แม้ภาพยนตร์ไลฟ์แอ็คชั่น Aladdin (2019) อาจไม่ได้เป็นดั่งที่ผู้ชมคาดหวังมากนัก แต่ดูเหมือน Disney ก็พร้อมที่จะสานต่อเรื่องราวการผจญภัยที่ดัดแปลงมาจากแอนิเมชั่นคลาสสิกเรื่องนี้อีกครั้ง ซึ่งล่าสุดทางสำนักข่าว The Sun รายงานว่า วิลล์ สมิธ (Will Smith) ถูกวางตัวให้กลับมารับบท "จีนี่" ยักษ์ในตะเกียงอีกครั้ง และบทบาทของเขาในภาคนี้จะสำคัญยิ่งกว่าในภาคแรก นอกจากนี้ในรายงานข่าวดังกล่าวยังเปิดเผยอีกว่าบทภาพยนตร์เรื่องนี้ "จะอิงมาจากนิทานพื้นบ้านตะวันออกกลางเรื่อง One Thousand and One Nights" และคาดหวังว่าการถ่ายทำจะได้เริ่มขึ้นภายในช่วงปลายปีนี้
สำหรับ สมิธ ภาพยนตร์เรื่องนี้นับได้ว่าเป็นหนึ่งในบทบาทอันยิ่งใหญ่ที่เขาจะได้กลับมาแสดงอีกครั้ง นับตั้งแต่เกิดประเด็นดราม่าจากเหตุการณ์ที่เขาตบหน้า คริส ร็อค (Chris Rock) กลางเวทีประกาศผลรางวัลออสการ์ ซึ่ง สมิธ เคยออกมาขอโทษต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และชี้แจงถึงความรู้สึกที่อยู่ในใจเขาตอนที่เกิดเรื่องระหว่างให้สัมภาษณ์ในรายการ The Daily Show ไปแล้ว
"มันมีหลายสิ่งมาก ๆ เลยครับ มันเหมือนการที่เด็กน้อยต้องมาเห็นพ่อทำร้ายแม่ คุณเข้าใจใช่ไหมครับ นั่นคือทั้งหมดที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานั้น คุณรู้ไหม ผมไม่ได้อยากจะเป็นคนแบบนั้นเลย แต่ผมต้องให้อภัยตัวเองในฐานะที่ผมก็เป็นมนุษย์คนหนึ่ง เชื่อผมสิ ไม่มีใครจะเกลียดความจริงที่ว่าผมเป็นมนุษย์มากไปกว่าตัวผมเองอีกแล้ว ผมแค่หาที่ว่างสำหรับตัวเองภายในตัวของผมเพื่อที่จะเป็นมนุษย์ มันเหมือนกับว่า ผมต้องการ ผมอยากจะเป็นซูเปอร์แมนมาโดยตลอด ผมอยากจะถลาเข้าไปช่วยหญิงสาวที่กำลังลำบากอยู่เสมอ แต่ผมต้องเจียมเนื้อเจียมตัว และตระหนักว่าผมเองก็เป็นมนุษย์คนหนึ่งที่มีข้อบกพร่อง แต่ผมก็ยังมีโอกาสที่จะได้ก้าวออกไปสู่โลกภายนอก ซึ่งนั่นมันเป็นหนทางที่ช่วยเติมเต็มหัวใจของผม และหวังเป็นอย่างยิ่งเลยว่ามันจะช่วยผู้อื่นด้วย" สมิธ เผย
ภาพยนตร์ Aladdin ภาคแรกที่ออกฉายไปเมื่อปี 2019 นำแสดงโดย มีนา แมสซุด (Mena Massoud) ในบท "อะลาดิน" และ นาโอมิ สก็อตต์ (Naomi Scott) ในบท "เจ้าหญิงจัสมิน" ขณะที่ สมิธ รับบทเป็น "จีนี่" กำกับการแสดงโดย กาย ริตชี่ (Guy Ritchie) แม้กระแสตอบรับจะมีทั้งแง่บวกและแง่ลบ แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็นับได้ว่าประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ในส่วนของรายได้ ที่กวาดเงินจากทั่วโลกไปกว่า 1,000 ล้านเหรียญ และยังขึ้นแท่นภาพยนตร์ทำเงินสูงสุดอันดับที่ 9 ในปี 2019 อีกด้วย