ข่าว > ข่าวสัพเพเหระทั้งหมด > ข่าวสัพเพเหระ

3 นักแสดงหน้าคุ้นกับบทบาทใหม่ที่ใครๆ ก็หลงรัก My Name ซีรีส์แอคชั่น-นัวร์จากเกาหลีใต้ ที่ครองหน้าฟีดทุกโซเชียล

1 พ.ย. 2564 10:42 น. | เปิดอ่าน 1517 | แสดงความคิดเห็น
แชร์หน้านี้ แชร์หน้านี้
 

 

My Name ซีรีส์แอคชั่น-นัวร์จากเกาหลีใต้ ขึ้นแท่นเป็นผลงานซีรีส์โดย Netflix อีกเรื่องที่เป็นที่แฟนๆ ชาวไทยให้ความสนใจอย่างท่วมท้น ด้วยเรื่องราวการแก้แค้นอันเหี้ยมโหดของยุนจีอู หญิงสาวที่สูญเสียพ่อไปต่อหน้าต่อตาในวัยเพียง 17 ปี และยอมทิ้งชื่อและตัวตนของตัวเองเพื่อตามหาฆาตกรที่ฆ่าพ่อของเธอ โดยองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้ซีรีส์เรื่อง My Name ถ่ายทอดออกมาได้อย่างสมบูรณ์ขนาดนี้ก็หนีไม่พ้นบรรดานักแสดงมากความสามารถ ที่บัดนี้น่าจะเข้าไปนั่งอยู่ในใจของผู้ชมจำนวนมากเป็นที่เรียบร้อยไปแล้ว เราลองมาทำความรู้จักกับพวกเขาโดยละเอียดพร้อมเบื้องหลังเส้นทางการทำงานในซีรีส์เรื่องนี้กันเลย

 

ภาพ จาก Netflix

 

“ฮันโซฮี” กับการทุ่มเทสุดตัวเพื่อพลิกบทบาทครั้งสำคัญ

เดิมผลงานแนวแอคชั่น-นัวร์หรือซีรีส์ที่เกี่ยวกับสายลับหรือการแก้แค้น มักจะเดินเรื่องโดยตัวละครชายแทบทั้งหมด แต่ My Name ได้กระแสตอบรับอย่างกว้างขวางนับตั้งแต่เปิดตัวเพราะมีภาพที่แตกต่างออกไปและโดดเด่นสะดุดตาด้วยตัวละครเอกที่เป็นผู้หญิง โดยผู้กำกับคิมจินมินตั้งใจจะถ่ายทอดพล็อตของการแก้แค้นสุดคลาสสิกในมุมที่ต่างออกไป เขาเลือกฮันโซฮีมาร่วมงานด้วยมองว่าเป็นโอกาสดีที่นักแสดงที่เคยรับบทสาวสวยๆ จะได้ลองพลิกมาทำผลงานแนวแอคชั่น เพราะเมื่อเธอทำลายขีดจำกัด เธอก็จะพบกับความเป็นไปได้

ฮันโซฮีเป็นที่จดจำจากซีรีส์ The World of the Married และ Nevertheless แต่คราวนี้เธอกลับมาสร้างความตะลึงด้วยภาพลักษณ์ใหม่ของเธอใน My Name กับบทบาท ยุนจีอู หญิงสาวที่ยอมสละชื่อและตัวตนของเธอทิ้งทั้งหมดเพื่อแก้แค้นให้พ่อ หรือพูดอีกนัยหนึ่งคือเธอทิ้งชีวิตทั้งหมดไปโดยสิ้นเชิง เส้นทางการแก้แค้นทำให้เธอต้องเข้าร่วมกับแก๊งอาชญากรและแฝงตัวเข้าไปเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนกระทั่งได้ค้นพบความจริงอันน่าตกใจ นี่นับเป็นครั้งแรกที่ฮันโซฮีได้แสดงบทแอคชั่น โดยเธอต้องเรียนศิลปะการต่อสู้นานถึงสามเดือน ซึ่งนานกว่านักแสดงคนอื่นๆ ร่วมเดือน แถมต้องฝึกร่างกายอย่างหนักจนเธอน้ำหนักขึ้นถึง 10 กิโลกรัม แต่นั่นคือน้ำหนักของกล้ามเนื้อล้วนๆ!

ฮันโซฮียังบอกอีกว่า เธอพกมีดไว้ซ้อมตลอดเวลาแม้แต่ตอนนอน ความทุ่มเทของเธอเป็นที่ยอมรับจากทั้งผู้กำกับและนักแสดงนำท่านอื่นๆ ที่ร่วมแสดงในซีรีส์เรื่องนี้ พัคฮีซุนระบุว่า “เธอเตรียมตัวมาเยอะมากและแสดงอย่างเต็มที่ จะบอกว่าซีรีส์ My Name สร้างขึ้นและสำเร็จลุล่วงได้เพราะฮันโซฮีก็ว่าได้ครับ” ส่วนอันโบฮยอนก็ออกปากชมว่า “ผมคิดว่าเธอน่าทึ่งมากครับ”

 

ภาพ จาก Netflix

 

“พัคฮีซุน” หล่อร้ายในแบบที่ต้องตกหลุมรัก กับบทที่มีความซับซ้อนทางอารมณ์ ครองใจแฟนๆ ทั้งโลกโซเชียล

พัคฮีซุนเป็นนักแสดงระดับท็อปที่ได้รับการยกย่องจากทุกบทบาทตัวละคร ด้วยการแสดงที่ประณีตและการปรากฏตัวอย่างสง่างามของเขาในผลงานที่โดดเด่นอย่าง The Witch: Part 1 - The Subversion, 1987: When the Day Comes และ The Fortress ก่อนจะได้มารับบทเป็น ชเวมูจิน บอสใหญ่แห่งแก๊งดงชอนในซีรีส์เรื่อง My Name ที่เขาได้เผยเสน่ห์อันเยือกเย็นของตัวละคร จนใครก็อดไม่ได้ที่จะเอาใจช่วย

แม้ชเวมูจินจะรับจีอูเข้าแก๊งและเลี้ยงดูเธอ สร้างตัวตนใหม่ให้จีอูแทรกซึมเข้าไปในฝ่ายตำรวจและเป็นสายลับให้เขา เขาพยายามปกป้องเธออย่างมาก แต่ขณะเดียวกันก็ไม่เปิดเผยตัวตนที่แท้จริงให้เธอรู้ พัคฮีซุนระบุว่าหนึ่งในเหตุผลที่รับบทในซีรีส์เรื่องนี้ก็เพราะตัวละครชเวมูจินมีความซับซ้อนและเต็มไปด้วยความรู้สึกสิ้นหวัง โดยเขาเองได้เพิ่มความล้ำลึกและเพิ่มมิติในการถ่ายทอดตัวละครที่ปิดบังบางสิ่งไว้ได้เป็นอย่างดี

พัคฮีซุนให้นิยามว่า My Name เป็นซีรีส์ “แอคชั่นสะเทือนอารมณ์” เพราะนอกจากจะเป็นการต่อสู้ที่ใช้ร่างกายปะทะร่างกายเน้นๆ แทบไม่ได้ใช้สลิงหรือ CG แล้ว ในการต่อสู้แทบทุกฉากยังแฝงไปด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย และยังทำงานกับความคิดและความรู้สึกของคนดูได้อย่างดีเยี่ยมสมมาตรฐานผลงานจากเกาหลีใต้ ซึ่งความสะเทือนอารมณ์นี้เองคืออีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ My Name แตกต่างออกไปจากซีรีส์แอคชั่นอื่นๆ อย่างเห็นได้ชัด

 

ภาพ จาก Netflix

 

“อันโบฮยอน” ดาวรุ่งที่น่าจับตากับบทบาทที่ต้องเป็นเขาคนนี้เท่านั้น

อันโบฮยอนเดินบนเส้นทางอาชีพนักแสดงของเขาอย่างอดทน และฝึกปรือทักษะด้านการแสดงผ่านบทบาทเล็กๆ มากมายทั้งซีรีส์และภาพยนตร์ เขาได้โอกาสแสดงศักยภาพจนเป็นที่รู้จักในวงกว้างจากบทตัวร้ายที่มีความซับซ้อนทางอารมณ์ในเรื่อง ธุรกิจปิดเกมแค้น (Itaewon Class) คราวนี้เขากลับมาโชว์การแสดงที่เหนือกว่าในบทบาทที่ต่างจากเดิมกับตัวละคร จอนพิลโด ตำรวจมือหนึ่งของแผนกปราบปรามยาเสพติดในซีรีส์ My Name ที่ต้องทำงานเป็นคู่หูกับยุนจีอู

สีหน้าเคร่งขรึมและสายตาอันดุดันของอันโบฮยอนสะท้อนตัวตนของจอนพิลโดได้ดี อันโบฮยอนเข้าใจดีถึงความเป็นเพอร์เฟกต์ชั่นนิสต์ของตัวละครที่ยึดมั่นอุดมการณ์และมีความเชื่อมั่นในตัวเอง ขณะเดียวกันเขาก็สามารถสื่อให้เห็นความเปลี่ยนแปลงที่ละเอียดอ่อนในใจของพิลโด ที่เกิดขึ้นระหว่างร่วมงานกับจีอูในฐานะคู่หู ซึ่งมีแค่อันโบฮยอนเท่านั้นที่สามารถสร้างตัวละครนี้ให้มีชีวิตได้

อันโบฮยอนกล่าวว่าเขาอยากทำผลงานชิ้นนี้ออกมาให้ดี นักแสดงทุกคนเตรียมตัวกันมานาน และถึงแม้ว่าเขาจะเป็นคนที่ออกกำลังกายอยู่แล้ว แต่เขายังต้องไปฝึกซ้อมทุกวันและเรียนศิลปะการต่อสู้ร่วมกับนักแสดงคนอื่นๆ อยู่ร่วมสองเดือน โดยที่เขามักจะแบ่งปันคลิปวิดีโอที่ถ่ายไว้ตอนฝึกซ้อมกับนักแสดงคนอื่นๆ เพื่อจะได้ปรับจังหวะท่าทางการแสดงให้เข้ากันได้ดียิ่งขึ้น ความทุ่มเทที่อันโบฮยอนและนักแสดงทุกคนมีให้กับซีรีส์เรื่องนี้ทำให้ผู้กำกับคิมจินมินเอ่ยปากขอบคุณโดยกล่าวว่า “มันเกินคำว่าน่ายกย่องครับ”

 

 

แฟนๆ คนไหนโดนตกจากบทบาทใหม่ที่ทรงเสน่ห์ของพวกเขาเหล่านี้กันบ้าง? ลองตามไปชมเบื้องหลังกันได้ที่นี่ และหากใครยังไม่ได้เปิดดูเรื่องราวการล้างแค้นของหญิงสาวที่ทั้งบู๊ระห่ำและสะเทือนอารมณ์เรื่องนี้กันละก็ ตามไปชมซีรีส์ My Name กันได้แล้ววันนี้ที่ Netflix เท่านั้น!

 

 

: Netflix, My Name

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • เมื่อ "เทคฯ" DISRUPT ไทย อะไรจะเกิดขึ้น? "อนาฅต" ซีรีส์ดราม่าล้ำยุค ที่ชวนพลิก 4 เรื่องไทยในมุมมองใหม่
  • "อนาฅต" ใกล้อุบัติขึ้นแล้ว! ซีรีส์ดราม่าไทยล้ำยุค เตรียมรับปรากฏการณ์ "เทคฯ" DISRUPT ไทย 4 ธันวาคมนี้
  • ได้เวลากลับเข้าสู่เกมแล้ว! Netflix ปล่อยทีเซอร์แรกจากซีรีส์ สควิดเกม เล่นลุ้นตาย (Squid Game) ซีซั่น 2
  • 31 ตุลานี้! เตรียมพบมิติใหม่แห่งความลึกลับกับเรื่องราวที่ไม่อาจละสายตาใน อย่ากลับบ้าน (Don’t Come Home)
  • "บางสถานที่ ไม่ควรจะกลับไป" เปิดเบาะแสลับชี้เหตุการณ์ประหลาดในบ้านจารึกอนันต์ อย่ากลับบ้าน (Don’t Come Home)
  •  
     
     
    ร่วมแสดงความคิดเห็น
     
    ชื่อ :
     
    ความคิดเห็น :