สวัสดีครับ มาเจอกันอีกแล้วครับกับ “นัวฟิล์ม” วันนี้จะมาแนะนำภาพยนตร์ที่กำลังจะมีภาคต่อมาให้ติดตามชมกันในอีกไม่กี่วันนี้ นั้นก็คือ Dawn of the Planet of the Apes : รุ่งอรุณแห่งอาณาจักรพิภพวานร ที่จะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์วันที่
10 กรกฎาคม 2557 แต่ก่อนที่เราจะไปชมภาพยนตร์เรื่องนี้เรามารื้อฟื้นความทรงจำเกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่อง
Rise of the planet of the apes : กำเนิดพิภพวานร ที่เคยสร้างความประทับใจให้กับผู้ชมมาแล้วมากมาย

เนื้อเรื่องย่อ
ภาพยนตร์เรื่อง RISE OF THE PLANET OF THE APES (กำเนิดพิภพวานร) เป็นการผสมผสานของการบอกเล่าเรื่องราวในจินตนาการ กับการก้าวกระโดดของวิชวลเอ็ฟเฟ็กต์ขั้นต่อไป สำหรับภาพยนตร์ประสบการณ์ของภาพยนตร์ที่มีอารมณ์ความรู้สึกและฉากแอ็คชั่น ที่ไม่เหมือนภาพยนตร์เรื่องไหนมาก่อน โดยเป็นการเริ่มต้นจากความถือดีของมนุษย์ซึ่งเป็นชนวนเหตุการณ์ต่างๆ ที่นำไปสู่ความฉลาดของฝูงวานร และเป็นการท้าทายแห่งดินแดนของเราซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่มีอำนาจในการครองโลก ซีซ่าเป็นวานรอัจฉริยะตัวแรกที่ถูกมนุษย์ล่อลวง และลุกขึ้นมานำเผ่าพันธุ์ของเขาเพื่อแข่งขันกับอิสรภาพอย่างน่าตื่นเต้น และเผชิญหน้ากับมนุษยชาติในท้ายที่สุด สำหรับตัวละครซีซ่าร์ บริษัท WETA ทีมวิชวลเอ็ฟเฟ็กต์เบื้องหลังภาพยนตร์เรื่อง Avatar ที่คว้ารางวัล Oscar ได้สร้างวานรขึ้นมาด้วยเทคนิค CGI ทำให้เกิดการแสดงอารมณ์และความฉลาดที่น่าตื่นเต้นอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน 
 

นักแสดง
เจมส์ ฟรังโก้ ...วิล ร็อดแมน
ฟรีดา พินโต ...แคโรลีน
จอห์น ลิธโกว์ ...ชาร์ลส ร็อดแมน
ไบรอัน ค็อกซ์ ...จอห์น แลนดัน
ทอม เฟลตัน ...ดอดจ์
แอนดี้ เซอร์คิส ...ซีซาร์

การกำกับ
ผลงานจาก ผู้กำกับ  รูเพิร์ท ไวแอ็ตต์

ภาพรวมภาพยนตร์

ภาพยนตร์  Rise of the planet of the apes : กำเนิดพิภพวานร เป็นภาพยนตร์ไลฟ์ แอ๊คชั่นที่เล่าเรื่องราวจากมุมมองของลิงที่มีมีลักษณะคล้ายคลึงกับมนุษย์ โดยถ่ายทอดความคิด อารมณ์ความรู้สึกของลิง และใช้ปมของการกักขัง การโหยหาความรัก อิสรภาพเป็นตัวดำเนินเรื่องซึ่งทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ดูน่าสนใจในมุมมองที่แตกต่างจากภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ
 

สำหรับเนื้อหาของภาพยนตร์เรื่อง Rise of the planet of the apes : กำเนิดพิภพวานร มีการดำเนินเรื่องอย่างไหลลื่น ไม่น่าเบื่อ ไม่ยืดเยื้อจนเกินไป เล่าที่มาที่ไปของเจ้าตัวซีซาร์ได้อย่างดี มีการดำเนินเรื่องอย่างมีที่มาที่ไป มีเหตุผล ของแต่ละตัวละคร และสิ่งที่สำคัญที่สุดของภาพยนตร์เรื่องนี้ที่ทำให้เราประทับใจนั้นก็คือตัวละครของลิงวานรในทุกๆตัว ที่มีการแสดงสีหน้าอารมณ์ความรู้สึกได้อย่างลึกซึ่งโดยที่ไม่มีบทพูดเราก็สามารถเข้าใจในความรู้สึกของพวกมันได้
 

รวมถึงมีการใช้สัญญะในภาพยนตร์ตลอดทั้งเรื่องไม่ว่าจะเป็น ปลอกคอ กรงขัง ที่สื่อให้เห็นถึงการกักขัง ความไม่มีอิสรภาพ ที่มนุษย์ปฏิบัติต่อสัตว์เลี้ยง ซึ่งสัตว์เหล่านี่มันก็ต้องการอิสรภาพเหมือนกับซีซาร์ที่คอยมองผ่านออกไปนอกหน้าต่างแสดงให้เราเห็นว่ามันอยากออกไปสู่โลกภายนอกมากกว่าอยู่แต่ในบ้าน แต่ก็ทำไม่ได้เพราะถ้ามันออกไปก็จะเจอแต่คนรังเกียจและรังแกมัน
 

นอกจากเนื้อเรื่องที่ดำเนินเรื่องได้ดีและลงตัวสิ่งที่ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้สมบูรณ์แบบนั้นก็คือ CG ในการสร้างลิง สร้างฉากต่างๆ มันเนียนและเหมือนจริงมากถึงแม้จะมีฉากสุดท้ายที่ผิดพลาดก็ตาม แต่โดยรวมภาพยนตร์มีการใช้ CG ได้อย่างแนบเนียน ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบตัววานร รวมถึงการแสดงสีหน้าและอารมณ์ ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ครบอรรถรส
 

ทิ้งท้ายไว้หน่อย

สัตว์ทุกตัวล้วนแล้วต้องการอิสรภาพเหมือนกับมนุษย์ ดังนั้นเราควรให้อิสรภาพกับมันเหมือนกับที่ตัวเรานั้นต้องการ
 

นัวฟิล์ม