พัค ซอจุน (Park Seo Joon) เปิดใจให้สัมภาษณ์กับ iMBC ถึงความรู้สึกที่ได้มารับบทนำในภาพยนตร์เรื่อง The Divine Fury พร้อมแชร์วิธีจัดการกับความเครียด และผีอำ รวมถึงเหตุผลที่ตัดสินใจรับซีรีส์เรื่องใหม่

The Divine Fury เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับสุดยอดนักสู้นามว่า "ยงฮู" (พัค ซอจุน) เขาเป็นผู้ที่ไร้ศรัทธาในเทพองค์ใดนอกจากตัวเอง จู่ ๆ เขากลับมีแผลเป็นที่ฝ่ามือเหมือนพระเยซู เขาจึงไปพบบาทหลวงอัน (รับบทโดย อัน ซึงกิ) เพื่อหวังจะรักษาแผลเป็น แต่กลายเป็นว่าตัวเขาเองกลับเป็นฝ่ายที่ต้องช่วยบาทหลวงที่เกือบเอาชีวิตไม่รอดจากการไล่ผีแทน เมื่อถามว่ารู้สึกยังไงหลังจากได้ชมหนังฉบับสมบูรณ์แล้ว พัค ซอจุน ก็ตอบว่า "มันมีอยู่หลายฉากที่ผมไม่ได้มีส่วนร่วมในการแสดง แล้วผมก็รู้สึกสงสัยว่าคอมพิวเตอร์กราฟฟิคจะทำมันออกมายังไง ดังนั้นผมเลยต้องรอหนังเวอร์ชั่นเสร็จสมบูรณ์นานมาก ๆ แล้วผมก็ยังเพลิดเพลินไปกับดนตรีด้วย เพราะมันมีส่วนช่วยยกระดับความตึงเครียด"

พัค ซอจุน ยังเผยถึงวิธีการเตรียมตัวเพื่อมารับบทสุดยอดนักสู้ในหนังเรื่องนี้อีกว่า "มันค่อนข้างยากนะที่จะต้องแสดงเป็นคนที่ยอมอุทิศเวลาทั้งชีวิตของเขาเพื่อการเป็นนักสู้มืออาชีพแบบนั้น แต่เพื่อที่จะแสดงออกมาให้ชัดเจนแล้วก็เข้าใจมันมากขึ้นอีกสักหน่อย ผมก็เลยต้องฟิตร่างกายหนักมาก แล้วก็ซ้อมคิวบู๊เยอะมากเลยด้วย ผมเริ่มถ่ายหนังเรื่องนี้หลังจากถ่ายละครมาได้ประมาณเดือนครึ่ง น้ำหนักผมลดลงไปเยอะเลยในระหว่างที่ถ่ายทำ แต่ผมก็พยายามทำมันออกมาให้ดีที่สุด"

"ล่าสุดผมเคยมีโอกาสได้รับบทเป็นนักสู้มาแล้วครั้งหนึ่งในซีรีส์ Fight My Way ร่างกายของผมมันยังพอจำการฟิตซ้อมต่าง ๆ กว่า 4 เดือนได้ เพราะตอนนั้นผมสามารถสร้างกล้ามเนื้อขึ้นมาเร็วกว่าที่ผมคาดคิดเอาไว้ได้ แล้วผมก็ยังเคยขึ้นไปสัมผัสเวทีแปดเหลี่ยมมาแล้วด้วย ซึ่งนั่นมันช่วยผมสำหรับหนังเรื่องนี้เยอะเลย สำหรับเวทีที่ต่างออกไป เวทีแปดเหลี่ยมมันเป็นที่ ๆ ซึ่งผู้ชมสามารถจับตามองขึ้นมาได้จดทุกทิศทุกทาง แล้วแสงไฟบนเวทีมันก็ร้อนมาก แค่ยืนเฉย ๆ ผมก็เหงื่อแตกไปทั้งตัวแล้ว ตอนที่ถ่ายซีรีส์เรื่องนั้นผมรู้สึกขัดเขินนิดหน่อยที่จะต้องยืนอยู่คนเดียวในชุดกีฬา กับถุงมือ แต่ในหนังเรื่องนี้ เวทีแปดเหลี่ยมมันอยู่ในลอสแองเจลิส ที่ซึ่งนักแสดงสมทบทุกคนเป็นคนต่างชาติแล้วในกองก็มีคนอยู่เยอะมาก ซึ่งมันทำให้ออกมาดูสมจริงมากกว่า แล้วผมก็ยังได้ถ่ายฉากต่อสู้ฉากหนึ่งกับนักสู้ตัวจริงอีกด้วย" พัค ซอจุน เสริม

พัค ซอจุน ยังพูดถึงการได้มาร่วมงานกับ อัน ซึงกิ (Ahn Sung Ki) ผู้รับบท บาทหลวงอัน ในหนังเรื่องนี้อีกว่า "ผมมีความสุขมาก ผมไม่คิดว่าผมจะมีโอกาสได้เจอเขาในการแสดง ดังนั้นผมก็เลยเฝ้ารอการพบกันครั้งนี้มากจริง ๆ ถ้าความสัมพันธ์มันไม่ได้อุ่นใจ มันก็ไม่ง่ายเลยที่จะถ่ายทำ แต่เขาบอกให้ผมเรียกเขาว่ารุ่นพี่แทนอาจารย์ แล้วเขาก็ช่วยให้ผมรู้สึกผ่อนคลายขึ้นด้วย ทีมเวิร์คของเราเยี่ยมมากเลย แถมมันยังมีหลาย ๆ อย่างให้ได้เรียนรู้ตลอดทุกช่วงเวลาที่อยู่กับเขาอีกด้วย ผมรู้สึกว่าบรรยากาศที่ดีในกองถ่ายนั่นมันน่าจะแผ่กระจายออกมาในหนังเรื่องนี้ด้วย"

นอกจากนี้ พัค ซอจุน ก็ยังพูดถึงการถ่ายทำฉากแอ็คชั่นกับ อู โดฮวาน (Woo Do Hwan) ด้วยว่า "เราฝึกซ้อมกันทุกวันเลย เรามีหลายฉากที่ต้องถ่ายด้วยกัน ดังนั้นเราก็เลยฝึกซ้อมกันฉากต่อฉาก เราแต่งเมคอัพพิเศษดังนั้นเราก็เลยกังวลว่าจะทำออกมายังไงในครั้งเดียวโดยไม่ได้ปล่อยไก่ออกมา เพราะถ้าเมคอัพมันพังออกมาในช่วงกลางของแอ็คชั่น มันก็จะต้องใช้เวลานานเพื่อซ่อมกันใหม่ ดังนั้นตอนที่เราฝึกซ้อมกันเราก็เลยพยายามที่จะทำให้การต่อสู้ของเรามันสอดคล้องกัน แล้วเราก็พยายามจะทำมันให้ได้ภายในครั้งเดียว แต่มันไม่ง่ายเลย"

เมื่อถามถึงแรงผลักดันเบื้องหลังการแสดง พัค ซอจุน ก็บอกว่า "โอกาสมันไม่ได้มีมาหาทุกคน ผมพยายามอย่างหนักที่จะไขว่คว้าโอกาสเอาไว้ มันมีช่วงเวลายากลำบากหลายต่อหลายครั้งที่ผมไม่รู้เลยว่าโอกาสมันจะมาถึงผม หรือผมได้แสดงไปอย่างถูกต้องแล้วหรือไม่ แต่ตอนนี้ผมมาถึงจุดที่หนังของผมกำลังจะได้ออกฉายแล้ว ทุก ๆ ช่วงเวลา ทุก ๆ โมเม้นท์มันมีค่ามากจริง ๆ มันเหมือนได้รับพรที่ผมสามารถทำหลาย ๆ สิ่งที่ผมสนุกกับมันเพื่องานได้ อันดับแรกเลยคือผมทำงานเพื่อสนองความพึงพอใจของตัวเอง แต่บางคนมาบอกผมว่าพวกเขาได้รับอิทธิพลมาจากผม หนึ่งในแฟนคลับของผมเธอบอกว่าเธอเอาชนะความเครียดหลังคลอดได้เพราะดูละครของผม นั่นทำให้ผมรู้สึกว่าการแสดงมันเป็นสิ่งหนึ่งมีผลต่อสังคม และนั่นมันก็ทำให้การแสดงมีความหมายมากขึ้นด้วย ผมว่ามันเป็นสิ่งที่ช่วยผลักดันผมให้ทำให้ใครหลาย ๆ คนรู้สึกดีผ่านผลงานของผม และก็เพื่อสร้างเวลาที่เป็นประโยชน์ให้กับพวกเขาด้วย"

พัค ซอจุน เผยว่าเขาถูกผีอำอยู่บ่อย ๆ ตอนสมัยเรียนอยู่ไฮสคูล "มันเป็นช่วงเวลาที่ความเครียดของผมมันพุ่งถึงจุดสูงสุด และช่วงเวลาที่ผมอ่อนแอ มันก็จะกลับมา แต่ผมก็มีวิธีของผมในการเอาชนะการถูกผีอำนะ ถ้าผมขยับส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย มันก็ง่ายมากเลยที่ผมจะตื่นขึ้นมา มันเกิดขึ้นบ่อยมากซึ่งผมรู้เลยว่ามันจะมาเมื่อไหร่ แล้วผมก็จะตื่นขึ้นมาอย่างเร็วเลยหลังจากนั้น หรือเวลาที่ผมรู้สึกว่ามันกำลังจะมา ผมก็จะเปิดทีวีเอาไว้เลย"

พัค ซอจุน แชร์วิธีเอาชนะความเครียดตามแบบของเขาเอาไว้ว่า "ผมต้องออกกำลังกาย หรือไม่ก็ดูหนังหลาย ๆ เรื่อง เพราะผมไม่ได้มีอะไรจะทำเป็นพิเศษเพื่อที่จะบรรเทาความเครียดหรือเติมความสดชื่น แต่ผมมีงานอดิเรกอย่างหนึ่งที่ผมกำลังสนใจอยู่ทุกวันนี้นั่นคือการวาดรูป เมื่อผมหันมาสนใจกับการวาดรูปเป็นพิเศษ ผมก็เริ่มค้นหากระบวนการต่าง ๆ ของมัน มองหานิทรรศการต่าง ๆ แล้วการที่ได้รู้จักกับศิลปินมันก็เป็นยาชูกำลังให้ผมรู้สึกสดชื่นด้วย ล่าสุดผมได้ไปนิทรรศการของ เจมส์ จีน มันมีภาพวาดเยอะมากเลย ผมชอบมันมาก ๆ ผมขอแนะนำเลยนะ"

พัค ซอจุน เพิ่งจะตกลงรับเล่นซีรีส์เรื่องใหม่ Itaewon Class ซึ่งอิงมาจากเว็ปตูนยอดฮิตของ กวัง จิน มันเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับชายคนหนึ่งที่ต้องฝ่าฟันอุปสรรคต่าง ๆ นานาหลังจากที่พ่อของเขาตาย พัค ซอจุน อธิบายเหตุผลที่ตัดสินใจรับซีรีส์เรื่องนี้ว่า "ผมเคยทำซีรีส์เว็ปตูนมาแล้วครั้งหนึ่ง ดังนั้นผมจึงมีเซ้นท์ในการที่จะทำให้แฟน ๆ ต้นฉบับสนุกไปกับผลงานโดยปราศจากการทำให้ต้นฉบับต้องเจ็บปวด แล้วผมก็ชอบมันเพราะตัวละครมันดูมีมิติ และเรื่องราวมันก็สดใหม่ด้วย เส้นเรื่องมันก็พิเศษดีด้วย เส้นเรื่องของแอลกอฮอล์เป็นสิ่งที่ยังคงขมขื่นสำหรับผม มันเป็นตัวกระตุ้นให้ผมเลือกที่จะทำซีรีส์เรื่องนี้ พอโปรโมทหนัง The Divine Fury เสร็จ ผมก็จะกลับมาพบพวกคุณด้วยบทบาทใหม่"

The Divine Fury กำลังจะเข้าฉายในบ้านเราวันที่ 22 สิงหาคมนี้

ที่มา: Soompi.com