หลังจากละคร ปอบผีเจ้า ภาคหนึ่ง ได้สร้างตำนานความหลอน ขวัญผวากันทั่วบ้าน ทั่วเมือง จนเป็นที่พูดถึงกันปากต่อปาก ล่าสุดทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 8 ไม่รีรอพร้อมปลุกตำนานความหลอนต่อในละคร “ปอบผีเจ้า” ภาคสอง เพื่อเอาใจแฟนละคร แถมครั้งนี้ก็ไม่พลาดที่จะสานต่อความขวัญผวาคูณสอง เรื่องราวเข้มข้นขึ้นไม่แพ้ภาคแรก แต่ยังคงดำเนินเรื่องของปอบ “การเวก” รับบทโดย “น้ำผึ้ง-ณัฐริกา ธรรมปรีดานันท์” ซึ่งครั้งนี้ได้นักแสดงเจ้าบทบาทอย่าง “จูน-ชลฤดี อมรลักษณ์” ประกบคู่พระเอก “สมาร์ท-กฤษฎา พรเวโรจน์” เสริมด้วยนักแสดงมากฝีมือ อาทิ ดิว-อริสรา ทองบริสุทธิ์, มีน-อัจจิมา โกสุมา, ดรีม-กันต์ดนัย ชื่นหิรัญ, บอย-โชคชัย บุญวรเมธี, ต้น-จักรกฤษณ์ อำมะรัตน์, ตฤณ เศรษฐโชค, ขวัญฤดี กลมกล่อม, หยา-จรรยา ธนาสว่างกุล ฯลฯ บทประพันธ์โดย วาทินีย์ โอฬารกร บทโทรทัศน์โดย วาทินีย์ / ปริศนา กำกับการแสดงโดย อดุลย์ บุญบุตร ออกอากาศ ทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 19.00-20.00 น. ทางช่อง 8 กดเลข 27 เริ่มต่อจากภาคแรกทันทีใน (วันที่ 7 กรกฎาคม นี้) เตรียมนั่งหน้าจอรอชมความสนุกได้เลย
เรื่องราว วงแหวนที่อุ้มท้องหนีตายจากเหตุการณ์ผีห่าบุกเวียงผาจันทร์ โดยได้ เสือ องครักษ์ที่หลงรักเธอมาตลอดช่วยเหลือเอาไว้ ทั้งสองหนีเข้าไปในป่าและได้พบกับหมอคูน หมอยาช่วยเหลือเอาไว้ได้ แต่เสือก็ตายในเวลาต่อมา หลังจากนั้นวงแหวนคลอดลูกออกมาและตายในวันเดียวกัน ลูกของวงแหวนที่เกิดกับเรืองชื่อว่า งามตา ณ หมู่บ้านผาข่อนน้ำ ชาวบ้านถูกฆ่าตายแบบลึกลับจนมีข่าวลือว่าผีปอบอาละวาด และคนที่ชาวบ้านสงสัยก็คือ ยายคำ ยายแก่ที่มักจะป่วยกระเสาะกระแสะอยู่ตลอดเวลา งามตาซึ่งรับขันเป็นขะจ้ำผีฟ้า คอยช่วยหมอคูนออกรักษาชาวบ้านด้วยยาสมุนไพร หากอาการหนักหน่อยก็จะใช้พิธีเชิญผีฟ้ามาช่วย งามตามีข้อแม้ในการดำเนินชีวิตว่าจะต้องรักษาศีลและห้ามผิดผี นางเลยไม่เคยสนใจชายผู้ใด หรือแม้กระทั่ง เทพไท ชายหนุ่มจากพระนครที่มีเหตุให้ต้องเยือนที่ข่อนน้ำแห่งนี้เพราะลุงที่เขาเคารพเสียชีวิตกระทันหัน ทั้งคู่มีโอกาสได้พบกัน เกิดความรู้สึกบางอย่างต่อกันตั้งแต่ครั้งแรก ในขณะที่เทพไทประทับใจงามตา แต่งามตาต้องพยายามห้ามตัวเองด้วยกฎแห่งผีฟ้า เทพไทพยายามสืบหาความจริงว่าลุงของเขาเสียชีวิตเพราะอะไร เพราะสภาพศพที่เขาเห็นคือถูกควักไส้ออกมา ชาวบ้านบอกว่าเป็นเพราะผีปอบมากินไส้ แต่เขาเป็นนักเรียนนอกหัวสมัยใหม่ เขาไม่เคยเชื่อเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว เทพไทได้รับความช่วยเหลือจาก นักรบ ตำรวจหนุ่มประจำหมู่บ้านข่อนน้ำ ทั้งคู่ช่วยกันสืบเรื่องราวในขณะที่เทพไทก็พยายามที่จะใกล้ชิดกับงามตา แสงเงิน ลูกสาวผู้ใหญ่บ้านจึงทั้งอิจฉาและยิ่งเกลียดงามตาเข้าไปใหญ่ แสงเงินสั่งให้ มั่น ไปฉุดและคร่าความสาวจากงามตา แต่ในคืนนั้น ก็เกิดเรื่องขึ้น เมื่อร่างของงามตาพร้อมสำหรับการสืบทอดทายาทแห่งปอบ เลือดมารในกายอีกครึ่งจึงพร้อมเปิดรับการเวก งามตากลายเป็นร่างให้การเวกในคืนนั้น พวงแข คู่หมั้นของเทพไทตามมาหาเทพไทที่บ้านข่อนน้ำ เธอมักจะมีปากเสียงกับนักรบอยู่บ่อยครั้ง อีกทั้งเธอยังรู้สึกว่างามตาไม่เป็นมิตรต่อเธอเช่นกัน กระทั่งเธอถูกปอบงามตาทำร้ายจนต้องรีบเดินทางกลับพระนครพร้อมกับพ่อแม่ของเทพไทไปในที่สุด ทางด้านผู้ใหญ่บ้านสิงห์พ่อของแสงเงินนั้น เบื้องหลังคือการค้าวัตถุโบราณ เขาหวังว่าจะให้แสงเงินได้เสียกับเทพไท เพื่อที่ตนจะได้สะดวกสบายทั้งเรื่องเงินทองและเรื่องการค้าขายของด้วย แต่เป็นเพราะมั่นเองก็มีใจให้กับแสงเงิน ทำให้สุดท้ายมั่นเลือกที่จะทรยศผู้ใหญ่สิงห์และเอาแสงเงินเป็นเมีย พลังดีและชั่วร้ายต่อสู้กันในร่างของงามตา ในยามที่ร่างกายต้องแสงจ้าร่างบุญของนางจะมีอำนาจ แต่ในยามที่กายหลบหลีกจากแสงแดด นางกลับกลายเป็นร่างให้การเวกใช้โดยที่นางเองไม่เคยรู้ตัวเลย ข่าวการเสียชีวิตของชาวบ้านยังมีอยู่เรื่อยๆ ชาวบ้านยังแปลกใจอยู่ว่าใครคือปอบที่ออกล่าชาวบ้านเกือบทุกวัน ความผิดปกติเกิดขึ้นในชีวิตของงามตาจนคนรอบข้างเริ่มสงสัยรวมถึงตัวนางด้วย จนสุดท้ายนางได้รู้ว่าแท้จริงแล้ว ปอบที่ชาวบ้านพูดถึงก็คือนางนั่นเอง ความสับสนและหวาดกลัวเริ่มก่อตัวขึ้น เมื่อปอบคือสิ่งที่ชาวบ้านหวาดกลัวและรังเกียจ นางที่มีหน้าที่ช่วยเหลือชาวบ้าน แต่กลับเป็นนางเสียเองที่ทำร้ายผู้อื่น นางรู้ว่าเป้าหมายของการเวกคือการกลับมาอยู่กับคนที่นางรักก็คือ เทพไท การเวกต้องการครอบครองร่างของงามตาทั้งหมด เพื่อที่จะใช้ชีวิตอยู่กับเทพไทตลอดไป งามตาเองก็รักเทพไทเช่นกัน สุดท้ายความรัก ความเมตตาและความสงสารที่งามตามีให้การเวกจะช่วยให้งามตากับเทพไทครองรักกันได้หรือไม่ หรือการเวกจะต้องพ่ายแพ้ให้กับความดีของงามตาในครั้งนี้ ติดตามได้ใน “ปอบผีเจ้า” ภาคสอง
น้ำผึ้ง-ณัฐริกา ธรรมปรีดานันท์ “เรื่องนี้ เป็นอีกครั้งที่ได้กลับมาเริ่มภาคต่อจากภาคแรก ภาษาอีสานสำหรับน้ำผึ้งก็ยังคงยากเหมือนเดิม เนื้อเรื่องค่อนข้างสนุกมากขึ้น แถมความหน้ากลัวก็ทวีคูณเป็นสองเท่าเลย ได้พบกับน้องนักแสดงใหม่ ที่เป็นรุ่นสาม สนุกมาก โดยเฉพาะน้องจูน ที่เป็นนางเอกของเรื่อง เป็นนักแสดงหน้าใหม่ ที่น้ำผึ้งรู้สึกประทับใจ เล่นไม่เคยห่วงสวย แถมเล่นเป็นปอบได้น่ากลัวมากกว่าน้ำผึ้งเลย อยากให้แฟน ๆ มาร่วมลุ้นกันว่า สุดท้ายการเวกจะสมหวังกับคนรักหรือไม่”
สมาร์ท-กฤษฎา พรเวโรจน์ “อยู่มาสามยุคเลย ยุคที่สามเนื้อเรื่องเข้มข้นมากครับ แต่ยุคนี้ผมรับเป็นคนพระนคร เป็นคนหัวสมัยใหม่ และไม่เชื่อเรื่องผีสาง เลยไม่ได้พูดภาษาอีสานครับ แต่เรื่องราวก็ยังคงต่อเนื่องมาจากภาคแรก แต่ภาคสองนี้เราจะได้รู้ที่มาที่ไปของเรื่องราวทั้งหมด แถมขอแอบบอกว่ามีเซอร์ไพรส์ให้กับแฟนละครแน่นอน รับรองไม่ผิดหวังแน่ครับ”
จูน-ชลฤดี อมรลักษณ์ “เรื่องนี้ได้เรียนรู้ภาษาอีสาน และวัฒนธรรมของภาคอีสานค่อนข้างมาก บอกได้เลยว่าหลงรักภาษาอีสานแล้ว และที่สำคัญได้เป็นส่วนหนึ่งในการรำผีฟ้า และเล่นเป็นปอบในเวลาเดียวกัน สำหรับตัวจูนมายากมาก แต่ก็สนุกมาก เพราะเราเหมือนได้พัฒนาตัวเอง ดีใจที่ได้เล่นกับพี่น้ำผึ้ง พี่น้ำผึ้งถือว่าเป็นครูของจูนเลย ได้เรียนรู้การแสดงจากพี่น้ำผึ้งหลายอย่าง ห้ามพลาด ปอบผีเจ้า ภาคสอง เพราะสนุกเข้มข้นกว่าเดิมแน่นอน”
ดิว-อริสรา ทองบริสุทธิ์ “ดีใจมากที่ได้มาเล่นเรื่องนี้ เป็นบทที่ดิวไม่เคยได้เล่นมาก่อน อย่างการพูดภาษาอีสาน ได้ใส่ชุดผ้าซิ่นอีสาน และอีกหลายอย่างที่ดิวไม่เคยได้เล่นในละครมาก่อนเลย ถือว่าเป็นครั้งแรกจริง ๆ เรื่องนี้พอมีพี่ ๆ ทีมงานติดต่อมา ดิวพูดเลยว่าดิวตอบรับเล่นทันทีแบบไม่คิด เป็นละครที่ดิวอย่างเล่นมากอีกเรื่องหนึ่งเลย แถมบทบาทของดิวมีอะไรให้แฟน ๆ ได้เซอร์ไพรส์แน่นอน ห้ามพลาดกันนะ”
มีน-อัจจิมา โกสุมา “เป็นบทที่ท้าทายมาก และยิ่งต้องทำการบ้านมากเพราะเจอแต่พี่ๆดารามากฝีมือ และเป็นดวงใจของเรา อย่างพี่น้ำผึ้ง พี่สามาร์ท แอบมีเกร็งบ้าง แต่พี่ๆคอยสอนตลอด ถึงแม้ไม่ได้พูดภาษาอีสาน แต่ก็ได้กลิ่นอายของชาวอีสานจริง ๆ ละครเรื่องนี้ไม่ใช่แค่มีดีเรื่องปอบผีเจ้า แต่ยังแฝงถึงวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของภาคอีสาน รับรองสนุกมาก ฝากติดตามกันค่ะ”
ดรีม-กันต์ดนัย ชื่นหิรัญ “เป็นบทที่ท้าทายมาก เพราะผมต้องพูดภาษาอีสาน และพูดภาษากลาง คือเหมือนในเรื่องผมต้องเป็นล่ามให้กับฝั่งพระเอก ทำให้บางทีต้องปรับตัวให้ทัน แต่ดีมีพี่นักแสดงหลายท่านที่คอยแนะนำ อย่างพี่สมาร์ท เป็นละครเรื่องแรกที่ได้มาเล่นกับทางช่อง 8 รับรองสนุกมากแน่ ๆ ครับ ห้ามพลาด”