มันไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนักที่ผู้กำกับจะออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อหลังจากหนังล้มเหลวในการทำรายได้บนบ็อกซ์ออฟฟิส แต่ ไซมอน คินเบิร์ก (Simon Kinberg) ผู้กำกับ-เขียนบท X-Men: Dark Phoenix ผลงานเรื่องสุดท้ายที่จะปิดตำนานของเหล่ามิวแทนส์ภายใต้หลังคา Fox เขาไม่ได้ต้องการเวลาหลบไปพักใจ และพร้อมที่จะออกมาเปิดใจให้สัมภาษณ์ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับ The Hollywood Reporter แล้ว

หลังจากเข้าฉายไปได้ 2 สัปดาห์ยอดรายได้ของ Dark Phoenix ยังคงรั้งท้ายตารางเมื่อเทียบกับหนัง X-Men เรื่องก่อน ๆ ปัจจุบัน Dark Phoenix ทำเงินไปได้เพียง 51.7 ล้านเหรียญในอเมริกา กับอีก 152.5 ล้านเหรียญในตลาดต่างประเทศ รวมเป็นยอดรายได้จากทั่วโลกเพียง 204 ล้านเหรียญ จากทุนสร้างกว่า 200 ล้านเหรียญ ซึ่ง คินเบิร์ก ยอมรับว่ามันมีหลาย ๆ ปัจจัยที่ทำให้ Dark Phoenix ล้มเหลว แต่เขาก็ขอน้อมรับความผิดพลาดครั้งนี้ทั้งหมดเอาไว้เอง

"มันเห็นได้ชัดเลยว่าหนังมันไม่สามารถเข้าถึงผู้ชมที่ยังไม่ได้ดูมันได้ แล้วมันก็ไม่สามารถเข้าถึงผู้ชมที่ได้ดูมันแล้วอย่างเพียงพอ ซึ่งนั่นมันเป็นความผิดของผมเอง" คินเบิร์ก กล่าว แต่อย่างไรก็ตามผลตอบรับจาก Dark Phoenix มันก็ไม่ได้สร้างความเจ็บปวดให้ คินเบิร์ก แต่อย่างใด เพราะไม่ว่าเสียงสะท้อนที่ออกมาจะเป็นยังไงตัวเขาเองก็ยังรักหนังเรื่องนี้อยู่ดี "ผมรักที่ได้ทำหนังเรื่องนี้ และผมก็รักทุกคนที่ได้ทำหนังเรื่องนี้ด้วยกันด้วย"

ในช่วงเวลาแห่งความผิดหวัง เมื่อ Dark Phoenix ไม่สามารถทำเงินเปิดตัวได้ตามเป้าที่วางไว้ คินเบิร์ก ก็ยังมีกำลังใจจากเพื่อนร่วมวงการอีกมากมายที่ยังคอยสนับสนุนเขาอยู่ข้างหลัง อาทิ กำลังใจจาก ทิม มิลเลอร์ (Tim Miller) ผู้ที่เคยร่วมงานกันในหนัง Deadpool ภาคแรก คินเบิร์ก เล่าให้ฟังว่า มิลเลอร์ ส่งอีเมลล์มาให้กำลังใจเขาด้วย "เขาเขียนอีเมลล์มาหาผมด้วยความที่เขาเข้าใจความรู้สึกของการทำหนังออกมาสักเรื่องแล้วมันออกมาไม่เวิร์ค เขาเขียนมาว่าผู้ชมจะไปดูหนังที่มันต่างกันออกไป มันอยู่นอกเหนือจากบริบทของช่วงเวลาพิเศษในตอนนี้ ถ้าพวกเขาได้เห็นหลาย ๆ อย่างในหนังพวกเขาจะต้องชื่นชม และนั่นมันก็คือสิ่งที่เขารู้สึกชื่นชมในฐานะแฟนคนหนึ่ง"

ตอนนี้ คินเบิร์ก ต้องจำใจทิ้งแฟรนไชน์ X-Men ไว้เบื้องหลัง เมื่อ Marvel Studios ได้ลิขสิทธิ์ตัวละครเหล่านี้กลับไปครอง แต่เขาจะยังคงกลับไปมีส่วนร่วมในการถ่ายซ่อมหนัง New Mutants ที่จะเข้าฉายในเดือนเมษายน 2020 อยู่ แล้วสัปดาห์หน้าเขาก็จะเริ่มเดินหน้าโปรเจ็คหนัง 355 ผลงานกำกับชิ้นต่อไปของเขาต่อ แม้มันจะถึงเวลาที่เขาต้องอำลาเหล่ามิวเทนส์ที่เดินทางร่วมกับเขามานานนับ 10 ปีแล้วจริง ๆ แต่ คินเบิร์ก ก็บอกว่าตัวละครเหล่านี้จะยังคงอยู่ในใจของตลอดไป "ผมรักตัวละครเหล่านี้ ผมรักโลกเหล่านี้ แล้วผมก็รู้สึกตื่นเต้นมาก ๆ ที่จะได้เห็นสิ่งที่มาร์เวลจะทำกับพวกเขา"

ที่มา: Hollywoodreporter.com