ซาห์รา คาริมี (Sahraa Karimi) ผู้กำกับหญิงชาวอัฟกันที่หนีพ้นจากกลุ่มตาลีบันมายังยุโรปอย่างปลอดภัยได้หวุดหวิดเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน กำลังจะดัดแปลงเรื่องจริงสุดสะเทือนใจของเธอมาเป็นผลงานภาพยนตร์ให้ทุกคนได้ชมกัน โดยภาพยนตร์เรื่องนี้จะใช้ชื่อว่า Flight from Kabul ที่จะพาไปย้อนรอยช่วงเวลากว่า 40 ชั่วโมง นับตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคม ที่ตาลีบันบุกยึดเมืองหลวงของอัฟกานิสถาน ไปจนถึงตอนที่ คาริมี สามารถหนีออกมาพร้อมกับครอบครัวของเธอได้ในที่สุด โดยเธอได้เดินทางไปยังเมืองอิสตันบูล ก่อนที่สุดท้ายจะเดินทางต่อมายังเมืองเคียฟ ประเทศยูเครน
"ฉันอยากแสดงให้โลกเห็นว่ามันเป็นวันที่ปกติดีวันหนึ่ง ทุกอย่างเป็นไปอย่างปกติ แต่จากนั้นมันก็พังทลายไปหมด" คาริมี เปิดใจให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว The Hollywood Reporter "ในข่าวทุกคนได้เห็นแค่เพียงเรื่องราวที่ใหญ่กว่าในภาพรวมของฝูงชน แต่มันยังมีเรื่องราวของแต่ละคนยิบย่อยอีกมากมายในช่วงเวลา 40 ชั่วโมงนั้น เรื่องราวต่าง ๆ ที่ฉันได้เห็นกับตาตัวเอง มันเป็นเรื่องราวที่ฉันได้สัมผัสด้วยตัวเอง"
คาริมี เผยว่า คาตายูน ชาฮาบิ (Katayoon Shahabi) โปรดิวเซอร์ภาพยนตร์เรื่องแรกของเธอ Hava, Maryam, Ayesha ที่ได้รับเลือกให้เปิดแสดงรอบปฐมทัศน์ในงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองเวนิส เมื่อปี 2019 จะมาอำนวยการสร้างภาพยนตร์ Flight from Kabul ร่วมกับ แวนดา อดามิค ไฮร์โควา (Wanda Adamik Hrycova) โปรดิวเซอร์และประธาน Slovak Film and Television Academy โดย ไฮร์โควา นั้นเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วย คาริมี หนีออกมาจากประเทศอัฟกานิสถาน และช่วยให้เธอเดินทางมายังยูเครนอย่างปลอดภัย ซึ่ง คาริมี เคยเรียนภาพยนตร์ในสโลวาเกียและยังมีสัญชาติสโลวักอีกด้วย
คาริมี ได้บันทึกภาพการหลบหนีของเธอบางส่วนลงบนโซเชียลมีเดีย เป็นการถ่ายฉากที่เธอวิ่งไปตามถนนในกรุงคาบูล และตะโกนบอกคนอื่น ๆ ว่า "กลุ่มตาลิบันกำลังมา! วิ่ง! วิ่ง!"
"มันยาก และมันก็ยังคงเป็นเรื่องยากสำหรับฉันที่จะจดจำช่วงเวลานั้น" คาริมี เผย "แต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วฉันนั่งลงมองตัวเองในกระจก แล้วก็ถามตัวเองว่า 'ซาห์รา เธอจะเศร้าแบบนี้ไปตลอดทั้งชีวิตเลยเหรอ?' นี่คือความจริง คุณมีบาดแผลชอกช้ำในใจ และหนทางเดียวที่จะลืมบาดแผลนี้ไปอย่างน้อยสักระยะหนึ่ง ก็คือการเขียนมันออกมา และสร้างมันเป็นภาพยนตร์สักเรื่อง"
คาริมี เป็นประธานหญิงคนแรกขององค์กรภาพยนตร์อัฟกัน และเธอก็มีโอกาสได้ไปร่วมงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองเวนิสเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับบทบาทของสมาคมภาพยนตร์นานาชาติที่ต้องตระหนักให้มากขึ้นถึงชะตากรรมของศิลปินที่ยังคงอยู่ภายใต้การปกครองของตาลิบัน โดยเธอได้เรียกร้องต่อสมาคมภาพยนตร์นานาชาติว่า "เพื่อเป็นกระบอกเสียงของพวกเรา พวกคุณทุกคนจงอย่าลืมอัฟกานิสถาน พวกเรามีความสามารถ พวกเราทุ่มเททำงานอย่างหนัก พวกเรามีเรื่องราวมากมายที่จะบอกเล่าให้โลกได้รู้ พวกเราสามารถเป็นส่วนหนึ่งของสังคมโลกได้ พวกเราพยายามกันอย่างมาก พวกเราไม่ควรจะถูกลืม"
: