- ชำนาญเรื่องภาษาตัวจริง: วิกโก้ มอร์เทนเซน สามารถพูดได้ถึง 8 ภาษาทั้ง อังกฤษ, สเปน, เดนมาร์ก, ฝรั่งเศส, กาตาลา, สวีเดน, อิตาลี และนอร์เวย์
- และยังเก่งเรื่องงานเขียนด้วย: ก่อนหน้าที่เขาจะกลายมาเป็นดาราที่เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก เวลาว่างเขาชอบถ่ายภาพ, วาดภาพ แต่ผลงานสำคัญเลยคือการที่เขาได้เขียนและตีพิมพ์หนังสือเล่มแรกซึ่งเป็นบทกวีที่ชื่อว่า "Ten Last Night" และหลังจากนั้นเขายังได้ออกหนังสืออีก 15 เล่ม และเปิดสำนักพิมพ์ของตัวเองชื่อ Perceval Press
- เป็นนักกีฬาตั้งแต่ยังเด็ก: ชื่นชอบการเล่นฟุตบอล, ฮอกกี้น้ำแข็ง และเบสบอล เขาเป็นแฟนตัวยงของทีม มอนทรีออล แคนาเดี้ยนส์ จนมักจะชอบใส่เสื้อทีมนี้เวลาออกไปเที่ยวอยู่เสมอ
- เขาเกือบจะไม่ได้เล่น "The Lord of the Rings" แล้วด้วยซ้ำ: แน่นอนว่าหนังเรื่องดังกล่าวคือผลงานที่แจ้งเกิดชื่อของ วิกโก้ มอร์เทนเซน ไปทั่วโลก แต่จริง ๆ แล้ววิกโก้เพิ่งจะได้ถูกเลือกให้มารับบท "อารากอร์น" เพียงไม่กี่วันเท่านั้นก่อนเปิดกล้องถ่ายทำ แทนที่นักแสดงเดิมอย่าง สจ๊วต ทาวน์เซนด์ ที่ผู้กำกับ ปีเตอร์ แจ็คสัน มองว่ายังหนุ่มเกินไป ซึ่งตอนแรกวิกโก้ยังลังเลเรื่องการตอบตกลงอยู่ แต่สุดท้ายจึงตัดสินใจรับบทอันโด่งดังนี้เพราะลูกชายเรียกร้องให้เขาลองเล่นบทนี้ดู
- ขึ้นชื่อเรื่องความทุ่มเทเพื่อเตรียมตัวรับบท: ตอนเล่น Eastern Promises วิกโก้ไม่ลบรอยสักและแทบจะไม่เปลี่ยนชุดเลยขณะปิดกองถ่ายทำในแต่ละวัน เขาออกไปเที่ยวเมืองด้วยลุคคาแรคเตอร์นั้น จนคนที่ผ่านไปมาถึงขั้นหวาดกลัวเพราะนึกว่าเขาเป็นมาเฟียอาชญากรรัสเซีย, ก่อนถ่ายทำ The Road เขาทำให้ตัวเองผอมโซ ไว้หนวดเครายาวแทบกลายเป็นคนละคน จนเคยถูกไล่ออกจากร้านในเมืองพิตต์สเบิร์ก เพราะนึกว่าเป็นคนไร้บ้าน
และใน "Green Book" ด้วยเช่นกัน เพื่อรับบทเป็น "โทนี่ ลิป" คาแรคเตอร์ที่มีตัวตนอยู่จริง เป็นคนขับรถชาวอิตาเลียนอดีตขาใหญ่การ์ดเฝ้าผับที่ได้ออกเดินทางร่วมกับศิลปินนักเปียโนผิวสี "ดร. ดอน เชอร์ลีย์" (มาเฮอร์ชาลา อาลี) สู่ตอนใต้อเมริกาก้าวข้ามเส้นแบ่งพรมแดนของสีผิวและสร้างหนึ่งมิตรภาพ วิกโก้ต้องย้อนดูฟุตเทจจากเทปเก่า ๆ ของโทนี่, พูดคุยกับคนเก่าคนแก่ในย่านบรองซ์ที่โทนี่เคยใช้ชีวิตอยู่, ใส่เสื้อผ้าแบบยุค 60 เพื่อให้อินกับคาแรคเตอร์, เพิ่มน้ำหนัก 30 ปอนด์ จนท้ายที่สุด "นิค วัลเลลองก้า" ลูกชายคนโตของโทนี่ ลิป ยังได้เอ่ยว่า การแสดงของวิกโก้นั้นสมจริงมากทั้ง นิสัย, สำเนียง, วิธีคีบบุหรี่ เหมือนเป๊ะราวกับได้เห็นพ่อของตัวเองกลับมาเกิดใหม่
- ฝีมือในสายหนังรางวัลโดดเด่นไม่แพ้กัน: เข้าชิงออสการ์สาขานำชายมาแล้ว 2 ครั้งจาก Eastern Promises, Captain Fantastic เข้าชิงลูกโลกทองคำถึง 3 ครั้งจาก Eastern Promises, Captain Fantastic ในสาขานำชาย และ A Dangerous Method ในสาขาสมทบชาย อีกทั้งในผลงานล่าสุดอย่าง "Green Book" ยังส่งให้วิกโก้คว้ารางวัลในสายนักแสดงนำจากเวที Boston Film Festival, National Board of Review มาแล้ว และได้รับเสนอชื่อเข้าชิงในเวทีอื่น ๆ อยู่อีก เช่น Washington Film D.C. Area Film Critics, Satellite Awards กลายเป็นอีกหนึ่งตัวเก็งนักแสดงมือรางวัลประจำปีนี้
คอหนังเมืองไทยเตรียมรอคอยพิสูจน์ความยอดเยี่ยมของภาพยนตร์ตัวเก็งรางวัล "Green Book กรีนบุ๊ค" ผลงานที่จะมาจุดพลังใจ เปิดมุมมองใหม่ สร้างเสียงหัวเราะเปื้อนน้ำตารับปีใหม่ เปิดรอบพิเศษ 27 ธันวาคมนี้ รอบ 2 ทุ่มเป็นต้นไป ฉายจริง 3 มกราคม 2019 ในโรงภาพยนตร์