แม้กระแสของภาพยนตร์เรื่อง Timeline จดหมาย ความทรงจำ ที่ เต้ย จรินทร์พร และ เจมส์ จิรายุ นำแสดง จะแรงแซงทางโค้งใครต่อใครต่างพูดถึง แต่พอลงจอฉายจริง 2 สัปดาห์ กลับกวาดรายได้ไปเพียง 35 ล้านบาทเท่านั้น ซึ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ อุ๋ย นนทรีย์ นิมิบุตร ผู้กำกับคนดัง เผยอย่างตรงไปตรงมาว่า ไม่ได้ซีเรียสกับเรื่องรายได้

กระแสตอบรับจากหนังไทม์ไลน์หลังจากที่บอกว่าไม่ถนัดทำหนังแนวนี้
อุ๋ย : ด้วยวัยวุฒิและประสบการณ์ เรามองเห็นอะไรรอบๆ ตัวเรามามากมาย พอวันนึงเรารู้สึกคนขาดหายจากความรัก เราเอาประสบการณ์จากคนอื่นที่เราประสพมาไปเติม และทำยังไงให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ไปจับใจผู้ชมทุกกลุ่มได้ ผมดีใจมากนะที่หลายคนไม่ได้ไปดูหนังในโรงหนังมานานมากแล้ว ซึ่งเขารู้สึกว่าเขาไม่มีหนังสำหรับตัวเขาเองดู ไม่ได้ทำหนังเพื่อเขา แต่วันนี้เขามีหนังของเขาแล้วสำหรับคนกลุ่มนี้ เวลาเขาชวนกันไปดูหนังก็น่ารักมาก นัดกันไปกินข้าวและไปดูหนังด้วยกัน เย็นก็มาปาร์ตี้ ทุกคนก็ส่งรูปมาในไทม์ไลน์เฟซบุ๊คของผมแล้วก็รายงานสถานการณ์ว่าไปดูมาแล้วรู้สึกยังไงบ้าง เป็นเรื่องที่น่าดีใจมาก ฟังทีไรน้ำตาจะไหล หายเหนื่อยครับ จากที่หลายคนห่วงว่านนทรีย์จะทำหนังรักเป็นเหรอ ก็ไม่ได้บอกว่าเป็นนะ แต่บังเอิญว่าผมอยากจะพูดแล้วไปตรงกับสิ่งที่เขาอยากจะฟังพอดีก็เลยกลายเป็นเรื่องเดียวกัน ตอนนี้ก็มีคนทยอยออกมาดู ถ่ายรูปมาให้ดูเรื่อยๆ

หลายเสียงชื่นชม เต้ย ว่าเล่นดีมาก
เต้ย : ขอบคุณค่ะ ต้องขอบคุณพี่อุ๋ยด้วยที่ให้โอกาสมาเล่น ตอนนี้ทุกคนไม่เรียกเต้ยแล้ว เรียกว่าจูนกันหมด ทั้งในอินสตาแกรมด้วย ถือว่าประสบความสำเร็จสำหรับตัวเต้ย การที่คนดูดูแล้วอินกับตัวละคนแล้วเรียกเราเป็นตัวละครนั้นก็ดีใจค่ะ

อะไรที่ทำให้คนอินได้มากขนาดนี้
เต้ย : เต้ยว่าบทมากกว่าค่ะ จะมีการเล่าเรื่องเกี่ยวกับตัวละครตัวนี้ พอถึงจุดนึงแล้วก็ทำให้คนเห็นค่าในบางอย่าง ก็เลยอินกับตัวละครของเต้ย
อุ๋ย : ด้วยบทภาพยนตร์ที่เราตั้งใจตั้งแต่แรก ที่เราจะให้เห็นวิธีการส่งมอบความรักให้แก่กัน ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบไหน เราก็พยายามจะให้มันหลากหลายทั้งในเรื่องของแม่และลูก แฟน วัยรุ่น หนุ่มสาว มันมีความรักซ่อนอยู่ในนั้นหมดเลย และนี่แหละที่ทำให้มันเข้าไปจับใจคนดู มีผู้ชายหลายคนที่บอกว่าไม่กล้าไปดูหนังเพราะกลัวจะร้องไห้เสียฟอร์ม ผมว่าบางครั้งที่เราดูอะไรที่อิ่มเอิบและปิติใจ การร้องไห้ไม่ใช่เรื่องเลวร้าย บางครั้งผู้ชายก็เก็บไว้เยอะเกินไปนะ การร้องไห้มันแสดงว่าเรายังเป็นมนุษย์อยู่ มีความรู้สึก อ่อนไหวกับสิ่งต่างๆ กับหนังเรื่องนี้มันไม่ได้ร้องไห้เพราะความเศร้านะ สำหรับผมร้องไป 30 กว่ารอบ ผมอิ่มเอิบที่เห็นความรักแม่กับลูก หนุ่มสาวที่รักกันจริงๆมันก็เหมือนเติมเต็มหัวใจผมจริงๆ

เรื่องของรายได้
อุ๋ย : ไล่ขึ้นมาเรื่อยๆ ไม่ได้หวือหวาเหมือนหนังต่างประเทศ เมื่อวานก่อนรายได้ก็แตะอยู่ 35 ล้าน ที่ดีใจรายได้ต่อวันมันก็อยู่ในระดับที่น่ายินดีทุกวัน ใจผมไม่ได้กำหนดว่าต้องได้เท่าไหร่ แต่อยากให้หนังได้อยู่นานๆ เพื่อให้คนที่ยังไม่ได้ดูออกมาดูกัน
เต้ย : มีหลายคนที่บอกเต้ยว่าอยากดูแต่ว่ายังไม่ว่างสักที เขาก็ยังรอดูกันอยู่

กระแสแรงมากแต่หนังไม่ค่อยทำเงิน
อุ๋ย : เรื่องรายได้ผมไม่ได้กังวลแต่อยากให้ทุกคนมอบความรักให้จริงๆ เมื่อสำเร็จไปแล้ว ผมว่าเรื่องรายได้เท่าไหร่ก็ได้ครับ ไม่ได้เกี่ยง เท่าที่ทราบรายได้จากต่างจังหวัดดีมากกกว่ากรุงเทพฯ อาจจะเป็นเพราะไม่มีเหตุการณ์บ้านเมือง และคนต่างจังหวัดจะอินกับเรื่องราวมากกว่าคนกรุงเทพฯ

เรียบเรียงข้อมูลจาก Rakdara.net