ไม่ใช่แค่แฟน ๆ ที่กำลังรอคอยเท่านั้นที่แทบจะไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับหนัง Tenet ของผู้กำกับ คริสโตเฟอร์ โนแลน (Christopher Nolan) ขนาดนักแสดงนำอย่าง โรเบิร์ต แพททินสัน (Robert Pattinson) ก็ยังถึงกับเอ่ยปากว่าตัวเขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าอะไรจะเกิดขึ้น ตอนที่ถ่ายทำหนังเรื่องนี้ ซึ่งขณะเปิดใจให้สัมภาษณ์กับ Esquire พร้อมกับ จอห์น เดวิด วอชิงตัน (John David Washington) แพททินสัน ขอยอมรับตรง ๆ เลยว่าสำหรับเขาพล็อตเรื่องของหนังจารกรรมระทึกขวัญเรื่องนี้มันน่าสับสนมากจริง ๆ
"มันเป็นหนังที่ซับซ้อนสุด ๆ เหมือนกับหนังของ คริสโตเฟอร์ โนแลน ทุก ๆ เรื่องนั่นแหละครับ คือผมจะสื่อว่าคุณจะได้ดูพวกมันก็ต่อเมื่อมันทำออกมาเสร็จแล้ว หรือไม่ก็ตัดต่อไปแล้วสัก 3 หรือ 4 ครั้ง เพื่อที่จะได้เข้าใจว่าความหมายที่แท้จริงของมันว่าคืออะไร" แพททินสัน กล่าว "ตอนที่คุณกำลังทำมันอยู่ คือผมจะบอกว่ามันมีช่วงเวลาหลายเดือนในตอนนั้นที่ผมรู้สึกเหมือนกับว่า 'นี่ผมเป็นใครเนี่ย ด้วยความสัตย์จริงเลยนะ จริง ๆ แล้วผมไม่รู้เลยว่าผมกำลังเข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้นแบบคลุมเครืออยู่รึป่าว' ใช่ครับ แน่นอนว่าผมก็พูดเรื่องนี้กับ จอห์น เดวิด ในวันสุดท้าย ผมถามเขาไปว่าอะไรมันเกิดขึ้นในฉากนั้น และมันก็เป็นความผิดพลาดแบบสุดซึ้งเลยล่ะในสิ่งที่ทำลงไปกับตัวละครของผม มันเหมือนกับว่า 'นี่คุณคิดแบบนี้มาตลอดเวลาเลยหรอ?'"
แพททินสัน ยังเสริมอีกว่าตอนแรก วอชิงตัน ก็สับสนกับพล็อตเรื่องอยู่เหมือนกัน "แน่นอนว่ามันจะมีความสัมพันธ์อย่างหนึ่งในตอนจบที่ซ่อนเร้นความจริงที่ว่า บางทีอาจจะมีหนึ่งในบรรดาพวกเราที่รู้ว่าจริง ๆ แล้วมันเกิดอะไรขึ้น แต่จากนั้นผมก็จะคิดว่า อ่า... แต่จริง ๆ แล้ว จอห์น เดวิด เขาน่าจะรู้นะ เขาต้องรู้สิว่ามันเกิดอะไรขึ้น"
ที่มา: Esquire.com