สำหรับคนรักซีรีส์แนว Thriller และ Horror แล้ว ‘ญี่ปุ่น’ คือหนึ่งในประเทศที่สามารถผลิตได้ถึงใจอยู่บ่อยครั้ง เพราะไม่ว่าจะเป็นมังงะ อนิเมะ ภาพยนตร์ หรือซีรีส์ ก็โดนใจผู้ชมมามากมาย และล่าสุด วงการญี่ปุ่นก็ได้ส่งผลงานสุดระทึกมาอีกครั้ง กับ ‘Gannibal’ ซีรีส์แนวจิตวิทยาระทึกขวัญที่ได้รับคำชมล้นหลาม โดยซีรีส์ถูกสร้างมาจากมังงะชื่อดัง เนื้อเรื่องจะพาเราลุ้นระทึกไปพร้อม ‘อากาวะ ไดโงะ’ ตำรวจหนุ่มที่ถูกย้ายไปประจำที่หมู่บ้านห่างไกล แต่กลับต้องพบกับปริศนาลึกลับและเผชิญหน้ากับความลับดำมืดที่ซ่อนอยู่ในหมู่บ้าน
ถึงแม้จะสร้างจากมังงะที่ประสบความสำเร็จ แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เดียวที่ทำให้ Gannibal ได้รับฟีดแบ็กฮือฮาขนาดนี้ ต้องบอกว่า Gannibal ติ๊กถูกทุกข้อในลิสต์คุณสมบัติที่ทำให้แฟนซีรีส์ระทึกขวัญโดนใจได้ง่าย ๆ ถ้าอยากรู้ว่า Gannibal ทำได้ยังไง ลองไปถอดรหัสความระทึกพร้อมกันทีละข้อดีกว่า
บรรยากาศชวนระแวง แฝงความไม่น่าไว้ใจ
ว่ากันว่า ‘บรรยากาศ’ คือหนึ่งในสิ่งที่วัดกึ๋นของผู้สร้างซีรีส์ระทึกขวัญได้ ซึ่ง Gannibal ก็ได้พิสูจน์แล้วว่าทำออกมาได้ดีเยี่ยม ตัวซีรีส์รังสรรค์สถานที่ที่ดูเผิน ๆ เหมือนจะธรรมดาให้มีความสยองขวัญแอบแฝงอยู่ได้ ตั้งแต่การวางโลเคชั่นหมู่บ้านให้อยู่ท่ามกลางป่าไม้หนาแน่น ให้ความรู้สึกลึกลับราวกับมีอะไรซ่อนอยู่ ใส่ความวังเวงในบางมุม ชวนให้รู้สึกเหมือนไม่ปลอดภัยตลอดเวลา
นอกจากด้านสถานที่แล้ว สิ่งที่สร้างบรรยากาศได้ดีคือ ‘ผู้คน’ ตลอดทั้งเรื่อง อากาวะ ไดโงะ ต้องพบกับความแปลกประหลาดของผู้คนที่ดูภายนอกก็ปกติดี แต่กลับมีพฤติกรรมไม่น่าไว้ใจแฝงไว้ เป็นบรรยากาศที่ทำให้คนดูรู้สึกไปด้วยว่า ไม่มีใครที่ไว้ใจได้เลย
โลเคชั่นตัดขาดโลกภายนอก ไม่มีทางออกให้หนี
เทคนิคที่มักจะทำงานได้ดีเสมอในซีรีส์แนวระทึกขวัญ สยองขวัญ หรือสืบสวน คือการสร้างเงื่อนไขให้สถานที่เกิดเหตุถูกปิดตาย หรือไม่ก็ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก เพื่อให้ผู้ชมเห็นว่าตัวเอกหนีได้ยาก และยากที่จะมีใครมาช่วย รวมทั้งยังทวีความน่าหวาดกลัวในสถานที่นั้น ๆ เพราะตามสูตรพล็อตระทึกขวัญแล้ว สถานที่ที่ตัดขาดโลกภายนอกแบบนี้มักจะมีวัฒนธรรมเฉพาะกลุ่มบางอย่างที่อาจชวนให้ขนหัวลุกได้!
ใน Gannibal ก็เช่นกัน หมู่บ้านที่อากาวะ ไดโงะ ถูกย้ายไปประจำนั้น ตั้งอยู่บนเกาะปิดตายที่ล้อมไปด้วยแม่น้ำและหุบเหว มีทางเข้าออกเพียงทางเดียวคือสะพานเส้นเล็ก ๆ ที่เชื่อมไปสู่โลกภายนอก เงื่อนไขนี้ทำให้ตัวอากาวะติดต่อผู้คนภายนอกได้อย่างยากลำบาก ดังนั้น คนที่เขาจะพึ่งพาได้มากที่สุดในการไขปริศนาและเอาตัวรอดก็คือตัวเขาเอง
หักมุมไปทีละขั้นเหมือนเก็บจิ๊กซอว์
ความสนุกของ Gannibal คืออากาวะจะพาให้เรากะเทาะความจริงไปทีละชั้น เพิ่มความหักมุมไปทีละสเต็ป โดยในแต่ละตอน ซีรีส์จะค่อยๆ เปิดเผยหลักฐานที่นำมาเชื่อมโยงกันได้เหมือนการเก็บจิ๊กซอว์มาต่อทีละชิ้น การดำเนินเรื่องแบบนี้ให้กลิ่นอายเหมือนแนวสืบสวนสอบสวน เพียงแต่Gannibal ได้เพิ่มความสยองขวัญและลุ้นระทึกทวีคูณเข้าไปด้วย
เล่นกับความเป็นไปได้ อาจเกิดขึ้นในโลกความจริง
เคยรู้สึกไหมว่า ภาพยนตร์หรือซีรีส์ระทึกขวัญสยองขวัญบางเรื่องน่ากลัวเป็นพิเศษ ถึงแม้จะดูจบไปแล้ว ก็ยังรู้สึกตราตรึงอยู่ไม่หาย นั่นเป็นเพราะว่า เรารู้สึกว่าเนื้อเรื่องนั้นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ในชีวิตจริง และชวนให้เราคิดว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเรื่องนั้นอาจเกิดขึ้นกับใครก็ได้ แม้แต่ตัวเราเอง!
สำหรับ Gannibal เนื้อเรื่องก็เล่นกับความสยองขวัญที่เป็นไปได้จริงเช่นกัน นั่นคือปริศนา ‘การกินเนื้อมนุษย์’ ในหมู่บ้าน ซึ่งวัฒนธรรมการกินเนื้อมนุษย์ก็เป็นฝันร้ายที่เคยเกิดขึ้นจริงมาแล้ว ไม่ว่าจะในประวัติศาสตร์โลกหรือประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นเอง แม้แต่ในยุคที่ใกล้เคียงกับปัจจุบันก็ยังมีคดีแบบนี้ให้เห็นอยู่ จุดนี้ชวนให้ผู้ชมหวาดผวายิ่งขึ้น และรู้สึกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านนั้นอาจมีอยู่จริงที่ไหนสักแห่งบนโลกก็ได้
ดำเนินเรื่องฉับไวไม่ยืดเยื้อ
หากใครได้ลองดู Gannibal ไปสัก 2-3 ตอน คงบอกได้ว่าไม่มีตอนไหนที่น่าเบื่อเลย ทั้งผู้เขียนบท ผู้กำกับ และทีมตัดต่อสามารถเล่าเรื่องได้อย่างพอดิบพอดี การดำเนินเรื่องไม่ได้ยืดเยื้อ และไม่ได้ใช้เวลาปูเรื่องนานจนเกินไป แต่ก็ยังคงรักษารายละเอียดของเนื้อเรื่องและเล่าประเด็นได้ครบถ้วน และแน่นอนว่าตอนจบของแต่ละตอนทิ้งท้ายได้ชวนลุ้นระทึก จนผู้ชมอยากดูตอนต่อไปทันที
จุดนี้เองคือเสน่ห์ของเนื้อเรื่องที่ชวนให้ผู้ชมอยากติดตาม และรักษาเอเนอร์จี้ความสนุกไว้ได้ตั้งแต่ต้นจนจบ สมกับฝีมือของผู้กำกับมือทองอย่าง คาตายามะ ชินโซ และนักเขียนบทมือรางวัลอย่าง โอเอะ ทาคามาสะ
ตัวเอกที่ ‘มีความเป็นมนุษย์สมจริง’ ชวนเอาใจช่วย
หนึ่งในจุดด้อยที่แฟนซีรีส์ระทึกขวัญมักจะบ่นกันบ่อย ๆ คือ “รู้สึกขัดใจ ทำไมตัวเอกถึงชอบทำอะไรไม่เมคเซนส์” แต่สำหรับ Gannibal อากาวะ ไดโงะ เป็นตัวละครที่มีมิติความเป็นมนุษย์สมจริง อีกทั้งยังแสดงอารมณ์สมเหตุสมผลกับสถานการณ์ที่เผชิญ ไม่ว่าจะโกรธ รัก ฮึดสู้ หรือสติแตก ทำให้ผู้ชมอินและเข้าใจการกระทำของตัวละครได้เป็นอย่างดี ผู้ชมต่างให้ความเห็นว่า Gannibal คือซีรีส์ที่ปรับจากมังงะได้อย่างลงตัว เพราะยังรักษาเสน่ห์ความสยองระทึกในมังงะไว้ได้ ขณะเดียวกันก็เพิ่มความสมจริงเข้าไปให้กับตัวละคร จนออกมาเป็นซีรีส์รสกลมกล่อมที่เป็นที่ชื่นชอบในระดับสากล
จนถึงตรงนี้ หลายคนก็คงพอเข้าใจแล้วว่าทำไม Gannibal ถึงได้ขึ้นแท่นซีรีส์ญี่ปุ่นที่ห้ามพลาด แต่ถ้าอยากลองสัมผัสประสบการณ์ความสนุกพร้อมลุ้นระทึกด้วยตัวเอง ก็สามารถไปสตรีมซีรีส์ Gannibal แบบจุใจได้เลย รับชมครบทั้ง 7 ตอนได้แล้ววันนี้บน Disney+ Hotstar เท่านั้น