วาคีน ฟีนิกซ์ (Joaquin Phoenix) ปั้นหน้ามีความสุขในงานประกาศผลรางวัลลูกโลกทองคำครั้งที่ 77 พร้อมหอบหิ้วถ้วยรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ประเภทภาพยนตร์ดราม่า จากผลงานเรื่อง Joker กลับบ้านไปชื่นชม
ขณะขึ้นไปรับรางวัลและกล่าวขอบคุณบนเวที ฟีนิกซ์ ก็ได้ถือโอกาสแสดงความนับถือที่มีต่อสหายผู้เข้าชิงรางวัลในสาขาเดียวกันกับเขาทั้ง คริสเตียน เบล (Christian Bale) จาก Ford v Ferrari, แอนโตนิโอ แบนเดอรัส (Antonio Banderas) จาก Pain and Glory, อดัม ไดรเวอร์ (Adam Driver) จาก Marriage Story และ โจนาธาน ไพรซ์ (Jonathan Pryce) จาก The Two Popes ว่า "ผมเป็นนักเรียนแย่ ๆ ของพวกคุณ ด้วยความรู้สึกส่วนตัวแล้ว ผมคิดว่าผมยังตามหลังพวกคุณอยู่อีกไกลเลย ถึงแม้ว่าเราจะมีผู้จัดการคนเดียวกันก็เถอะ"
"มันดีจริง ๆ ที่ผู้คนจำนวนมากลุกขึ้นมาและช่วยส่งพรอันปรารถนาดีของพวกเขาไปให้กับออสเตรเลีย" ฟีนิกซ์ พูดถึงปัญหาไฟป่าที่ยังคงลุกลามอย่างหนักในประเทศออสเตรเลีย "มันเป็นการแสดงออกที่งดงาม แต่นั่นมันก็ยังไม่เพียงพอ... มันเยี่ยมไปเลยนะที่ได้ออกเสียง แต่บางครั้งเราก็ควรจะใช้เรื่องพวกนั้นมาจัดการกับความรับผิดชอบของตัวเราเอง แล้วก็ทำให้มันเกิดการเปลี่ยนแปลง และก็ควรจะต้องยอมเสียสละชีวิตส่วนตัวบางอย่างของเราด้วย เราไม่ควรที่จะใช้เครื่องบินส่วนตัวเพื่อบินไปกลับปาล์มสปริงส์หรอกนะ"
แม้กระแสตอบรับ Joker จะมีทั้งดีและไม่ดีผสมปนเปกันไป แต่นักวิจารณ์ส่วนใหญ่ต่างก็เทใจชื่นชมการแสดงของ ฟีนิกซ์ ในบท อาเธอร์ เฟล็ก เป็นอย่างดี แถมผลงานชิ้นนี้ยังประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ในส่วนของรายได้ จนปัจจุบัน Joker ได้ก้าวขึ้นมาเป็นหนังเรต R เรื่องแรกของโลกที่สามารถทำเงินทะลุ 1 พันล้านเหรียญได้สำเร็จไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วด้วย
นี่คือถ้วยรางวัลลูกโลกทองคำถ้วยที่ 2 ของ ฟีนิกซ์ ซึ่งก่อนหน้านี้เขาเคยคว้ารางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ประเภทภาพยนตร์เพลงหรือภาพยนตร์ตลก จากผลงานเรื่อง Walk the Line (2005) มาแล้ว นอกจากนี้เขายังถูกเสนอชื่อเข้าชิงอีก 4 ครั้งจากผลงานเรื่อง Gladiator (2000), The Master (2012), Her (2013) และ Inherent Vice (2014) อีกด้วย
ในห้องแถลงข่าวหลังคว้าชัยชนะ ฟีนิกซ์ ก็ถูกถามถึงความเป็นไปได้ที่จะทำหนังภาคต่อ Joker ออกมา ซึ่งเขาก็ให้คำตอบว่า "ผมว่าผมไม่เคยทำอะไรที่มันคาดเดาอะไรหลาย ๆ อย่างได้ง่าย ๆ ดังนั้นหากมันจะเกิดขึ้น มันคงไม่ใช่เพราะเราพยายามที่จะตามรอยเรื่องราวในหนังสือหรอกนะ แต่มันต้องเป็นเพราะเรารู้สึกมีแรงบันดาลใจอีกครั้งในการที่จะทำความรู้จักกับตัวละครนี้ให้ละเอียดถี่ถ้วนมากขึ้น นั่นคือเหตุผลเดียวสำหรับตัวผมที่จะทำมัน"
ที่มา: Ew.com