"การได้ทำภาพยนตร์เรื่องนี้ เหมือนได้ทำตามสัญญาที่ผมได้ให้ไว้กับตัวเองไว้ในวัยเด็ก" – สตีเว่น สปีลเบิร์ก 

ถ้าพูดถึงพ่อมดแห่งฮอลลีวูดน้อยคนนักที่จะไม่รู้จัก สตีเว่น สปีลเบิร์ก (Steven Spielberg) หนึ่งในตำนานผู้สร้างที่มีอิทธิพลอย่างยิ่งใหญ่ต่อวงการภาพยนตร์ โดยผลงานที่ทำให้สปีลเบิร์กเป็นที่รู้จัก คือภาพยนตร์ขึ้นหิ้งอย่างเรื่อง อี.ที.เพื่อนรัก, จอวส์, จูราสสิคพาร์ค วันนี้ เขากลับมาพร้อมกับ เวสต์ ไซด์ สตอรี่ (Steven Spielberg’s West Side Story) ที่สปีลเบิร์ก นำมาปัดฝุ่นบนจอเงินอีกครั้ง หลังจากที่ตำนานรักเรื่องนี้เคยถูกทำเป็นภาพยนตร์มาแล้วครั้งหนึ่งในปี 1961 หรือ 60 ปีที่แล้ว 

เวสต์ ไซด์ สตอรี่ ได้รับอิทธิพลจากเรื่องราวความรักก้องโลก โรมิโอและจูเลียตบทประพันธ์สุดคลาสสิคของ วิลเลียม เช็คสเปียร์ ภาพยนตร์ เวสต์ ไซด์ สตอรี่เล่าถึงความรักของโทนี่ รับบทโดย แอนเซล เอลกอร์ต (Ansel Elgort) และมาเรีย รับบทโดย เรเซล เซกเลอร์ (Rachel Zegler) ชายหนุ่มและหญิงสาวที่อยู่ท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างคน 2 กลุ่ม ที่มีความบาดหมางกัน นอกจากเรื่องราวความรักสุดยิ่งใหญ่ยังสะท้อนถึงสภาพสังคมในมหานครนิวยอร์ก ถึงความแตกต่างทางเชื้อชาติของอเมริกันและเปอร์โตริโกที่เต็มไปด้วยปริศนาของย่านอัปเปอร์เวสต์ 

นอกจากผู้ชมจะได้เพลิดเพลินไปกับกลิ่นอายของมหานครนิวยอร์กทั้งฉาก เครื่องแต่งกาย องค์ประกอบศิลป์ที่ตระการตา และจากงานภาพที่เป็นเอกลักษณ์ของ ยานุสซ์ คามินสกี้ (Janusz Kaminski) ผู้กำกับภาพคู่บุญของ สตีเว่น สปีลเบิร์กแล้ว อีกหนึ่งไฮไลต์ของภาพยนตร์เรื่องนี้ก็คือ บทเพลงจากปลายปากกาของ สตีเฟ่น ซอนด์ไฮม์ (Stephen Sondheim) นักประพันธ์เพลงบรอดเวย์ระดับตำนาน ซึ่งเวสต์ ไซด์ สตอรี่นั้น ถือเป็นผลงานชิ้นแรกในฐานะนักแต่งเพลงมิวสิคัลมืออาชีพของสตีเฟ่น ซึ่งเปิดแสดงในบรอดเวย์เมื่อปี 1957