นักแสดงหนุ่ม อีแทฮวาน (Lee Tae-Hwan) เปิดใจให้สัมภาษณ์ถึงความรู้สึกที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในผลงานซีรีส์ Royal Secret Agent ที่เพิ่งจะปิดฉากลงไปเมื่อไม่นานมานี้ พร้อมขอบคุณผู้ชมทุกคนที่ให้การตอบรับซีรีส์เรื่องนี้เป็นอย่างดีตั้งแต่เริ่มเปิดฉากจนกระทั่งลาจอไป
Royal Secret Agent เป็นซีรีส์แนวดราม่า-ลึกลับที่มีฉากหลังเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในยุคโชซอน โดยในเรื่อง อีแทฮวาน รับบทเป็น “ซองยีบอม” หัวหน้าโจรและน้องชายต่างแม่ของผู้ตรวจการลับ “ซองยีคยอม” ซึ่งรับบทโดย คิมมยองซู (Kim Myung-Soo) ซึ่ง อีแทฮวาน ได้กล่าวขอบคุณผู้ชมที่ชื่นชอบซีรีส์เรื่องนี้ว่า “มันรู้สึกราวกับว่าการถ่ายทำวันแรกเพิ่งจะเริ่มขึ้นเมื่อวานนี้เองครับ ซึ่งมันน่าเสียใจจริง ๆ ที่ซีรีส์เรื่องนี้จบลงแล้ว ผมได้มีช่วงเวลาดี ๆ ในกองถ่าย และผมก็เข้ากันได้ดีกับทั้งผู้กำกับ เพื่อน ๆ นักแสดง และทีมงานครับ ที่สำคัญที่สุดเลยผมอยากจะขอบคุณทุกคนจากใจที่มอบความรักให้กับซีรีส์เรื่องนี้ตั้งแต่เริ่มจนจบเลยครับ”
Royal Secret Agent ทุบสถิติเรตติ้งสูงสุดของตัวเองหลายต่อหลายครั้งในช่วงที่กำลังออนแอร์ โดยมีเรตติ้งเฉลี่ยทั่วประเทศสูงถึง 10.2% ถึง 14% ในการออกอากาศตอนจบ อีแทฮวาน เผยว่าเขาได้รับข้อความและรูปภาพต่าง ๆ มากมายจากครอบครัวและเพื่อน ๆ ที่ดูซีรีส์เรื่องนี้กันสด ๆ เขาหัวเราะและกล่าวเสริมว่า “ช่วงอายุของผู้ชมที่จดจำผมได้มันเพิ่มขึ้นครับ”
เมื่อถามถึงซีนที่น่าจดจำที่สุด อีแทฮวาน ก็ตอบว่า “ซีนในตอนสุดท้ายที่ ซองยีคยอม ชี้ดาบมาไปที่ ซองยีบอม ครับ อารมณ์ความรู้สึกต่าง ๆ ที่มันท่วมท้นระหว่างพวกเขามันจางหายไปในระหว่างซีนนั้น และคุณสามารถรับรู้ได้ผ่านแววตาของพวกเขาว่าพวกเขาให้อภัยซึ่งกันและกันแล้ว ดังนั้นนั่นเลยเป็นฉากที่น่าจดจำที่สุดสำหรับผมครับ”
อีแทฮวาน ยังเล่าถึงการเตรียมตัวมาสวมบท ซองยีบอม ในซีรีส์เรื่องนี้ให้ฟังอีกว่า “ผมได้ศึกษาถึงเสน่ห์อันนุ่มนวลที่ถูกถ่ายทอดออกมาได้ดีจากตัวละครของ คิมนัมกิล และ ยูยอนซอก ที่แสดงใน The Great Queen Seondeok และ Mr. Sunshine ครับ” และเมื่อถามถึงความคล้ายคลึงระหว่างตัวละคร ซองยีบอม กับตัวตนในชีวิตจริง อีแทฮวาน ก็ตอบว่า “เมื่อมีปัญหา ผมจะพยายามทำในสิ่งที่ถูกต้อง และผมก็คล้ายกับเขาตรงที่ผมเป็นคนยึดมั่นในความยุติธรรมด้วยครับ”
นอกจากนี้ อีแทฮวาน ยังพูดถึงการที่ได้มาร่วมงานกับเพื่อนนักแสดงคนอื่น ๆ ในซีรีส์เรื่องนี้ทั้ง คิมมยองซู, อียีคยอง (Lee Yi-Kyung), ควอนนารา (Kwon Nara) และ โจซูมิน (Jo Soo-Min) ด้วยว่า “พวกเราทุกคนเป็นทีมเวิร์คที่ดีครับ เมื่อไหร่ก็ตามที่มีฉากแอ็คชั่น คิมมยองซู เขาก็จะคอยดูแลผม เหมือนกับว่าเขาเป็นพี่ชายแท้ ๆ ของผมเลยล่ะครับ ส่วน อียีคยอง เขาก็เป็นนักสร้างบรรยากาศ เขาเป็นคนที่เต็มไปด้วยไอเดียอยู่ตลอดเวลาเลยล่ะครับ เมื่อไหร่ก็ตามที่ผมเจอปัญหาเกี่ยวกับการแสดงของผม เขาก็จะช่วยแก้ไขมันเหมือนกับว่าเขาเป็นนักแก้ปัญหา และเขาก็คอยช่วยเหลือผมอยู่เสมอเลยล่ะครับ ส่วน ควอนนารา เธอจะเป็นคนทำให้กองถ่ายมีชีวิตชีวาขึ้นมาด้วยความแข็งแรงบึกบึนของเธอครับ พลังของ โจซูมิน ก็ช่วยเติมเต็มบรรยากาศที่ดีในกองถ่ายครับ ผมต้องขอขอบคุณทุก ๆ คนในกองจากใจเลยครับ”
สำหรับการเตรียมตัวที่จะต้องมาแสดงฉากบู๊ในซีรีส์เรื่องนี้ อีแทฮวาน เล่าว่า “ผมมีประสบการณ์บู๊มากมายเลยครับ แต่เนื่องจากมันมีวิชาดาบเยอะมาก ผมจึงไปเรียนคอร์ส 4 ชั่วโมงที่โรงเรียนสอนการต่อสู้สัปดาห์ละ 3 ครั้ง แล้วก็หมั่นฝึกฝนอย่างมีสมาธิครับ ผมจดจ่อกับการเตรียมตัวสำหรับฉากแอ็คชั่นหนักมากจนเล็บเท้าของผมกลายเป็นสีดำเลยครับ”
ในซีรีส์ อีแทฮวาน ต้องถ่ายทอดหลากหลายอารมณ์ความรู้สึกที่ซับซ้อนของ ซองยีบอม ผู้มีเส้นทางชีวิตแตกต่างจากพี่ชายของเขาโดยสิ้นเชิง ซึ่งเขาเผยว่า “โดยปกติแล้วพี่น้องจะทะเลาะกันอยู่บ่อย ๆ เมื่อพวกเขาโตขึ้น ผมจึงแสดงออกมาด้วยความคิดที่ว่าเขาเป็นคนที่ผมเกลียดไม่ลง แม้ว่าผมจะพยายามแล้วก็ตาม ถึงแม้ว่า ซองยีบอม กับ ซองยีคยอม จะทะเลาะกันบ่อยเนื่องจากค่านิยามที่ต่างกันของพวกเขา แต่ผมรู้ดีว่าลึก ๆ แล้วเขาก็คงจะคิดว่า ‘แต่ยังไงเขาก็เป็นพี่ชายของผม’ แล้วก็ถ่ายทอดความรู้สึกนั้นออกมาผ่านการแสดงของผม”
อีแทฮวาน ยังแชร์ความเห็นอีกว่า ซองยีบอม น่าจะทำอะไรต่อไปหลังบทสรุปของซีรีส์เรื่องนี้ “ซองยีคยอม กับ ซองยีบอม คิดได้ในตอนสุดท้าย และผมคิดว่า ซองยีคยอม น่าจะเข้าใจเส้นทางชีวิตของ ซองยีบอม ผมอยากจะคิดว่า ซองยีบอม ได้ใช้ชีวิตอยู่กับ คังซุนเอ (รับบทโดย โจซูมิน) ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งอย่างเงียบ ๆ แล้วก็แอบสาปส่งพวกเจ้าหน้าที่ที่ทุจริตอย่างลับ ๆ เมื่อพวกเขาปรากฏตัวออกมา” อีแทฮวาน กล่าวพร้อมเสียงหัวเราะ
อีแทฮวาน ฝากข้อความถึงผู้ชมส่งท้ายว่า “พวกเราสนุกกับการถ่ายทำก็เพราะความรักที่พวกเราได้รับจากทุกคน ในช่วงเวลาเช่นนี้ที่ซึ่งทุกคนต้องเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบาก ผมหวังว่าซีรีส์เรื่องนี้จะยังคงอยู่ในความทรงจำของพวกคุณ ในฐานะแหล่งพลังงานที่ช่วยเยียวยาและบรรเทาให้รู้สึกสบายใจนะครับ ผมขอขอบคุณทุกคนจากใจที่มอบความรักให้กับ Royal Secret Agent สุขสันต์ปีใหม่นะครับ”