นิตยสาร Vogue Korea ปล่อยภาพแฟชั่นเซ็ตของนักแสดงหนุ่ม กงมยอง (Gong Myung) พร้อมบทสัมภาษณ์เอ็กซ์คลูซีฟทั้งเรื่องงาน และมิตรภาพที่มีต่อเพื่อนสมาชิกวง 5urprise ทั้ง ซอคังจุน (Seo Kang-Jun), คังแทโอ (Kang Tae-Oh), อีแทฮวาน (Lee Tae-Hwan) และ ยูอิล (Yoo Il)
กงมยอง พูดถึงความรู้สึกที่ได้ร่วมงานกับเหล่ารุ่นพี่ในรายการ House on Wheels 3 ว่า "ผมไม่ใช่คนขี้อาย ดังนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องยากที่ผมจะสนิทกับพวกรุ่นพี่ ผมเป็นคนเก็บตัวในบางครั้งก็จริง แต่ไม่ใช่แบบนั้นเมื่อมันถึงเวลาที่ต้องสานสัมพันธ์กับคนอื่น ๆ"
เมื่อถามถึงเส้นทางสายนักแสดงของเขา กงมยอง ก็เปรียบมันดั่งการวิ่งมาราธอน "มันเหมือนกับการวิ่งมาราธอนครับ ผมต้องการที่จะวิ่งไปด้วยฝีเท้าของตัวเอง และทำสิ่งต่าง ๆ อย่างช้า ๆ"
สำหรับการแสดงบทบาทต่าง ๆ ที่ขัดกับภาพลักษณ์ที่แสนดีของเขา กงมยอง เผยว่า "เป้าหมายของผมไม่ได้มุ่งเน้นที่การพยายามมองหาบทบาทที่หลากหลาย ผมต้องการที่จะแสดงบทบาทที่ผมได้รับโดยที่ไม่ได้จู้จี้จุกจิก และถ้าผมสามารถแสดงให้เห็นถึงด้านที่หลากหลายของตัวละครต่าง ๆ ด้วยบทบาทเหล่านั้น มันก็คงจะดีมากเลยครับ"
นอกจากนี้ กงมยอง ยังพูดถึงมิตรภาพที่มีต่อเพื่อนสมาชิกวง 5urprise อีกว่า "เรายังคุยกันบ่อยผ่านกรุ๊ปแชต เราไม่สามารถรวมตัวกันได้เนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ผมได้เจอพวกเขาแต่ละคนบ้างในช่วงเวลาต่าง ๆ กันเมื่อเรามีเวลา พวกเขายังคงคอยสนับสนุนผมเป็นอย่างดี และทำให้ผมรู้สึกสบายใจ"
เมื่อปี 2013 5urprise เคยให้สัมภาษณ์ไว้ถึงการใช้ชีวิตร่วมกันในห้องใต้ดิน เมื่อนึกย้อนถึงช่วงเวลานั้น กงมยอง ก็บอกว่า "ผมไม่อาจพูดได้ว่าตอนนั้นมันเป็นช่วงเวลาที่ดี เพราะมันเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากมาก พวกเราก้าวผ่านช่วงเวลาแห่งความคาดหวังและความหวาดกลัวมาด้วยกัน เวลามันผ่านไปเร็วจริง ๆ"
หลายคนพูดกันว่าภาพยนตร์ยอดฮิต Extreme Job คือจุดเปลี่ยนของ กงมยอง ซึ่งเขาบอกว่า "จุดเปลี่ยนของผมก็คือพวกรุ่นพี่ที่ผมได้ร่วมงานด้วย ผมสามารถเติบโตได้โดยการเรียนรู้จากประสบการณ์ชีวิตของพวกเขา"
กงมยอง ยังเผยถึงความรู้สึกที่ได้ร่วมงานกับ พัคแฮอิล (Park Hae-Il) อีกว่า "ผมเริ่มรู้สึกชื่นชม พัคแฮอิล หลังจากที่ได้ดูภาพยนตร์ของเขาเรื่อง Scent of Love ผมมองเขาเป็นแบบอย่าง และรู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้มาอยู่เคียงข้างเขา"
เมื่อถูกถามว่าได้สารภาพรักกับ พัคแฮอิล หรือไม่ กงมยอง ก็หัวเราะแล้วตอบว่า "ไม่ครับ ผมประหม่าเกินไป นอกจากนี้ก็ยังมีรุ่นพี่ที่ยอดเยี่ยมอีกมากมายที่ตรงนั้น ดังนั้นจึงไม่มีครั้งไหนที่ผมไม่กังวลเลย อย่างไรก็ตามผมได้เรียนรู้มากมายและผมยังสามารถดื่มกับรุ่นพี่หลังจากถ่ายเสร็จอีกด้วย ผมยังแทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามันจะเกิดขึ้น"
กงมยอง เผยถึงสิ่งที่เขาให้ความสำคัญเมื่อต้องแสดงว่า "ผมพยายามเข้าถึงตัวละครของผมด้วยการเชื่อมโยงกับมัน แล้วผมก็ยังจดบันทึกตอนที่วิเคราะห์ตัวละครต่าง ๆ ด้วย"
สุดท้าย กงมยอง ได้พูดถึงนักแสดงในแบบที่เขาอยากจะเป็นว่า "ผมต้องการถ่ายทอดความรักผ่านงานแสดง ผมได้รับความรักมากมาย และผมก็อยากจะตอบแทนความรักเหล่านั้น นี่คือสิ่งหนึ่งที่ผมอยากจะทำไปตลอดชีวิต ดังนั้นผมหวังว่าผมจะสามารถทำสิ่งนี้ต่อไปได้เรื่อย ๆ"
: