- Vesper เป็นภาพยนตร์สัญชาติยุโรปที่มีการทำโปรดักชันร่วมกันระหว่างลิทัวเนีย (Natrix Natrix) ฝรั่งเศส (Rumble Fish Productions และ EV.L Prod.) และเบลเยียม (10.80 Films) โดยเปิดตัวภาพยนตร์ครั้งแรกในสายประกวด Crystal Globe Competition ที่เทศกาลภาพยนตร์ Karlovy Vary International Film Festival ครั้งที่ 56

- ด้วยแนวทางและเรื่องราวที่น่าสนใจของ Vesper หนังจึงถูกจับตามองและถูกซื้อไปฉายหลายประเทศทั่วโลก ทั้งสหราชอาณาจักร (Signature Entertainment), อเมริกาเหนือ (IFC Films), เยอรมนี (Koch Media), อิตาลี (Leone Film), ญี่ปุ่น (Klockworx), ไต้หวัน (MovieCloud), ตุรกี (Chantier Films), โปรตุเกส (Pris AudioVisuais), แอฟริกาใต้ (Filmfinity), สิงคโปร์ (Shaw Renters) และ อดีตยูโกสลาเวีย (MCF MegaCom Film)  

- ผู้กำกับ คริสตินา บัวซิเท (ชาวลิทัวเนีย) และ บรูโน แซมเปอร์ (ชาวฝรั่งเศส) ต้องการสร้างให้ Vesper มีกลิ่นอายเหมือนเทพนิยายกริมม์ ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวอันดำมืด แต่ในความดำมืดนั้นยังมีแสงแห่งความหวังส่องประกายอยู่ นอกจากนี้พวกเขายังต้องการให้ภาพยนตร์เรื่องนี้สื่อสารถึงคนรุ่นใหม่โดยเฉพาะ เพราะเป็นกลุ่มคนที่มักจะรับรู้ได้ว่าโลกของเรากำลังตายลงและหมดสิ้นอนาคตลงเรื่อย ๆ พวกเขามองว่าคนรุ่นใหม่ไม่ได้ต้องการมีชีวิตอยู่เพื่อเอาชีวิตรอดไปวัน ๆ แต่พวกเขาต้องการมีชีวิตอยู่เพื่อใช้ชีวิต ดังนั้นภาพยนตร์เรื่องนี้จึงเป็นตัวแทนของการมองเห็นสิ่งสวยงามในโลกอันเลวร้าย แม้จะไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ถ้าเรามองเห็นสิ่งเหล่านี้จะทำให้เรามีเหตุผลที่อยากจะมีชีวิตอยู่ มีเหตุผลที่ทำให้ลุกขึ้นสู้ และลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงสิ่งต่าง ๆ ให้ต่างจากที่เคยเป็นมา

- ก่อนหน้านี้ คริสตินา บัวซิเท และ บรูโน แซมเปอร์ เคยเขียนบทภาพยนตร์ร่วมกันในภาพยนตร์เรื่อง Vanishing Waves (2012) ที่ คริสตินา เป็นผู้กำกับ ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับรางวัลทั้งสิ้น 24 รางวัลจากเทศกาลภาพยนตร์ต่าง ๆ และถูกจัดจำหน่ายไปทั่วทั้งทวีปยุโรปและอเมริกา

- Vesper ได้รับคำวิจารณ์เชิงบวกจากนักวิจารณ์มากมายว่าเป็นภาพยนตร์แนวไซไฟที่โดดเด่น มีเอกลักษณ์แตกต่างจากภาพยนตร์ไซไฟทั่วไป ด้วยการสร้างโลกในจินตนาการสุดสมจริงและน่าตกตะลึงจากการใช้วิชวลเอฟเฟกต์ผสมกับการใช้เอฟเฟกต์จริง เพื่อเนรมิตโลกอนาคตในหนัง Vesper ให้ออกมาทันสมัยแต่ก็ให้กลิ่นอายของยุคสมัยโบราณ 

- ผู้กำกับใช้เวลากว่า 6 ปี ในการศึกษาและสร้างโลกในภาพยนตร์ Vesper ขึ้นมา โดยยึดธีมเกี่ยวกับชีววิทยาสังเคราะห์และพันธุศาสตร์ และถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้ในป่าของประเทศลิทัวเนีย เพราะเห็นว่าเป็นสถานที่ที่เหมาะสมในการทำให้ภาพยนตร์มีกลิ่นอายแบบเทพนิยายกริมม์แต่ยังแฝงไว้ซึ่งความหวังอยู่ ซึ่งถือเป็นการผสมผสานกันระหว่างแนวไซไฟยุคหลังวันสิ้นโลกสไตล์ Mad Max เข้ากับความเป็นนิทานพื้นบ้านของยุโรป ภาพที่ออกมาจึงออกมาเป็นโลกอนาคตที่เต็มไปด้วยองค์ประกอบทางชีววิทยาและพันธุศาสตร์อันแปลกใหม่ แตกต่าง งดงาม และเหนือจินตนาการ

- ผู้กำกับภาพ เฟลิกซาส อาบรูคอสคัส จัดแสงในภาพยนตร์โดยอ้างอิงจากแสงในภาพจิตรกรรมของ เฟลมิช เวอร์เมียร์ และ แรมบรันต์ ในขณะที่ แดน เลวี (‘I Lost My Body’) ทำดนตรีประกอบภาพยนตร์ที่มีลักษณะคล้ายเสียงสังเคราะห์เพื่อให้เข้ากับความเป็นภาพยนตร์แนวไซไฟ

- ผู้กำกับหยิบยืมสไตล์และองค์ประกอบในงานไซไฟยุคปัจจุบันและอดีตมาผสมรวมกันในแนวทางที่เฉพาะตัว คล้ายกับสไตล์ของนวนิยาย เพราะต้องการสร้างภาพยนตร์ Vesper ให้มีความเรียบง่าย ในขณะเดียวกันก็ต้องการให้มีบางสิ่งบางอย่างในภาพยนตร์มีความเป็นสากลด้วย โดยหนึ่งในแรงบันดาลใจที่ใช้ในการสร้างโลกของ Vesper เช่น แอนิเมชันเรื่อง ‘Fantastic Planet (1973)’ ของ โรแลนด์ โทพอร์ 

- Vesper ได้รับรางวัล Jury’s Choice Award ที่งานเทศกาล Bucheon International Fantastic Film Festival ครั้งที่ 22

Vesper
เวสเปอร์ ฝ่าโลกเหนือโลก
“ผู้ควบคุมชีวภาพ คือผู้อยู่เหนือโลก”
6 ตุลาคม 2565 ในโรงภาพยนตร์