ผ่านมาแล้วกว่า 1 ปีที่ เจสสิก้า แชสเทน และหมู่คณะออกมาประกาศข่าวสร้างหนังแอ็คชั่น-สายลับพลังหญิง "355" ในงานเทศกาลหนังเมืองคานส์ ในที่สุดตอนนี้มันได้ฤกษ์งามยามดีที่ แชสเทน, ลูปิต้า เอ็นยองโก, เพเนโลเป้ ครูซ และฟ่านปิงปิง จะกลับมารวมตัวอีกครั้งแล้ว เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา แชสเทน ได้แชร์คลิปเบื้องหลังการเตรียมพร้อมออกมาให้แฟน ๆ ได้ชมกันผ่านไอจีส่วนตัวของเธอ พร้อมแจ้งข่าวดีให้ทราบว่าปัจจุบันโปรเจ็คนี้ได้เริ่มเดินหน้าถ่ายทำอย่างเป็นทางการแล้ว
ในคลิปเราจะได้เห็นการเตรียมพร้อมของบุคลากรทั้งเบื้องหน้าเบื้องหลัง ซึ่งนอกจากจะได้เห็นการฝึกฝนของบรรดานักแสดงนำหญิงแล้ว เราก็ยังได้เห็นผู้กำกับ ไซมอน คินเบิร์ก โผล่มาในคลิปด้วย "ตอนที่ฉันกับไซมอนกำลังทำหนัง X-Men กันอยู่ ฉันก็เกิดไอเดียอยากจะทำหนังแอ็คชั่นรวมทีมนักแสดงหญิงนี้ขึ้นมา" แชสเทน กล่าวขณะนั่งอยู่บนรถที่กำลังขับวนไปรอบ ๆ ปารีส "ดังนั้นฉันก็เลยติดต่อนักแสดงหญิงทุกคนไป และเราต่างก็อยู่ในสตูดิโอ คือทุกคนกำลังถ่ายหนังของตัวเองกันอยู่น่ะ แต่ตอนนี้เราพร้อมจะลุยมันแล้ว" ซึ่ง แชสเทน เคยให้สัมภาษณ์กับ The Hollywood Reporter เกี่ยวกับโปรเจ็คนี้ไว้เมื่อปีที่แล้วว่า "ฉันรักไอเดียการสร้างหนังเรื่องนี้นะ และฉันก็เห็นว่าผู้หญิงเหล่านี้ไม่ใช่แค่คนที่จะถูกจ้างด้วยเงินได้แค่นั้น"
Universal Pictures ยอมทุ่มเงินกว่า 20 ล้านเหรียญเพื่อ "355" ซึ่งนั่นทำให้หนังเรื่องนี้กลายเป็นหนังที่ราคาสูงที่สุดในงานเทศกาลหนังเมืองคานส์ปี 2018 แต่กว่าจะเริ่มเดินหน้าเปิดกล้องได้ พวกเขาก็ต้องเผชิญกับปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างทางมากมายทั้งเรื่องที่ ฟ่านปิงปิง นักแสดงตัวท๊อปจากแดนแผ่นดินใหญ่หายตัวไปท่ามกลางข่าวลือมากมายเกี่ยวกับการเลี่ยงภาษีจนกลายเป็นข่าวอึกทึกครึกโครมไปทั่วโลก แต่ภายหลังเธอก็ได้ปรากฎตัวออกมาแสดงความขอโทษ และยอมรับผิดพร้อมชดใช้เงินภาษีคืนให้กับทางรัฐบาลจีน
ในขณะเดียวกันทางค่ายหนังของจีน Huayi Brothers Media ก็ถอนตัวไปจากโปรเจ็คนี้หลังจากไฝว้กับทาง Universal เรื่องลิขสิทธิ์การจัดจำหน่ายในประเทศจีน แต่จากนั้นบริษัทลงทุนสร้างหนังสัญชาติจีน Golden Title ก็ก้าวเข้ามาแทนที่ นอกจากนี้ มารียง โกตียาร์ ที่เคยเข้าชื่อมาร่วมแสดงนำก็ขอถอนตัวออกไปโดยอ้างว่าเป็นเพราะเหตุผลส่วนตัว แม้จะต้องกัดฟันข้ามผ่านอุปสรรคมามากมาย แต่ในที่สุดพวกเขาก็ได้เดินหน้าโปรเจ็คนี้จริง ๆ แล้ว โดยทางสตูดิโอวางกำหนดฉายคร่าว ๆ เอาไว้ในปีหน้า แต่จะเป็นวันไหน เดือนไหน หรือจะมีอะไรคลาดเคลื่อนอีกหรือไม่เราก็ยังต้องติดตามกันต่อไป หากมีข้อมูลเพิ่มเติมเราจะนำมาอัพเดทให้ทราบกัน
ที่มา: Hollywoodreporter.com