สำหรับเฮนรี่ คาวิลล์ (Henry Cavill) การได้มาร่วมแสดงใน Mission: Impossible – Fallout มันถือเป็นการเปิดโอกาสให้เขาได้ทำในสิ่งที่เขาไม่ได้ทำในฐานะซูเปอร์แมน
"ผมรักที่ได้เล่นเป็นซูเปอร์แมน แต่เขาไม่ได้ให้ความรู้สึกแบบเดียวกับสิ่งที่เราทำโดยธรรมชาติ" คาวิลล์เผย "คุณจะไม่สามารถแสดงปฏิกิริยาโต้ตอบต่อโลกในแบบเดียวกันกับที่มนุษย์ธรรมดา ๆ ควรจะเป็นได้ ดังนั้นสำหรับผมการได้มาทำ Fallout มันเลยหมายถึงว่าผมน่าจะสามารถแสดงเป็นมนุษย์คนนึงได้อีกครั้งในท้ายที่สุด ปฏิกิริยาโต้ตอบธรรมดา ๆ ต่อสิ่งต่าง ๆ ที่มันธรรมดา ๆ มันเป็นเรื่องที่ได้รับการอนุญาต"
ในทางกลับกันตัวละครของเขาใน Fallout ก็ไม่ได้เป็นมนุษย์ที่ใช้ชีวิตอย่างคนธรรมดา ๆ ทั่วไปซะทีเดียว ตัวละครออกัสต์ วอล์คเกอร์ ของคาวิลล์ เป็นสายลับซีไอเอ ที่เปรียบได้กับเครื่องมือสังหารชั้นโหด "เขาเป็นพวกขวานผ่าซากประเภทที่มีความบอบช้ำจากการโดนทำร้าย เขาฆ่าทุกคนเมื่อมีโอกาสโดยไม่ต้องมีคำถามหรือคำตอบใด ๆ เลย ไม่มีพยาน ไม่มีการถูกตั้งคำถาม แล้วงานมันก็จบ"
ใน Fallout ตัวละครวอล์คเกอร์ของคาวิลล์ ต้องโคจรมาร่วมมือกับสุดยอดสายลับอีธาน ฮันท์ ของทอม ครูซ (Tom Cruise) ในภารกิจที่เป็นไปไม่ได้ครั้งสุดท้ายของเขา ทั้ง ๆ ที่สำหรับวอล์คเกอร์แล้วการฆ่ามันหมายถึงการจบ ในขณะที่ฮันท์นั้นมีแนวทางที่ต่างออกไปโดยสิ้นเชิง "อีธานเขาเชื่อว่าไม่ว่าอะไรก็ตามแต่ที่วอล์คเกอร์กำลังทำอยู่ นั่นมันไม่ได้เป็นการช่วยอะไรเลย อีธาน ฮันท์เขาเป็นฮีโร่ เป็นชายที่ทำให้ทุกคนมั่นใจว่าพวกเขาต้องรอด ส่วนวอล์คเกอร์เขาก็คิดว่าแนวทางที่อีธานใช้ปฏิบัติงานให้ลุล่วงท้ายที่สุดแล้วมันคือการเพิ่มภัยคุกคามเข้ามาสู่ภารกิจ แล้วมันก็เพิ่มภัยคุกคามเข้ามาสู่ผลประโยชน์ที่ใหญ่ยิ่งกว่าด้วย"
นอกจากความแตกต่างระหว่างวอล์คเกอร์กับฮันท์ที่คุณจะได้พบใน Fallout แล้ว มันก็ยังมีความแตกต่างระหว่างวอล์คเกอร์กับซูเปอร์แมนที่แฟน ๆ ยังลืมไม่ลงอีกด้วย สิ่งนั้นก็คือหนวดอันเลื่องลือของคาวิลล์ที่ต้องใช้ CGI เข้ามาช่วยลบตอนถ่ายซ่อม Justice League คาวิลล์เผยว่าเมื่อลองมองย้อนกลับไปถึงแม้หนวดของเขาจะก่อปัญหา แต่เขาก็ยังคงสุขใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ดี "ถ้าการที่ผมปลูกหนวดแบบนั้น มันจะเป็นหนวดที่เปลี่ยนแปลงโลก ผมก็ดีใจที่มันเป็นแบบนั้นนะ ผมไว้หนวดนั้นมาเป็นปี ผมได้เรียนรู้ที่จะรักมัน และตอนนี้ผมก็คิดถึงมัน ผมดีใจที่มันได้รับความสนใจจากสื่อ และทุก ๆ อย่าง เพราะถ้าผมคิดจะปลูกหนวดอีกครั้งอย่างที่เคย ผมก็สามารถมองย้อนกลับไป แล้วก็รู้ว่าสามารถหามันได้มากมายหลายหนทางทั้งวีดีโอ มีม แล้วก็โพสทางอินสตาแกรมต่าง ๆ ไม่ว่าอะไรก็ตามแต่มันก็คงเตือนให้ผมนึกถึงว่าผลมันเป็นยังไง" จากนั้นคาวิลล์ก็หยอดมุขทิ้งท้ายว่า "หวังเป็นอย่างยิ่งว่าสักวันหนึ่งผมจะสามารถโชว์มันให้หลาน ๆ ของผมได้เห็น"
Mission: Impossible – Fallout พร้อมฉาย 26 กรกฎาคมนี้
ที่มา: Ew.com