ฮันฮโยจู (Han Hyo-Joo) เปิดใจให้สัมภาษณ์กับ News1 เกี่ยวกับผลงานภาพยนตร์เรื่องใหม่ The Pirates: Goblin Flag ที่สานต่อมาจากภาพยนตร์ The Pirates (2014) โดยภาคนี้จะพาคุณไปติดตามเรื่องราวของของกลุ่มคนที่ออกเดินทางข้ามท้องสมุทรเพื่อตามหาสมบัติชิ้นสุดท้ายของราชวงศ์โครยอที่หายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอย หลังจากอาณาจักรถูกแทนที่โดยราชวงศ์โชซอน นำแสดงโดย ฮันฮโยจู, คังฮานึล (Kang Ha-Neul), อีกวางซู (Lee Kwang-Soo), ควอนซังอู (Kwon Sang-Woo), แชซูบิน (Chae Soo-Bin), เซฮุน (Sehun) วง EXO, คิมซองโอ (Kim Sung-Oh) และ พัคจีฮวาน (Park Ji-Hwan)
ในเรื่อง ฮันฮโยจู จะรับบทเป็น "แฮรัง" กัปตันโจรสลัดสาวผู้แข็งแกร่ง และเจ้าของเรือ เธอเป็นโจรสลัดที่มีวิจารณญาณที่ดีและเป็นผู้นำที่เข้มแข็ง เธอไม่เพียงแต่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์อันน่าดึงดูดเท่านั้น แต่เธอยังมีหัวใจอันอบอุ่น และมีพรสวรรค์ในศิลปะการต่อสู้ด้วย ซึ่ง ฮันฮโยจู ทุ่มเทเวลาฝึกซ้อมอย่างหนักถึง 3 ครั้งต่อสัปดาห์ เป็นเวลาถึง 3 เดือน เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการถ่ายทำซีนแอ็คชั่นในภาพยนตร์เรื่องนี้
"ฉันอยากแสดงบทนี้ออกมาให้ดีจริง ๆ ค่ะ" ฮันฮโยจู เผย "ฉันอยากให้ผู้ชมรู้สึกว่านักแสดงหญิงคนหนึ่งแสดงฉากผาดโผนออกมาแล้วไม่น่าอึดอัด แต่มีชีวิตชีวาและทำออกมาได้ดี ฉันเป็นคนทะเยอทะยานในเรื่องนี้มาก ฉันไปขอให้ฉันได้เริ่มฝึกฝนการต่อสู้ตั้งแต่ขั้นแรกเริ่ม เพราะฉันอยากจะทำมันออกมาให้ดีจริง ๆ ฉันฝึกฝนเป็นเวลาถึง 3 เดือน ฉันทุ่มเทอย่างหนักตั้งแต่ขั้นพื้นฐาน ดังนั้นร่างกายของฉันจึงซึมซับมันได้ และดูเหมือนว่าการแสดงโลดโผนด้วยเส้นลวดจะเป็นประโยชน์ต่อหนังโจรสลัดเรื่องนี้ด้วย ดังนั้นฉันจึงไปฝึกฝนต่างหากในเรื่องนั้นด้วย นอกจากนี้ฉันก็ยังได้ฝึกฝนในน้ำ ฉันได้ไปฝึกฝนเทคนิคต่าง ๆ หลากหลายรูปแบบ ซึ่งมันต้องใช้เวลามากเลยล่ะค่ะ"
เมื่อผู้สัมภาษณ์ถามถึงความเป็นไปได้ที่เธอจะถูกนำไปเปรียบเทียบกับ ซนเยจิน (Son Ye-Jin) นักแสดงนำจากภาคแรก ฮันฮโยจู ก็ตอบว่า "หนังภาคแรกได้รับความรักมากมาย และตัวละครยอวอลก็มีเสน่ห์มาก ฉันคิดว่ามันถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งเลยค่ะที่ถูกเชิญให้มาร่วมแสดงหนังภาคต่อ แต่มันคงจะเป็นการโกหกถ้าบอกว่าฉันไม่ได้รู้สึกกดดันจากความสำเร็จของหนังภาคแรกเลย ฉันรู้ว่าฉันต้องทุ่มเทอย่างหนักเพื่อตัวละครนี้ เพื่อจะไม่ให้มันกลายเป็นความบกพร่อง มันถือเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้ตามรอยเท้าของนักแสดงรุ่นพี่ที่ฉันชอบและชื่นชม"
"เรื่องราวมันแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง มันไม่ได้สานต่อมาจากหนังภาคแรกโดยตรง มันเป็นเรื่องราวใหม่ที่แยกเป็นอิสระจากกัน แม้ว่าคุณจะไม่เคยดูหนังภาคแรก คุณก็สามารถสนุกไปกับหนังของเราได้เป็นครั้งแรกราวกับว่ามันเป็นหนังคนละเรื่อง แทนที่จะเป็นนักแสดงหลักที่โดดเด่น ฉันกลับคิดว่าหนังเรื่องนี้มันมีชีวิตขึ้นมาเนื่องจากตัวละครของทีมนักแสดงทุกคนมากกว่า แม้แต่เหล่าเพนกวินก็ด้วย! มันเป็นหนังที่สนุกยิ่งขึ้นด้วยเคมีระหว่างทีมนักแสดงค่ะ" ฮันฮโยจู เสริม
นอกจากนี้ ฮันฮโยจู ยังชื่นชมเพื่อนนักแสดง The Pirates: Goblin Flag อีกว่า "ฉันรู้สึกขอบคุณจริง ๆ ที่ได้มาพบกับทีมนักแสดงชุดนี้ ฉันรู้สึกว่าฉันโชคดีมาก ฉันสนุกกับกระบวนการทำงานที่มีนักแสดงและทีมงานจำนานมากมารวมตัวกันในผลงานอันล้ำค่านี้ และทุกคนก็ทุ่มเทแพชชั่นของพวกเขาลงไปในผลงานชิ้นนี้ด้วย นักแสดงทุกคนเข้ากันได้ดีมาก ตอนที่เราได้มาเจอกันครั้งแรกในชั่วระยะเวลาหนึ่งเพื่อที่จะเริ่มโปรโมตหนังกัน มันไม่ได้รู้สึกเหมือนเป็นการทำงาน แต่มันเหมือนกับว่าเรามาเล่นสนุกกัน มันเหมือนได้ไปทัศนศึกษาทุกวันเลยค่ะ"
ฮันฮโยจู ยังหยอดมุขอีกว่าเคมีที่ดีที่สุดคือเคมีระหว่าง อีกวางซู กับเพนกวิน แล้วจากนั้นเธอก็เสริมอย่างจริงจังว่า "เคมีระหว่าง คังฮานึล กับ ควอนซังอู ก็ดีมากเหมือนกันค่ะ ความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครทั้งสองตัวของพวกเขาคือส่วนสำคัญของหนังเรื่องนี้ เพราะพวกเขาคือรากฐาน และมันก็ทำให้พวกเราที่เหลือรู้สึกมั่นคง ควอนซังอู บอกว่านี่คือผลงานย้อนยุคเรื่องแรกของเขา แต่เขาแสดงความรู้สึกออกมาได้สมจริงมาก ๆ"
แล้ว ฮันฮโยจู ก็กล่าวถึง คังฮานึล ต่ออีกว่า "ฉันปรารถนาจริง ๆ ว่าเขาจะบ่นมากกว่านี้ ไม่ว่าฉากต่อสู้ต่าง ๆ ที่เขาต้องทำมันจะยากขนาดไหน เขาก็ไม่สวมการ์ดป้องกันเลย ฉันเป็นห่วงเขา และบอกให้เขาสวมมัน แต่เขาบอกว่า 'ไม่เป็นไร' ฉันไม่รู้ว่าเขาจะรู้สึกว่าพวกเขากำลังตีกรอบหรือไม่ แต่เขาเป็นพวกที่ยอมทุ่มเททั้งตัวเพื่อบางสิ่ง เขาไม่รีรอ แล้วพูดว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี และไม่เคยโอดครวญว่าเขาเหนื่อย หรือกำลังมีปัญหาใด ๆ เลย เขาน่าจะเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากที่สุดตอนที่ถ่ายทำฉากใต้น้ำ เขาต้องกลืนน้ำทุกครั้ง แต่เขาก็ไม่เคยบ่นว่าปวดหัวเลย นั่นมันเกือบจะทำให้ฉันโกรธแล้ว ไม่มีนักแสดงคนไหนบ่นว่าเหนื่อยเลย เรามีแต่คอยให้กำลังใจและส่งพลังความแข็งแกร่งให้แก่กัน แต่ฉันก็ยังเป็นห่วงพวกเขาอยู่บ่อย ๆ เพราะพวกเราทุกคนทุ่มเททุกอย่างเพื่อการถ่ายทำ โดยปราศจากความลังเล"
สุดท้าย ฮันฮโยจู ยังแชร์ถึงชีวิตของเธอที่เปลี่ยนไปในช่วงโควิดระบาดอีกว่า "ทุกอย่างเปลี่ยนไปอย่างกะทันหันมาก มันเกิดขึ้นเร็วมาก นี่เป็นช่วงเวลาแห่งความสับสนอย่างมาก แต่ทุกคนก็รู้สึกแบบนั้นเหมือนกัน ในฐานะนักแสดงฉันรู้สึกขอบคุณ ที่ฉันยังสามารถทำงานในโปรเจกต์ต่าง ๆ ได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องหยุด หลังจากโควิด-19 ระบาด ฉันถ่ายหนังเรื่องนี้ และซีรีส์ Happiness ที่เพิ่งออกอากาศจบไป แล้วฉันก็กำลังทำซีรีส์ Moving อยู่ด้วย ฉันเชื่อว่ามันคือเรื่องจริงที่ผู้คนในวงการภาพยนตร์ต่างก็ต้องต่อสู้ดิ้นรนกันในตอนนี้ นั่นคือเหตุผลที่ทำให้ฉันคิดว่าหนังเรื่องนี้มันมีความหมายเป็นพิเศษ ฉันหวังจริง ๆ ว่ามันจะกลายเป็นโอกาสที่จะทำให้ภาพยนตร์เกาหลีตื่นขึ้นมา และกลับมาหายใจได้อีกครั้ง แม้ว่าโรงหนังจะปิดตัวลง หากเราอดทนได้อีกนิด วันที่ดีกว่าจะมาถึง ดังนั้นฉันจึงหวังว่าหนังเรื่องนี้จะเป็นแหล่งที่มาของความแข็งแกร่งค่ะ"