หลังจากเกิดการโต้เถียงกันบนโลกโซเชียลเกี่ยวกับประเด็นความรุนแรงในภาพยนตร์เรื่อง Joker ที่อาจส่งผลกระทบต่อสังคม จนทางครอบครัวของเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายจากเหตุยิงกันในออโรราเมื่อปี 2012 ตัดสินใจส่งสารไปหา Warner Bros. Pictures แสดงความกังวลที่มีต่อหนังของผู้กำกับ ทอดด์ ฟิลลิปส์ และขอให้ทางสตูดิโอส์ระงับการออกฉายผลงานชิ้นนี้ ทำให้ล่าสุดทางสตูดิโอส์ได้ตัดสินใจปล่อยแถลงการณ์ออกมาตอบโต้ประเด็นความขัดแย้งที่เกิดขึ้นออกมาแล้ว

"ความรุนแรงจากการใช้ปืนในสังคมของเรา มันเป็นประเด็นที่ถูกวิพากย์วิจารณ์อย่างหนักประเด็นหนึ่ง และเราเองก็รู้สึกเห็นอกเห็นใจอย่างสุดซึ้งต่อเหยื่อและครอบครัวของเหยื่อทุกคนที่เคยได้รับผลกระทบจากโศกนาฏกรรมเช่นนี้ ทางบริษัทของเรามีประวัติที่เคยให้การบริจาคช่วยเหลือบรรดาเหยื่อจากความรุนแรงมายาวนาน ซึ่งรวมไปถึงเหยื่อจากเหตุยิงกันในออโรราด้วย และเมื่อไม่กี่สัปดาห์มานี้ทางบริษัทของเราก็เพิ่งจะร่วมมือกับผู้นำทางธุรกิจรายอื่น ๆ เพื่อเรียกร้องให้มีการกำหนดนโยบายเพื่อออกกฎหมายกำหนดบทลงโทษพวกหัวรุนแรงเพื่อแสดงจุดยืนต่อประเด็นที่กำลังระบาดอยู่นี้ ในขณะเดียวกันทาง Warner Bros. ก็เชื่อมั่นว่าหนึ่งในหน้าที่ของการถ่ายทอดเรื่องราวก็คือเพื่อที่จะจุดประกายการพูดคุยที่มันยุ่งยากเกี่ยวกับประเด็นต่าง ๆ ที่มันซับซ้อน สิ่งที่ทำออกมาต้องไม่มีข้อผิดพลาดไม่ว่าจะเป็นเรื่องของตัวละครใน Joker หรือตัวหนังเองก็ตาม ซึ่งมันต้องได้รับความเห็นชอบเกี่ยวกับความรุนแรงที่เกิดขึ้นในโลกแห่งความเป็นจริงในทุก ๆ รูปแบบด้วย มันไม่ใช่จุดมุ่งหมายของหนังเรื่องนี้ ไม่ใช่จุดมุ่งหมายของทีมสร้างหรือทางสตูดิโอส์ที่ต้องการยกตัวละครนี้ขึ้นมาเป็นฮีโร่"

ก่อนหน้านี้ทางครอบครัวของเหยื่อจากเหตุการณ์ยิงกันในออโรราออกมาบอกว่าพวกเขายังคงถูกหลอกหลอนด้วยนรกและความเจ็บปวดจากเหตุยิงกันเมื่อปี 2012 อยู่เลย ซึ่งครั้งนั้นมีมือปืนคนหนึ่งสวมใส่ชุดเกราะทั้งตัวพร้อมพกพาอาวุธครบมือเข้ามายิงกระหน่ำใส่ผู้ชมที่กำลังชมภาพยนตร์เรื่อง The Dark Knight Rises อยู่ จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 12 ราย และบาดเจ็บอีก 58 ราย โศกนาฏกรรมครั้งนั้นถือเป็นเหตุการณ์ยิงกันที่มีเหยื่อรวมผู้บาดเจ็ดและผู้เสียชีวิตมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐอเมริกา และในหนัง Joker ที่กำลังจะเข้าฉายช่วงต้นเดือนหน้านี้ วาคีน ฟีนิกซ์ จะต้องรับบทเป็นชายคนหนึ่งที่ถูกสังคมกดขี่ข่มเหงจนวันหนึ่งเขาก็ลุกขึ้นมาต่อต้านสังคมด้วยความรุนแรง แล้วก็มองว่าการฆาตกรรมมันเป็นเรื่องสนุกสนาน ด้านผู้กำกับ ฟิลลิปส์ และตัว ฟีนิกซ์ เองต่างก็ออกมาปกป้องผลงานชิ้นนี้เช่นกัน

"อืม... ผมคิดว่าเรื่องใหญ่สำหรับเราก็คือการที่คุณจะต้องถ่ายทอดให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างความถูกต้องและไม่ถูกต้อง และสิ่งที่มันไม่ควรพวกนั้นเราก็สามารถถ่ายทอดทุกอย่างออกมาได้เป็นอย่างดีด้วยหนทางที่พวกเขาน่าจะต้องการให้เป็นแบบนั้น หลาย ๆ คนก็ตีความหมายของเนื้อหาในเพลงต่าง ๆ ผิดไป พวกเขาตีความบทความจากหนังสือผิดไป ดังนั้นผมเลยไม่คิดว่ามันจะต้องเป็นหน้าที่ของผู้กำกับที่จะต้องมาสอนผู้ชมเรื่องของจริยธรรม หรือความแตกต่างระหว่างเรื่องที่ผิดหรือถูกหรอกนะ คือผมจะสื่อว่าสำหรับตัวผมแล้ว ผมคิดว่าเรื่องนั้นมันก็ชัดเจนในตัวของมันเองอยู่แล้ว" ฟีนิกซ์ กล่าว

"สำหรับผมศิลปะมันสามารถกลายเป็นเรื่องที่ซับซ้อนได้ และบ่อยครั้งศิลปะมันก็ต้องการจะสื่อถึงความซับซ้อนนั่นแหละ ถ้าคุณต้องการเสพงานศิลปะที่มันไม่ซับซ้อน คุณอาจจะต้องการไปซึมซับพวกศิลปะการคัดลายมือแทน แต่สำหรับการทำหนังแล้วมันมักจะเป็นงานศิลปะที่ซับซ้อนเสมอแหละ" ฟิลลิปส์ กล่าว

ที่มา: Ew.com