ข่าว > ข่าวสัพเพเหระทั้งหมด > Webmaster Talk

ทิโมธี ชาลาเมต์ กับหนทางสู่นักแสดงดาวรุ่งที่ฮอลลีวูดจับตามอง

22 พ.ย. 2565 17:19 น. | เปิดอ่าน 1554 | แสดงความคิดเห็น
แชร์หน้านี้ แชร์หน้านี้
 

 

• ทิโมธี ชาลาเมต์ เกิดวันที่ 27 ธันวาคม 1995 (ปัจจุบันอายุ 26 ปี) เขาเป็นลูกครึ่งฝรั่งเศส - อเมริกัน โดยคุณพ่อ มาร์ค ชาลาเมต์ (Marc Chalamet) เป็นคนฝรั่งเศส ส่วนคุณแม่ นิโคล เฟลนเดอร์ (Nicole Flender) นั้นเป็นคนอเมริกัน อดีตนักแสดงบรอดเวย์

• ช่วงมัธยมเขาเข้าเรียนที่ Fiorello H. LaGuardia High School of Music & Art and Performing Arts ในนิวยอร์ก ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับอีกหนึ่งนักแสดงดังนั่นก็คือ แอนเซล เอลกอร์ธ (Ansel Elgort) ที่จบการศึกษาไปในปี 2012 ขณะที่ ชาลาเมต์ จบการศึกษาตามไปในปี 2013 โดยไฮสคูลแห่งนี้มีรุ่นคนดังจบการศึกษามาแล้วมากมาย อาทิ เจนนิเฟอร์ อนิสตัน (Jennifer Aniston), อควาฟิน่า (Awkwafina) และนิกกี้ มินาจ (Nicki Minaj)

• แฮร์รี่ ชิฟแมน (Harry Shifman) อาจารย์ผู้รับหน้าที่กำกับละครเวทีและมิวสิคัลของพวกเขาในสมัยเรียนเคยให้สัมภาษณ์กับทาง Vanity Fair เมื่อปี 2018 เอาไว้ว่า ชาลาเมต์ และ เอลกอธ เป็นนักเรียนที่ดังมากในสมัยนั้น พวกเขาเป็นเหมือนร็อกสตาร์ และทุกคนยอมรับว่าพวกเขามีพรสวรรค์อย่างแท้จริง ส่วน เอลกอร์ธ เคยให้สัมภาษณ์กับทาง MTV  ว่า “ไม่มีใครไม่ชอบ ทิมมี่ ขนาดบางคนยังไม่ชอบผมเลย ทุกคนรักเขา”

• ชาลาเมต์ เคยทำมิวสิกวิดีโอเพลงแรปส่งอาจารย์วิชาสถิติชื่อเพลงว่า “Statistics” โดยใช้สเตจเนมว่า “Lil’ Timmy Tim (ทิมมี่ ทิม ตัวน้อย)” แต่สุดท้ายเขาก็ได้เกรด D ในวิชานั้น โดยเจ้าตัวบอกในรายการ The Graham Norton Show ว่านักเรียนคนอื่นทำโปรเจกต์ที่เหมาะกับวิชาสถิติมากกว่าของเขา เพราะเขาอยากทำเพลงเกี่ยวกับสถิติ ส่วนการถ่ายทำมิวสิกวิดีโอ เขาถ่ายทำกับเพื่อนที่โรงเรียนโดยใช้กรีนสกรีน ซึ่งตั้งใจว่าจะตัดต่อใส่หน้าของอาจารย์เข้าไปในนั้นด้วย แต่สุดท้ายก็ขี้เกียจจนออกมาเป็นคลิปเขาชี้ไปทางนั้นทางนี้กับฉากเปล่า ๆ สีดำ

 

รับชมคลิปจากแรปเปอร์ในตำนานนาทีที่ 1:44

 

• ชาลาเมต์ เดินสายเป็นนักแสดงตั้งแต่อายุยังน้อย เริ่มจากงานโฆษณาและละครเวทีิเรื่อง The Talls (2011) และปรากฏตัวในซีรีส์เรื่อง Law & Order และภาพยนตร์ทางโทรทัศน์ Loving Leah ในปี 2009 ตามมาด้วย Royal Pains และ Homeland ในปี 2012 หลังจากเรียนจบไฮสคูลในปี 2013 ชาลาเมต์ รับแสดงใน Interstellar ผลงานชิ้นโบว์แดงของผกก. คริสโตเฟอร์ โนแลน (Christopher Nolan) เป็นตัวละครช่วงวัยรุ่นของ เคซีย์ แอฟเฟล็ค (Casey Affleck) จากนั้นก็มีผลงานอย่างต่อเนื่องใน The Adderall Diaries (2015) และ Miss Stevens (2016) รวมถึงแสดงในละครเวทีเรื่อง Prodigal Son เมื่อปี 2016 เช่นกัน

• ช่วงมหาลัย ชาลาเมต์ เรียนต่อที่ Columbia University แต่สุดท้ายก็ลาออกในปีแรก (เมื่อปี 2014) เป็นช่วงเวลาก่อนที่ Interstellar จะเข้าฉายไม่นาน โดยเขาให้เหตุผลกับทาง Interview https://www.interviewmagazine.com/film/timothee-chalamet ว่าเขาไม่สามารถหาจุดสมดุลระหว่างการเรียนกับการทำงานได้ เขาจึงออกมาเพื่อทุ่มเวลาให้กับการทำงานอย่างเต็มที่ดีกว่า

 

 

• ในที่สุดก็ถึงเวลาที่ ชาลาเมต์ ได้แจ้งเกิดในฐานะนักแสดงดาวรุ่งเต็มตัวกับผลงานเรื่อง Call Me by Your Name ในปี 2017 ที่แสดงคู่กับ อาร์มี่ แฮมเมอร์ (Armie Hammer) เขาได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมในงานประกาศรางวัลออสการ์ 2018 และขึ้นแท่นเป็นนักแสดงอายุน้อยที่สุดที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงออสการ์สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมในรอบ 80 ปี (ตอนนั้น ชาลาเมต์ อายุ 23 ปี)

• สำหรับการเดินสายทัวร์โปรโมต Call Me By Your Name ชาลาเมต์ เล่ากับทาง Vulture ว่าเขาย้อนดูคลิปการทำงานของ เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ (Jennifer Lawrence) และเลอบรอน เจมส์ (LeBron James) เพื่อเรียนรู้จากประสบการณ์ว่าพวกเขารับมือกับงานเดินสายโปรโมตกันอย่างไร สุดท้ายเขาก็รู้สึกประทับใจที่ทั้งสองคนทำงานออกมาได้ราบรื่นและน่าชื่นชมมาก 

• ชาลาเมต์ กลายเป็นนักแสดงดาวรุ่งที่มีผลงานดังมากมาย อาทิ Hot Summer Nights (2017), Lady Bird (2017), Beautiful Boy (2018), A Rainy Day In New York (2019), The King (2019), Little Woman (2019), Dune (2021) รวมถึงผลงานที่เข้าฉายบ้านเราแล้ววันนี้อย่าง Bones And All รวมถึงผลงานฟอร์มยักษ์น่าจับตาในอนาคต ทั้งภาคต่อ Dune: Part Two และการรับบทเป็น วิลลี่ วองก้า เจ้าของโรงงานช็อกโกแลตผู้โด่งดังใน Wonka (2023)

 

 

• เขาบริจากค่าตัวจากการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง A Rainy Day In New York ให้กับ องค์กรช่วยเหลือเหยื่อจากการถูกล่วงละเมิด Time’s Up, ชุมชน LGBTQ+ ในนิวยอร์ก และองค์กรต่อต้านความรุนแรงทางเพศ RAINN โดยเขาเผยความรู้สึกว่า เขาต้องการยืนเคียงบ่าเคียงไหล่กับทุกคนที่กล้าลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อเรียกร้องสิทธิให้ทุกคนได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียม

• เขาเคยออดิชั่นเพื่อร่วมแจมใน Spider-Man: Homecoming แต่ก็ประหม่าจนชวดบทนั้นไป อ้างอิงจากการให้สัมภาษณ์ของเขากับทาง The Hollywood Reporter ว่า “ผมอ่าน (บทภาพยนตร์) สองครั้ง แต่จบลงด้วยการนั่งเหงื่อแตกเพราะความประหม่า” ก่อนที่เจ้าตัวจะโทรศัพท์เรียกผู้จัดการให้มารับกลับไปเพราะคิดว่าตัวเองยังไม่พร้อมสำหรับงานนี้ 

• ชาลาเมต์ เป็นแฟนตัวยงของซีรีส์ The Office มายาวนาน และสุดท้ายโชคชะตาก็ให้เขาได้มารับบทเป็นลูกของ สตีฟ คาเรลล์ (Steve Carell) และเอมี่ ไรอัน (Amy Ryan) สองนักแสดงนำของซีรีส์ดังในภาพยนตร์เรื่อง Beautiful Boy (2018) โดยเจ้าตัวบอกกับทาง W Magazine ว่าเขาเก็บเรื่องที่เขาชื่นชอบซีรีส์เรื่องนั้นเป็นความลับระหว่างถ่ายทำ เพราะไม่อยากให้ คาเรลล์ ผู้รับบทเป็นพ่อของเขาในภาพยนตร์รู้สึกแปลก ๆ ก่อน สตีฟ จะรู้เรื่องภายหลังเมื่อตอนพวกเขาโปรโมตภาพยนตร์ด้วยกัน 

 

 

• เขาเคยคบหากับ ลอร์เดส ลีออน (Lourdes Leon) ลูกสาวคนสวยของ มาดอนน่า (Madonna) ในช่วงไฮสคูลตั้งแต่ปี 2013 ก่อนเลิกรากันไปในช่วงปี 2017 และยังคงเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันเสมอมา หลังจากนั้น ชาลาเมต์ คบหากับ ลิลี่-โรส เดปป์ (Lily-Rose Depp) ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของ จอห์นนี่ เดปป์ (Johnny Depp) ตั้งแต่ปี 2018 พวกเขาถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง The King ของ Netflix ด้วยกัน ก่อนจบความสัมพันธ์ลงในปี 2020

• ชาลาเมต์ เป็นผู้ชายคนแรกที่ได้ขึ้นปกนิตยสาร British Vogue ฉบับเดือนตุลาคม 2022 นับเป็นผู้ชายที่ขึ้นปกเดี่ยวครั้งแรกในประวัติศาสตร์รอบ 106 ปี โดย เอ็ดเวิร์ด เอ็นนินฟูล (Edward Enninful) บรรณาธิการของ British Vogue กล่าวว่า “ผมตระหนักให้ British Vogue เป็นพื้นที่เฉลิมฉลองให้กับผู้หญิงเป็นอันดับแรกเสมอมา ผมไม่เคยอยากได้ผู้ชายมาเป็นตัวดึงความสนใจหรือพูดอะไรบนปกนิตยสารนี้เลย ผมอยากให้มันเรียบง่ายแบบไม่ต้องพยายามอะไร แต่แล้ววันหนึ่ง มันก็เกิดขึ้นแล้ว นับเป็นเกียรติของผมอย่างยิ่งที่ได้แบ่งปันปกนิตยสาร British Vogue ฉบับตุลาคม 2022 ของ ทิโมธี ชาลาเมต์ ผู้มีสไตล์และความมั่นใจที่สามารถเป็นแรงบันดาลใจให้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย เขาคือคนที่เหมาะสมที่สุดแล้ว”

 

 

 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

A post shared by Edward Enninful, OBE (@edward_enninful)

 

 

 

• ภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของ ชาลาเมต์ เรื่อง Bones And All เล่าถึงรักครั้งแรกระหว่าง เมเรน (เทย์เลอร์ รัสเซลล์) เด็กสาวที่กำลังเรียนรู้การเอาชีวิตรอดจากชายขอบของสังคม และ ลี (ทิโมธี ชาลาเมต์) เด็กหนุ่มเร่ร่อนนิสัยจริงจังที่ไร้สิทธิไร้เสียงในสังคม… เมื่อทั้งสองพบกันการเดินทางร่วมพันไมล์จึงเริ่มต้นขึ้นผ่านถนนกว้าง เส้นทางลับ และประตูที่หลบซ่อนของประเทศอเมริกาในยุคสมัยของโรนัลด์ รีแกน แต่แม้ว่าพวกเขาจะพยายามอย่างสุดความสามารถ แต่ทุกเส้นทางกลับพาพวกเขากลับไปยังอกีตอันน่าหวาดกลัว รวมถึงฟางเส้นสุดท้ายที่จะตัดสินว่าความรักของพวกเขานั้นจะอยู่รอดหรือไม่ ภาพยนตร์เข้าฉายแล้ววันนี้ ในโรงภาพยนตร์

 

ที่มา : mentalfloss.com | popbuzz.com

 

: ทิโมธี ชาลาเมต์, Bones and All

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • Review Dune: Part Two
  • เปิดรายชื่อผู้เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำครั้งที่ 81 ประจำปี 2024: Barbie และ Succession นำชิงสูงสุด
  • ทุกสิ่งดีงามในโลกล้วนเริ่มจากความฝัน พบกับโปสเตอร์ชุดใหญ่และตัวอย่างที่ 2 ของ Wonka – วองก้า
  • ผู้กำกับแย้ม Dune: Part Two จะโฟกัสทั้ง "เรื่องรบ" และ "เรื่องรัก"
  • มาร่วมค้นหาว่าทำไมวิลลี่ถึงกลายเป็น "วองก้า" พบกับตัวอย่างแรก Wonka พร้อมเข้าฉายธันวาคมนี้
  •  
     
     
    ร่วมแสดงความคิดเห็น
     
    ชื่อ :
     
    ความคิดเห็น :