก และในที่สุดจึงเข้ารุกรานกรีกเพื่อที่จะสร้างอาณานิคมของตนไปให้ไกลที่สุด เท่าที่จะเป็นไปได้ของกษัตริย์เปอร์เซีย นาม เซอร์ซิส หากแต่ ไพร่พลจาการทำสงครามของกษัตริย์แห่งเปอร์เซียที่มีมากมายจากการยกทัพรุกราน ก่อสงครามและกวาดต้อนเชลยและทาสมากขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อทำสงครามต่อไปเป็นเรือนแสนเรือนล้าน กลับต้องมาเจอเข้ากับ นักรบสปาร์ตั้น เพียงหยิบมือ 300 คน ต้านเอาไว้อย่างชนิดที่ทำอะไรไม่ได้ เซอร์ซิส ที่ ทุ่มกำลังพลไม่อั้นแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ แต่ด้วยอะไรที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ตามมาอีกมากมายคงต้องไปชมกันเองแล้วล่ะ ครับไม่อยากเล่ามากเดี๋ยวพาลเสียอารมณ์กันหมด
เนื้อเรื่อง
เริ่มจากการเล่าประวัติของชาวสปาร์ตั้นที่ต้องมีความเข้มแข็งเป็นพิเศษต้อง เป็นชนชาตินักรบตั้งแต่เกิดจนตาย พิธีกรรมและพิธีการต่าง ๆ ที่เตรียมตัวเป็นนักรบที่ไม่เคยยอมแพ้ใครนั้นเกิดจากอะไร จะถูกปูอยู่ในต้นเรื่องแล้วก็กล่าวถึงว่าทำไมกษัตริย์ชาตินักรบที่ชื่อ ลีโอนิดัส ( เจอร์ราด บัตเลอร์ ) ที่เป็นกษัตริย์ที่นำทหารนักรบ 300 คน ต่อสู้กับกองทัพเปอร์เซีย นับล้านคนอย่างองอาจทระนง จึงสามารถทำให้ ชนชาติกรีก ลุกขึ้นต่อสู้เพื่อปกป้องแผ่นดิน
ภาพยนตร์เรื่องนี้อาจจะบอกได้ว่าเป็นภาพยนตร์ที่สร้างได้ดีมาก ๆ เรื่องหนึ่งเนื่องจากจับเอาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในประวัติศาสตร์ ที่มาสร้างขึ้นเป็นรูปธรรม และใส่จิตวิญญาณเข้าไปในเนื้อหาที่ทำให้ผมรู้สึกได้ว่า พระเอก เจอร์ราด บัตเลอร์ พ่อหนุ่มหน้าตาเหี้ยมเกรียมคนนี้ เป็นกษัตริย์ ลีโอนิดัส จริง ๆ เพราะ ในทุกส่วนของตัวภาพยนตร์ทำได้สมเหตุสมผล จากการที่ติดตามภาพยนตร์เรื่องนี้มาตั้งแต่แรก ๆ ผมเคยนึกว่า มันจะเป็นไปได้อย่างไรที่คนสามร้อยคนจะสามารถต้านคนจำนวนเป็นล้านคนได้ ไม่มีทางเลย แล้วพอมาดูภาพยนตร์แล้วก็อ้อมันมีเหตุมีผลของมันอยู่ และสามารถบอกได้เลยว่าจริง ๆ แล้ว ถ้าไม่เกิดเหตุการณ์ทางการเมืองเข้าแทรก การคอรัปชั่นของขุนนางเข้ามาเกี่ยวพัน นักรบสามร้อยคนนี้ อาจจะต้านกองทัพเปอร์เซียได้อีกนาน เพราะอย่างไรเสียน้ำน้อยก็ย่อมแพ้ไฟวันยันค่ำ แต่ผมว่าเค้าก็น่าจะสามารถต้านได้นานทีเดียวมันมีเหตุผลครับ ลองไปชมกัน
กราฟฟิก
สิ่งที่ประทับใจมากเป็นพิเศษหรือเรียกว่า ชอบเลยก็ว่าได้ก็คือ งานกราฟฟิกคอมพิวตอร์ที่เรื่องนี้ต้องลงทุนมหาศาลเลยผมว่า เพราะทำได้ดีมาก ๆ ในทุกฉากทุกตอน บางตอนดูไม่ค่อยเนียนนักแต่พอมาคิดแล้ว ผมว่าเค้าจงใจทำให้มันเป็นงานที่ดูไม่สมจริงจนเกินไปเนื่องจากมันจะดูรุนแรง ดูโหดเหี้ยมและสยองเกินไปครับอย่างเช่น ภาพศพที่ถูกแขวนบนต้นไม้เค้าพยายามใช้ภาพกราฟฟิก และสีที่ช่วยลดความสยองลงแต่คงไว้ด้วยความหดหู่และยังมีอีกหลายฉากครับ แต่สำหรับในส่วนของนักรบทั้งสามร้อยคนแล้วไม่ต้องปั้นแต่งอะไรด้วยคอมพ์ฯเลย ทุกคนหุ่นบึ้กสวยงามสมเป็นนักรบและไม่มีคนไหนติดหล่อครับ ทุกคนดูเหี้ยมเกรียม ดุดัน บางฉากดูบ้า ๆ ด้วยซ้ำไป และโดยเฉพาะ การย้อมสีภาพบางภาพบางตอน ทำให้มู้ดของเรื่องดีมาก ๆ ฉากสงบ ๆ ก็ใช้แสงใช้สีที่เหมาะ ฉากรบฉากประจัญบานก็ใช้สีโทน แดงดำ ดุเดือดเลือดพล่านดี แต่สิ่งที่ขอชมเลย ก็ตรงที่ไม่มีเลือดจริง ๆ ให้เห็นสักเท่าไร แต่จะใช้ เลือดที่เป็นภาพกราฟิกสวยงามสาดกระจายสื่อออกมาแทนและสีของเลือดไม่สดมาก จึงทำให้ภาพยนตร์ดูไม่โหดเหี้ยมจนเกินไปครับ อีกทั้งบางฉากที่ต้องการเน้นความชัดเจนหรือสื่อภาพออกมาให้เด่นในบางช่วงบาง ฉากเค้าก็ใช้วิธีการ สโลว์ภาพ ผสมผสานการการเล่นแสงและสีทำให้เราดู ๆ ไปแล้วเนียนตา ดูนุ่มและสวยงามเป็นเอกลักษณ์ดีครับ
ดารา
ส่วนดาราที่ใช้แสดงเรื่องนี้ก็น่าจะแจ้งเกิดได้เลยทีเดียว สำหรับ เจอร์ราด บัตเลอร์ แสดงได้ดีมากทีเดียวครับ สมบทบาท ในเรื่องนี้ดูไม่หล่อครับแต่หุ่นเท่ห์เป็นบ้า ซิกส์แพ็คสุด ๆ เลยครับ ส่วนคนอื่น ๆ ก็เล่นได้ดีแม้จะเป็นเพียงตัวประกอบก็ตาม อีกอย่างผมจะดูผ่าน ๆ เลยไปเพราะ ผมไม่ค่อยแข็งแรงเรื่องดาราครับ จะดูเนื้อภาพยนตร์กับการแสดงของตัวละครเป็นหลัก แต่ก็ทราบข่าวมาเหมือนกันว่าพระเอกเรื่องนี้ เจอร์ราด บัตเลอร์ เคยถูกทาบทามให้ไปแสดงเป็น เจมส์ บอนด์ ตอนล่าสุด คาสิโนรอแยล ด้วย แต่ไม่ทราบเหตุผลกลใดจึงไม่รับเลือกแต่ก็ดีแล้วครับ ไม่งั้นจะติดภาพสายลับเสียเปล่า ๆ แต่อีกคนที่น่าสนใจก็คือ กษัตริย์ เซอร์ซิส แห่งเปอร์เซีย ที่แสดงโดย โรดริโก้ นัก แสดงหนุ่มชาว บลาซิลเลี่ยน ที่ตัวจริงหล่อมาก ๆ แต่ต้องมาแต่งหน้าซะจำไม่ได้เลย ลองไปหาภาพดูกันเองนะครับ รู้สึกในเวบฯนี้ก็มีมาโพสท์ไว้เหมือนกัน หล่อมาก และ ตัวใหญ่มาก บอดี้สวยงาม ส่วนสูงถึงสองเมตรกว่าทำเอา เจอร์ราด บัตเลอร์ ตัวเล็กไปเลยครับ
การกำกับ
ผมว่าส่วนนี้น่าสนใจมากครับ บทบาทของภาพยนตร์สงครามไม่ได้มีอารมณ์อะไรมากไปกว่าการสู้รบฉากนองเลือด แต่สำหรับเรื่องนี้มีเลิฟซีนด้วยนะครับทำออกมาสวยงามไม่มีที่ติ ได้อารมณ์ดีมากอีกทั้งฉากร่างทรงสาวที่ทำนายโชคชะตาให้กับ กษัตริย์ ลีโอนิดัส ก็ ทำได้สวยงามไม่มีที่ติเช่นกันและไม่น่าเกลียดเสียด้วยซ้ำ แต่ผมตินิดเดียวทำไม๊ทำไมต้องเซ็นเซอร์ด้วย ภาพออกมาไม่ได้น่าเกลียดอะไรเลยครับ เซ็นเซอร์ซะหมดความสวยงามเลย
อีกส่วนของการกำกับคือ ภาพยนตร์เรื่องนี้ เค้ากล้าที่จะบอกเลยว่า ถ่ายทำในสตูดิโอ บนฉากบลูสกรีนและกรีนสกรีนเท่านั้น ฉากหลังส่วนใหญ่เป็นคอมพิวเตอร์กราฟฟิก ดังนั้นดาราทั้งหลายต้องเล่นกับสิ่งที่มองไม่เห็น ดังนั้นการกำกับมีส่วนอย่างยิ่งที่จะทำให้ภาพออกมาสมบูรณ์ อันนี้ต้องเก่งครับนับถือ อีกทั้งงานกราฟฟิกก็อย่างที่บอก ทำได้เนียนสวยงามและฝีมือดีเป็นอย่างยิ่ง ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็เลยถือว่าค่อนข้างสมบูรณ์ ด้วยเนื้อหา ดารา และงานด้านภาพ ฉาก แต่สิ่งที่ผมไม่ชอบก็มีอยู่บ้างเหมือนกันครับ อาทิ สัตว์พาหนะสงครามทั้งหลายที่มาเข้าฉากดูน้อยเกินไป และเมื่อมีมาแล้วก็เหมือนไม่ได้ให้ความสำคัญเท่าใดนัก และเหล่าอสูรกายบางตนดูไปแล้วเหมือนภาพยนตร์เทพนิยายเกินไป เลยทำให้ความสมจริงลดลงไปนะในความคิดของผมแต่มองอีกมุมผู้สร้างคงจงใจทำ สร้างตัวละครเหล่านี้ขึ้นมาเป็นสีสันไม่ให้มันเป็นภาพยนตร์สงครามของมนุษย์ ที่โหดร้ายมากจนเกินไปเท่านั้นเอง
เมื่อผมได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้จบลง ผมได้ยินผู้ชมทั้งโรง ปรบมือให้ภาพยนตร์เรื่องนี้มากทีเดียว แสดงว่าส่วนใหญ่ดูแล้วจะชอบภาพยนตร์เรื่องนี้ สำหรับผมผมถือว่าผมชอบมากและผมก็ปรบมือให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยความเต็มใจ ครับ สำหรับใครที่รอจะไปชม ก็ของแสดงความยินดีด้วยนะครับนี่เป็นภาพยนตร์ที่น่าดูอย่างยิ่งของปีนี้ ไม่ได้เชียร์นะครับผมหวังเอาว่าคนที่ไปดู นเรศวรแล้วรักชาติมากขึ้น ภาพยนตร์เรื่อง 300 นี้ผมไม่ได้เอามาเปรียบเทียบกับภาพยนตร์เจ้าอย่าง นเรศวรนะครับ เพราะถึงวันนี้ผมก็ยังไม่ได้ไปชมเลยทั้งสองภาคทั้ง ๆ ที่อยากดูมาก แต่ไม่มีเวลาและโอกาสสักที อาจจะต้องรีบหน่อยแล้วแต่ที่ผมจะกล่าวก็คือ คนไทยควรดูภาพยนตร์เรื่องนี้แล้วเก็บมาเป็นอุทาหรณ์ครับ
“ คนหยิบมือเดียว สามารถปกป้องแผ่นดินไว้ได้ เพราะความรัก ความสามัคคี และ ความที่เค้า เชื่อมั่น และ รักใน คิงส์ลีโอนิดัส ของเค้า อีกทั้ง การโกงกิน การคอรัปชั่น การคดโกงของนักการเมือง ย่อมนำมาถึงความหายนะได้อย่างไม่ต้องสงสัย เมื่อคุณได้ไปชมคุณจะเห็นความรักที่ คิงส์ลีโอนิดัส รักคนของเค้าและประชาชนชาวสปาร์ตัน ก็รักและพร้อมที่จะตายเคียงข้างคิงส์ลีโอนิดัส เท่านี้ผมก็ว่าเค้าสร้างมาได้กินใจมากมายทีเดียว ทำให้ผมนึกถึงคนไทยทุกคนที่รักและภักดีต่อในหลวงของเรา เลยครับเมื่อดูภาพยนตร์เรื่องนี้จบ จึงขอให้เราชาวไทยจงเชื่อมั่น รัก และ ภักดี ในหลวงของเรา ผมว่า นั่นเป็นเกราะที่วิเศษที่สุดแล้ว”
ภาพรวม
เป็นภาพยนตร์ที่ผมชอบมากที่สุดอีกเรื่อง และต้องเป็นภาพยนตร์บนหิ้งเก็บของผมอีกเรื่องหากแผ่นออกมาครับ และขอบอกเลยว่าผมต้องไปดูอีกรอบแน่นอนเร็ว ๆ นี้ แนะนำให้ไปชมกันเถอะครับ ผมว่าคุ้มค่ามาก ๆ หรือ มากกว่า เงินค่าตั๋วแน่นอนและท่านที่เคยชอบ อาคิลิส และ เฮ็คเตอร์ จากมหาสงคราม ทรอยมาแล้วจงอย่าคาดหวังว่าจะได้เห็นแบบนั้นผมบอกได้คำเดียวว่ามันอาจจะไม่ ยิ่งใหญ่เท่า แต่ความแปลกใหม่ ความตื่นตาตื่นใจในฉากรบฉากต่อสู้ที่ดุเดือด ทำได้ดีมาก ๆ เลยทีเดียว คุณคงต้องไปดูเองครับ ใครไปดูมาแล้ว ชอบไม่ชอบ หรือ คิดอย่างไร โพสท์ความเห็นมาบอกกันนะครับ
ความคุ้มค่า
ส่วนตัวผมเรื่องนี้ เทใจ ให้ 9.8 คะแนน เต็ม 10 ไปเลยครับ
แล้วคราวหน้า เมื่อมีภาพยนตร์เรื่องดก่าๆที่น่าสนใจ “นัวฟิล์ม “ จะกลับมาเล่าให้ฟังเช่นเคยครับ ขอบคุณที่ติดตามอ่านนะครับ เข้ามาอ่านแล้ว โพสท์เข้ามา บอกความคิดเห็นกันบ้างนะครับ ว่าชอบหรือไม่ชอบอย่างไร หรืออยากให้ วิจารณ์ภาพยนตร์เรื่องอะไร ก็บอกกันนะครับ สวัสดีครับ
"นัวฟิล์ม"