เชื่อมโยงเก่งต้องยกให้มาร์เวลเลยจริง ๆ ขนาดหนังย้อนยุคเปิดตัวฮีโร่หญิงคนใหม่ Captain Marvel ยังเต็มไปด้วยไข่อีสเตอร์ ที่นอกจากจะปะติดปะต่อจักรวาลเข้าด้วยกัน และตอบคำถามคาใจหลาย ๆ เรื่องแล้ว ยังมีจุดเชื่อมโยงน่าสนใจจากฉบับคอมมิคอีกมากมาย สำหรับใครที่ดูแล้วพลาดไปไม่ต้องห่วง เพราะเรามี 13 Easter Eggs มาให้ทุกคนเก็บตกกันแล้ว!

 

*คำเตือน: เนื้อหาหลังจากนี้เต็มไปด้วยการสปอยล์ เหมาะสำหรับผู้ที่รับชมภาพยนตร์มาแล้วเท่านั้น*

 

ครบถ้วนของดียุค 90s

ในยุคดิจิตัลแบบนี้ เป็นเรื่องปกติที่ธุรกิจขายแผ่น CD/DVD/Video ภาพยนตร์และเพลงจะเจ๊งไม่เป็นท่า แต่ Captain Marvel ต้องการใส่กลิ่นอายความเป็นยุค 90 ให้ได้มากที่สุด และร้าน Blockbuster ก็เป็นหนึ่งร้านดังที่ใคร ๆ ต้องนึกถึง โชคดีที่ในอเมริกายังมีร้านขายแผ่นเสียงและวิดีโอเหลือรอดอยู่อีกหนึ่งสาขา ที่เมืองเบน โอเรกอน ทีมงานจึงยกกองไปถ่ายทำที่นั่นจริง ๆ นอกจากนี้ยังชื่อหนังและเพลงที่ปรากฏในภาพยนตร์ก็คือผลงานเด่นในยุคก่อนทั้งนั้น ยกตัวอย่างเช่น เพลง “Connection” ของ Elestica, สแตนดี้หนังเรื่อง “True Lies” นำแสดงโดยอาโนล์ด ชวาร์เซเน็กเกอร์ และหนังนักบินอวกาศ “The Right Stuff” รวมถึงเครื่องมือสื่อสารรุ่นบุกเบิกอย่างเพจเจอร์ด้วย 

 

โปรเจกต์พิกาซัส P.E.G.A.S.U.S รุ่นบุกเบิก

จากหนัง Avengers ที่ผ่านเราได้ยินมาว่าโปรเจกต์ P.E.G.A.S.U.S คือหน่วยงานศึกษาหินเทสเซอแรคของ S.H.E.I.L.D แต่หนัง Captain Marvel พาเราย้อนอดีตไปเรียนรู้ใหม่ว่า แรกเริ่มเดิมที โปรเจกต์นี้เป็นการร่วมมือระหว่างชิลด์ นาซ่า และกองทัพอากาศสหรัฐฯ โดยมี ดร.เวนดี้ ลอว์สัน นักบินในกองทัพแอบนำหินไปสร้างเครื่องบินขับเคลื่อนเร็วกว่าแสง ในส่วนของฉบับคอมมิค P.E.G.A.S.U.S คือชื่อของฐานกองทัพ ย่อมาจาก Potential Energy Group Alternate Sources Unitied States ซึ่งใช้กักขังผู้มีพลังวิเศษด้วย 

 

จากชายกลายเป็นหญิง.. มาร์-เวลล์ ที่รู้จักไม่ใช่แบบนี้หนิ!?

อ้างอิงจากฉบับคอมมิค แครอล แดนเวอร์ส ได้รับพลังวิเศษมาจาก มาร์-เวลล์ (Mar-Vell) ชายชาวเผ่าครีผู้เป็นเมนเทอร์และคนรัก ทำให้ทุกคนเข้าใจว่า จู๊ด ลอว์ จะมารับบทบาทสำคัญนั้น แต่หนัง Captain Marvel กลับลบล้างทุกการคาดเดา เปลี่ยนคาแรคเตอร์ มาร์-เวลล์ เป็นเพศหญิงภายใต้หน้ากากของ ดร.เวนดี้ ลอว์สัน มนุษย์นักบินคนเก่งแห่งกองทัพอากาศสหรัฐ ซึ่งดัดแปลงมาจากตัวละคร ดร.วอลเตอร์ ลอว์สัน นักวิทยาศาสตร์ชายหัวกะทิที่ทำโปรเจกต์ลับสุดยอดให้กับกองทัพสหรัฐฯในฉบับคอมมิค

 

จากกัปตันมาร์เวลในฉบับคอมมิค สู่ลูกสาวเพื่อนสนิทในภาพยนตร์

หลายคนอาจมองข้ามตัวละคร โมนิกา แรมโบ (รับบทโดย อคิรา แอ็คบาร์) ลูกสาวของ มาเรีย แรมโบ เพื่อนสนิทคนเดียวของแครอล แดนเวอร์สไป แต่รู้หรือไม่ว่าในฉบับคอมมิค โมนิก้า เป็นทหารสาวคนแรกที่ได้รับตำแหน่งเป็น ‘กัปตันมาร์เวล’ ก่อนเปลี่ยนไปใช้นามแฝงว่า สเปคตรัม (Sprcetrum) และโฟตอน (Photon) ซึ่งชื่อ โฟตอน ถูกใช้เป็นนามเรียกขานนักบินของมาเรีย แม่แท้ ๆ ของเธอในฉบับภาพยนตร์ และมีสลักชื่อ ‘Photon’ อยู่บนเครื่องบินของมาเรียอีกด้วย ส่วนฉายา “Leautinent Trouble” ของโมนิกานั้นมาจากชื่อที่แครอล แดนเวอร์ส ในฉบับคอมมิคตั้งให้กับ แคธเทอรีน คิท เรนเนอร์ ลูกสาวของ มาริน่า เรนเนอร์ หนึ่งในเพื่อนสนิทของเธอ

 

น้องแมวกูสผู้แย่งซีนทุกวินาที

กูส (Goose) น้องแมวจอมขโมยซีนในฉบับคอมมิคมีชื่อว่า ชิวอี้ (Chewie) เป็นเอเลี่ยนสัตว์เลี้ยงสายพันธุ์ เฟิร์กเคน (Flerken) ตั้งชื่อมาจาก “ชิวเบคคา (Chewbacca)” ตัวละครขนยาวเพื่อนซี้ ฮาน โซโล (Han Solo) จากหนังดัง Star Wars ส่วนชื่อ “กูส” ในฉบับภาพยนตร์ตั้งมาจาก “นิค กูส แบรดชอว์ (Nick Goose Bradshaw)” คู่หูคู่ซี้ของพระเอกในหนังดังเรื่อง Top Gun ซึ่งเป็นนักบินมือโปรของกองทัพเช่นเดียวกับแครอล แดนเวอร์ส น่าประทับใจที่ฉบับหนังไม่ลืมพลังหนวดปลาหมึกของน้องไป

 

รู้จักตัวตน นิค ฟิวรี่ มากกว่าที่เคย

นอกเหนือจากเจ้าหน้าที่หน่วย S.H.E.I.L.D ผู้ก่อตั้งอเวนเจอร์ เราได้รู้ว่าฟิวรี่ มีชื่อเต็มว่า นิค โจเซฟ ฟิวรี่ (เหมือนในคอมมิค) เกิดวันที่ 4 กรกฏาคม ที่ฮันต์สวิลล์ อาลาบาม่า ร่วมรบในสงครามเวียดนาม เป็นสปายมาแล้วทั่วโลก รวมถึงบูดาเปสต์ (เมืองที่แบล็ควิโดว์และฮอว์คอายทำภารกิจในหนัง Avengers ภาคแรก) แถมความจริงยังถูกเปิดเผยอีกว่า แท้จริงแล้วเขาตาบอดเพราะโดนน้องกูสข่วน ไม่ใช่เพราะโดนสะเก็ดระเบิดในสงครามเยี่ยงชายชาติทหารตามที่โม้ไว้ (แต่ในฉบับคอมมิคเฮียแกตาบอดเพราะโดนระเบิดในสงครามจริง ๆ นะ)

 

โรแนนและโคแรธ สองวายร้ายจาก Guadians of the Galaxy

ใครเป็นแฟนคลับของพ่อสตาร์ลอร์ด Guadians of the Galaxy คงคุ้นหน้าคุ้นตาคู่หูหน้าฟ้าจากเผ่าครี โรแนน ผู้กล่าวโทษ (Ronan the Accuser) และโคแรธ ผู้ติดตาม (Korath the Pursuer) กันเป็นอย่างดี เพราะเป็นสองวายร้ายหัวรุนแรงที่ถูกกำจัดด้วยวิธีไร้สาระที่สุดเท่าที่หนังมาร์เวลเคยมีมา แม้ซีนใน Captain Marvel จะน้อยนิดไปหน่อย แต่ก็จัดว่าขำขันเฮฮา สมกับเป็นตัวละครที่มาจากหนังของแก๊งเกรียนการ์เดี้ยนจริง ๆ 

 

เปิดตัวเผ่าพันธุ์สโครล์เป็นครั้งแรกในจักรวาลหนัง MCU

ในขณะที่เผ่าพันธุ์ครีอยู่ในจักรวาลหนังมาร์เวล Marvel Cinematic Universe มาเนิ่นนาน เผ่าพันธุ์เอเลี่ยนแปลงร่างอย่าง สโครลส์ (Skrulls) นั้นเพิ่งได้ปรากฏตัวเป็นครั้งแรกใน Captain Marvel แถมพลิกบทจากหลังมือเป็นหน้ามือ! กลายเป็นกลุ่มเผ่าพันธุ์เอเลี่ยนที่น่าสงสารเพราะสงครามกับเผ่าครีไม่จบไม่สิ้น แถมบ้านที่เคยอบอุ่นอย่าง ดาวทอร์ฟา (Torfa) กลับไม่ปลอดภัยอีกต่อไป เพราะเผ่าครีมักส่งกลุ่มสตาร์ฟอร์ซไปสปายและจ้องจะบุกทำลายตลอดเวลา อย่างที่เห็นในฉากบุกทำลายล้างของทีมยอน-ร็อกก์ (Yon-Rogg) ก่อนแครอลจะถูกจับตัวไป

 

สำหรับฉบับภาพยนตร์นั้นแตกต่างจากภาพจำในฉบับคอมมิคแบบสุดขั้ว เพราะเผ่าครีฉบับคอมมิคขึ้นชื่อเป็นเอเลี่ยนวายร้ายตัวเขียวหัวรุนแรง มุ่งแต่จะทำสงครามกับเผ่าครีจนเดือดร้อนดาวเคราะห์อื่น ๆ รวมถึงโลกมนุษย์ โดยมีนักรบคนสำคัญ ผู้มีชื่อเสียงกระฉ่อนในความเหี้ยมโหดและเก่งกาจนั่นก็คือ ทาลอส ผู้ไม่มีใครโค่นได้ (Talos the Untamed) ตัวละครที่นำมาใช้ตั้งชื่อ ทาลอส ผู้นำเผ่าสโครลส์แสนอ่อนโยนในหนัง (รับบทโดย เบน เมนเดลโซห์น) แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ทาลอสฉบับคอมมิคมีจุดจบที่น่าเวทนายิ่งกว่ามาก หลังจากถูกเผ่าครีจับตัวได้ในสงคราม เขาตัดสินใจฆ่าตัวตายทันทีเพื่อรักษาศักดิ์ศรี เกียรติยศแห่งนักรบ และคำสาบานว่าจะไม่ก้มหัวให้ใคร แต่หลังจากนั้นทาลอสถูกตีตราเป็นสัญลักษณ์แห่งความอับอายขายขี้หน้าของเผ่าสโครลส์ แถมถูกเปลี่ยนชื่อให้ใหม่เป็น ทาลอส ผู้ถูกโค่นล้มได้แล้ว (Talos the Tamed)

 

ทอร์ฟา ดาวแห่งแร่ไวเบรเนียมของเผ่าพันธุสโครลส์

ดาวทอร์ฟา ที่ทีมสตาร์ฟอร์ซของยอน-ล็อกก์ ยกพวกไปบุกในนั้นมีความสำคัญอย่างมากในฉบับคอมมิค นอกจากจะเป็นดาวที่กัปตันมาร์เวลพาเผ่าสโครลส์ไปซ่อนตัวระหว่างทำสงครามกับเผ่าครีแล้ว ดาวทอร์ฟายังเป็นแหล่งของแร่ไวเบรเนี่ยมอีกด้วย แต่แทนที่จะใช้แร่ได้อย่างเสรี ดาวทอร์ฟากลับประสบปัญหามลภาวะเป็นพิษอย่างหนัก เนื่องจากมีเผ่าเอเลี่ยนชื่อว่า เซนติมอลต์ (Sentimault) เข้าบุกพื้นที่และพยายามสกัดแร่ไวเบรเนี่ยมจนพลังวิเศษของมันควบคุมไม่อยู่ พาลทำลายธรรมชาติทุกสิ่งบนดาวดวงนี้ไปทั้งหมด 

 

ก็ไม่แน่ว่าดาวที่กัปตันมาร์เวลพาสโครลส์ไปซ่อนในฉบับภาพยนตร์ต่อไป อาจเป็นดาวที่มีแร่ไวเบรเนียมเหมือนดาวทอร์ฟาในฉบับคอมมิค และเป็นที่มาของดาวตกพร้อมแร่ไวเบรเนี่ยมในเมืองวากานด้า อย่างที่เราเห็นในภาพยนตร์ Black Panther ก็เป็นได้

 

จุดกำเนิดชื่อทีมอเวนเจอร์

เมื่อรู้ว่าลำพังแค่หน่วย S.H.E.I.L.D ที่เป็นมนุษย์ธรรมดาไม่สามารถรับมือเผ่าพันธุ์จากต่างดาวได้ นิค ฟิวรี่ จึงวางแผนตั้งกลุ่มพิทักษ์โลกพิเศษขึ้นมาทันทีโดยใช้ชื่อว่า ‘The Protector Initiative’ แต่เมื่อหันไปเห็นรูปของแครอล แดนเวอร์ส และนามเรียกขานนักบิน บนเครื่องของเธอว่า ‘Avengers’ ชื่อโปรเจกต์ซูเปอร์ฮีโร่กลุ่มใหม่จึงกลายเป็น ‘The Avengers Initiative’ ทันที เห็นอย่างนี้แล้วรู้สึกถึงความเป็นหนึ่งเดียวกันของกัปตันมาร์เวลกับเหล่าอเวนเจอร์เหมือนกันนะ ถึงจะไม่เคยรู้จักกันมาก่อนก็เถอะ! 

 

ไทม์ไลน์เทสเซอแรคสมบูรณ์เป๊ะ

สรุปรวมไทม์ไลน์หินเทสเซอแรคจักรวาล MCU ได้ดังนี้ ก่อนกาลสมัย สเปซสโตน หนึ่งในหกหินอินฟินิตี้ถูกบรรจุไว้ในเทสเซอแรค กล่องลูกบาศก์พลังสีฟ้าและเก็บรักษาไว้ที่โบสถ์แห่งหนึ่งในเมืองทอนสเบิร์ก นอร์เวย์ โดยเทพโอดิน ก่อนถูกหน่วย HYDRA นำโดยเรด สกรัลล์ ขโมย พลังมหาศาลระเบิดส่งเรดสกรัลล์ไปเฝ้าหินโซลสโตนที่ดาววอร์เมียร์ ส่วนเทสเซอแรคจมหายไปในทะเลน้ำแข็งอาร์คติก หลังจากนั้นโฮวาร์ด สตาร์ค (พ่อไอรอนแมน) มาค้นพบส่งให้กับหน่วย SSR ซึ่งยุบมารวมกับหน่วย S.H.E.I.L.D 

 

ถัดมาเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นใน Captain Marvel และฉากท้ายเครดิต คือมาร์-เวลล์ชาวครีแฝงตัวมาร่วมโปรเจกต์พิคาซัส นำไปสร้างยานความเร็วกว่าแสงเพื่อช่วยชาวสโครลล์ แต่หินระเบิดอีกครั้งแล้วส่งพลังไปยังร่างของแครอล แดนเวอรส์ ก่อนกูสจะกลืนกินเข้าไปแล้วคายออกมาคืนให้กับนิค ฟิวรี่อีกครั้ง (เชื่อมโยงกับฉากท้ายเครดิตของ Thor ที่ฟิวรี่นำหินไปให้ดร. เซลวิควิจัยสร้างอาวุธ) ตามด้วยสงครามวุ่นวายใน Avengers โลกิมาช่วงชิง ธอร์นำหินกลับไปแอสการ์ดซ๋อมสะพานไบฟรอส แต่เมื่อแอสการ์ดล่มสลายโลกิก็ชิงหินกลับมาอีกครั้ง ก่อนส่งมอบให้กับธานอสผู้บีบเทสเซอแรคให้แตกสลายแล้วนำหินใส่ในถุงมืออินฟินิตี้ (จากภาค Infinity War) 

 

เคลลี ซู เดอคอนนิค ร่วมแจมในหนัง

เพราะ Captain Marvel เวอร์ชั่นนี้อ้างอิงจากคอมมิคฉบับ เคลลี ซู เดอคอนนิค นักเขียนสาวเลยขอแจมในภาพยนตร์สักนิด โดยนั่งอยู่ในฉากบนขบวนรถไฟ ขณะแครอลไล่ตามสโครลส์ โชคดีที่แฟน ๆ สังเกตได้ไม่ยากนัก ด้วยสีผมและทรงแว่นสุดเก๋อันเป็นเอกลักษณ์ประจำตัวของเธอ 

 

ตำนานแห่งจักรวาลมาร์เวล คุณปู่สแตน ลี ผู้เป็นที่รัก

มีหนังมาร์เวลที่ไหน ต้องมีคุณปู่สแตน ลี (Stan Lee) ที่นั่น! และ Captain Marvel เองก็ไม่ปล่อยให้แฟน ๆ เล่นเกมซ่อนหานาน ส่งคุณปู่ผู้เป็นตำนานแห่งจักรวาลมาร์เวลออกมาตั้งแต่โลโก้ Marvel เรียกน้ำตากันตั้งแต่ต้นเรื่อง และปรากฏตัวเป็นครั้งที่สองขณะแครอล แดนเวอร์ส กำลังมองหาเอเลี่ยนเผ่าสโครลส์บนขบวนรถไฟ ซึ่งคุณปู่ของเรากำลังนั่งอ่านบทภาพยนตร์ “Mallrats” ที่เจ้าตัวไปร่วมแจมเมื่อปี 1995 พร้อมฝึกพูดว่า “ไว้ใจฉันสิ ผู้มีศรัทธาอันกล้าแกร่ง (Trust me, True Believer)” ที่เป็นประโยคติดหูของตน ตอนที่ให้คำปรึกษาเรื่องความรักกับพระเอกในหนังเรื่อง Mallrats นั่นเอง

 

ที่มา: denofgeek.com, bustle.com